Chery Automobile หนึ่งในผู้ผลิตรถยักษ์ใหญ่ของจีน ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ OMODA & JAECOO ประเทศไทย อวดเทคโนโลยีสุดล้ำที่มีมากกว่าแค่รถยนต์ในงาน Chery Global International Conference 2024 (CGIC 2024) จะมีอะไรบ้างไปชมกัน

Mornine

หุ่นยนต์อัตโนมัติ Mornine เทคโนโลยี AI โดยบริษัทชื่อว่า AiMOGA พัฒนาร่วมกับ Chery ที่สามารถแนะนำข้อมูล สื่อสารและตอบโต้มนุษย์ได้ เดินได้ ชูสองนิ้วถ่ายรูปได้ หยิบน้ำให้แขกได้ด้วย แม้จะไม่เก่งเท่ากับ Tesla Optimus ที่ออกมาก่อนหน้านี้แต่ทำให้เห็นว่า Chery กำลังซุ่มพัฒนาทางด้าน Robot ไม่แพ้กัน

นอกจากหุ่นยนต์รูปมนุษย์แล้วยังมีหุ่นยนต์รูปสุนัขชื่อ Argos และหุ่นยนต์แมว Dolly แสดงท่าทางเลียนแบบน้องหมาน้องแนวได้ ไม่ว่าจะหมอบ นั่ง กระโดดได้ ควบคุมผ่านสมาร์ตโฟน รองรับการใช้งานในระยะ 30 km ใช้ได้นาน 1 ชั่วโมงครึ่ง สั่งวิ่งทำความเร็วได้ 2.5 เมตรต่อวินาที ตอกย้ำว่า Chery เป็นมากกว่าแบรนด์รถยนต์

Tuna

รถขับเคลื่อนอัตโนมัติ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Future of Travel ที่ประกอบไปด้วยรถโดยสารและรถขนโดรนขนส่ง 3 ตอน ซึ่งรถซีดานคันนี้มีชื่อว่า Tuna ออกแบบให้มีหลักอากาศพลศาสตร์หรือค่า CD เพียงแค่ 0.168 เพื่อการลู่ลมเวลาขับขี่ทางตรงโดยเฉพาะ ทำงานร่วมกับกล้องและเซนเซอร์รอบคัน ประมวลผลด้วย AI และเก็บข้อมูลในระบบคลาวด์ ทั้งนี้ยังเป็นเพียงแค่คอนเซ็ปต์คาร์ ไม่เหมือนกับ Cybercab รถแท็กซี่อัตโนมัติที่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการและโชว์ขับเคลื่อนให้ดูแล้วนั่นเอง

iBAR

รถโดยสารอัตโนมัติ Chery iBar ขนาดตัวถังยาว 4.9 เมตร เพดานสูง 2 เมตร และรองรับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Level 4 ที่ไม่ต้องใช้คนขับนั่นเอง (ทดสอบภายในสวน) เพียงแต่ว่ารองรับที่นั่ง VIP แค่ 2 ตำแหน่ง (Tesla Robovan ที่จุคนได้อย่างน้อย 10 ที่นั่ง) ภายในตัวรถมาพร้อมจอขนาดใหญ่ พื้นที่ตรงกลางโล่งเหมือนห้องนั่งเล่น มีระบบกรองอากาศ ด้านบนติดตั้งแผงโซลลาร์ที่สามารถผลิตไฟได้มากกว่า 1 kW ทำให้ระยะขับขี่เพิ่มขึ้น 30 กม. ต่อวัน (แต่เขาไม่ได้บอกนะว่าขับจริงได้กี่กม.)

Flying Car

อีกหนึ่งยานพาหนะที่อยู่ในซีรีส์ของ Future of Travel คือรถบรรทุกโดรนบินอัตโนมัติ 3 ส่วน (Three-body hybrid) ประกอบไปด้วยรถขนส่งหน้าตาล้ำด้านล่างสุด ที่ช่วยในการเคลื่อนที่บนพื้นถนน ต่อเข้ากับห้องโดยสารที่เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องบินและสามารถถอดจากชุดขับเคลื่อนที่เป็นใบพัดด้านบนได้ รองรับการทำงาน 2 ระบบคือ eVOTOL ทำหน้าที่เป็นเครื่องบินลำเล็ก ๆ เฉพาะส่วนใบพัดและห้องเครื่อง กับอีกระบบ Vehicle เหมือนเป็นยานพาหนะที่เชื่อมระหว่างพื้นดินกับอากาศเข้าด้วยกัน โดยสารต่อห้องเครื่องเข้ากับตัวรถด้านล่าง สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม S2ma ของ Chery นั่นเอง

Intelligent Cockpit

นอกจากนี้ภายในงานยังมีการโชว์รถต้นแบบที่นำเสนอ Lion Intelligent Cockpit หรือห้องโดยสารอัจฉริยะจาก Chery ในมิติต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่นรถคันนี้ที่หน้าตาจะล้ำ ๆ หน่อย มาพร้อมที่นั่ง 4 ตำแหน่ง (2+2) หน้าจอกว่า 3 จอหลักและ 2 จอที่ทำหน้าที่เป็นกล้องมองข้างรถ และยังมีจอหลังที่เชื่อมต่อแอปพลิเคชันให้เล่นเกมได้ผ่านจอยสติ๊ก ตัวรถไม่มีประตูและด้านบนเป็นกระจกใสพาโนรามิกเต็มพื้นที่ ทำให้เห็นว่า Chery ทำได้มากกว่าแค่ฮาร์ดแวร์ แต่ยังรวมไปถึงซอฟต์แวร์ จอดิจิทัลและกล้องแทนกระจก ซึ่งถือว่าเป็นการมