ในวันนี้ Facebook ได้สานต่อทั้งการลงทุนและสนับสนุนชาวไทยที่ขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้วยการประกาศเปิดตัวโครงการ Community Accelerator โครงการที่มีระยะเวลา 6 เดือน ที่จัดฝึกอบรม ให้คำแนะนำ และมอบเงินทุน เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้นำชุมชนในการก่อตั้ง สร้างการเติบโต และรักษาชุมชนที่มีความสำคัญและสร้างประโยชน์ในระยะยาว โดยโครงการดังกล่าวได้เปิดรับสมัครแล้ววันนี้

ผู้นำชุมชนที่ได้รับการคัดเลือกจะใช้เวลา 3 เดือนในการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ โค้ช และหลักสูตรที่ถูกปรับให้เหมาะสมกับพวกเขา เพื่อสร้างแผนในการขยายชุมชนให้เติบโตและบรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้ จากนั้น ผู้นำชุมชนที่ได้รับการคัดเลือกดังกล่าวจะใช้เวลาอีก 3 เดือนต่อมาในการปรับปรุงและดำเนินการตามแผนที่วางไว้ โดยผู้นำชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ Community Accelerator จะได้รับเงินทุน การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง และทีมงานเฉพาะที่จะคอยให้ความช่วยเหลือพวกเขาตลอดโครงการ

ด้วยงบประมาณจำนวนสูงสุดถึง 93 ล้านบาท (หรือ 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) จะถูกมอบให้กับผู้เข้าร่วมโครงการสูงสุดถึง 80 โครงการทั่วประเทศไทย อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และฟิลิปปินส์ โดย Facebook สนับสนุนให้ใครก็ตามที่เป็นกลุ่มชุมชนที่มีการรวมตัวกันอย่างเป็นรูปธรรมและทำงานเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวก มีความพร้อมที่จะขยายการเติบโตของชุมชนด้วยการใช้แอปพลิเคชันในเครือของ Facebook มีเวลาและพลังความมุ่งมั่นที่จะทุ่มเทให้กับโครงการนี้ สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการที่นี่ ทั้งนี้ กลุ่มชุมชนหรือผู้นำที่สนใจเข้าร่วมสมัครที่ปัจจุบันยังไม่มีเพจ กลุ่ม หรือการใช้ผลิตภัณฑ์หนึ่งๆ ของ Facebook มาก่อน ก็ยังมีสิทธิ์ที่จะสมัครเข้าร่วมโครงการเช่นเดียวกัน

เกรซ แคลปแฮม หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรและโครงการเพื่อชุมชนประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค Facebook กล่าวว่า “ผู้นำชุมชนในประเทศไทยมักบอกกับพวกเราอยู่บ่อยครั้งว่าส่วนหนึ่งของความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่พวกเขาต้องเผชิญคือความขาดแคลนของการเข้าถึง การฝึกอบรม และเงินทุน เรายินดีที่ได้สานต่อการลงทุนและการสนับสนุนให้กับพวกเขาผ่านโครงการ Community Accelerator ในปีที่ผ่านมา ผู้เข้าร่วมโครงการ Facebook Community Leadership Program ได้สร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับผู้คนจำนวนกว่า 580,000 ชีวิตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคผ่านกิจกรรมต่างๆ ในประเทศไทย คุณฉัตรชัย อภิบาลพูนผลจากชุมชน Run2gether ได้จัดงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งที่ชุมชนของพวกเขาเคยมี โดยมีนักวิ่งกว่า 2,000 คนเดินทางมาเข้าร่วมงานดังกล่าว นอกจากนี้ ชุมชน Run2gether ยังสามารถขยายการเติบโตของชุมชนไปยัง 4 จังหวัด ทำให้สามารถเข้าถึงนักวิ่งได้อีกกว่า 700 คน”

โครงการ Community Accelerator เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Facebook Community Leadership โครงการระดับโลกที่ลงทุนเพื่อให้การสนับสนุนผู้คนที่มีบทบาทในการสร้างชุมชน กิจกรรมของโครงการยังรวมถึง Learning Labs ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ดูแลกลุ่มต่างๆ มารวมตัวกันในชั้นเรียนดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ร่วมกันอย่างเป็นระบบ กลุ่ม Power Admin โดยมีผู้นำชุมชนมากกว่า 40,000 คนมารวมตัวกันเพื่อแบ่งปันคำแนะนำให้กันและกัน และเชื่อมต่อกับ Facebook เพื่อทดสอบฟีเจอร์ใหม่ๆ และให้คำติชม และ Community Hub ซึ่งเป็นที่ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงการให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการได้

โครงการ Community Accelerator มีวิวัฒนาการมาจากโครงการ Fellowship ของ Facebook ที่ให้การสนับสนุนผู้นำชุมชนจำนวน 115 คนจากทั่วโลก โดยรวมแล้ว ผู้นำชุมชนเหล่านี้ได้รายงานว่าโครงการต่างๆ ของพวกเขาได้สร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับผู้คนมากกว่า 1.9 ล้านชีวิต ผ่านการสนับสนุนชุมชนบนโลกออนไลน์ การใช้ทรัพยากรที่เป็นประโยชน์ และกิจกรรมต่างๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้เพราะการสนับสนุนของโครงการ โดยมีผู้คนมากกว่า 200,000 คนจากกว่า 50 ประเทศได้เดินทางมาเข้าร่วมในกิจกรรมต่างๆ ซึ่งมีการวางแผนจัดเตรียมไว้ ภายในพื้นที่ที่ปลอดภัย และได้รับประสบการณ์สร้างสรรค์ต่างๆ ที่ชุมชนจัดขึ้น โดยมีถึงร้อยละ 88 ของผู้ที่เข้าร่วมโครงการรายงานว่าพวกเขาได้นำสิ่งที่ได้เรียนรู้จากโครงการไปประยุกต์ใช้กับชุมชนของพวกเขา

คุณฉัตรชัย อภิบาลพูนผล ผู้ก่อตั้งชุมชน Run2gether หนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการ Fellowship ดังกล่าว และได้รับเลือกให้เข้าร่วมโครงการในฐานะผู้นำชุมชนประเภท fellowship ในปี พ.ศ. 2561 จากการทำงานด้านชุมชนที่ส่งเสริมความเท่าเทียมและการอยู่ร่วมกันของผู้พิการและผู้ไม่พิการผ่านกิจกรรมการวิ่ง โดยโครงการได้ช่วยให้ชุมชน Run2gether ประสบความสำเร็จในการขยายการดำเนินงานของชุมชนจาก 4 พื้นที่ เป็น 10 พื้นที่ ส่งผลให้มีสมาชิกเพิ่มขึ้น รวมถึงสมาชิกใหม่ที่เป็นนักวิ่งผู้พิการจำนวน 200 คน และนักวิ่งอาสาสมัครหรือไกด์รันเนอร์เพิ่มอีก 500 คน ทั้งยังช่วยขับเคลื่อนการอยู่ร่วมกันของผู้พิการและไม่พิการในวงการวิ่งมากยิ่งขึ้น

คุณฉัตรชัยกล่าวว่า “การได้เข้าร่วมโครงการ Facebook Community Leadership Program ทำให้ผมตระหนักถึงพลังของชุมชน และเชื่อมั่นว่าการสร้างชุมชนเป็นวิธีการที่สามารถพัฒนาโลกของเราให้ดีขึ้นได้อย่างแท้จริง นอกจากผมจะได้เรียนรู้วิธีการสร้าง การบริหารชุมชน และการเป็นผู้นำชุมชนจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญของ Facebook แล้ว ผมยังมีโอกาสได้พบปะผู้นำชุมชนอีกกว่าร้อยคนจากหลายประเทศทั่วโลก ตั้งแต่ชุมชนที่มีสมาชิกหลักพันคนที่สร้างผลกระทบทางสังคมสูง จนไปถึงชุมชนที่มีสมาชิกเป็นหลักล้านคนที่สามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงระดับประเทศได้ การได้แลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับวิธีการจัดการชุมชนกับผู้นำชุมชนเหล่านี้เป็นประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาจากโครงการไหนได้อีก”

การประกาศเปิดตัวโครงการในวันนี้ยังเกิดขึ้นพร้อมกับการเปิดตัวเครื่องมือใหม่ของ Facebook เพื่อช่วยให้ผู้นำชุมชนสามารถขยายการเติบโตของกลุ่มและจัดการการสนทนาของพวกเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงการพัฒนาวิธีการที่ผู้ดูแลกลุ่มสามารถจัดการกับคำขอเป็นสมาชิกใหม่ เช่น คำถามแบบหลายตัวเลือกและคำถามแบบมีช่องกาเครื่องหมายให้เลือกตอบได้หลายข้อสำหรับการตอบคำถามเพื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิก การอนุมัติคำขอเป็นสมาชิกใหม่โดยอัตโนมัติตามข้อกำหนดต่างๆ และตัวกรองเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่มีโอกาสเป็นสมาชิก เป็นต้น

เครื่องมือใหม่นี้ยังรวมถึงการควบคุมเนื้อหาเพื่อช่วยให้ผู้ดูแลเห็นโพสต์สำคัญและค้นหาเนื้อหาบางอย่างได้ง่ายขึ้น เช่น การแจ้งเตือนโดยใช้คีย์เวิร์ดซึ่งช่วยให้ผู้ดูแลสามารถสร้างรายการของคำและวลีที่กำหนดเองขึ้นมาได้ เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อคำเหล่านั้นปรากฏขึ้นในกลุ่มและหัวข้อการโพสต์ จึงช่วยผู้ดูแลและสมาชิกในการค้นหาเนื้อหาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนั้นๆ ภายในกลุ่มได้อย่างรวดเร็ว

โปรแกรมและเครื่องมือเหล่านี้ช่วยสร้างการเติบโตและความแข็งแกร่งให้กับชุมชนต่างๆ และกลุ่มชุมชนต่างๆ ในประเทศไทย สามารถร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกได้ด้วยการสมัครเข้าร่วมโครงการ Community Accelerator ที่นี่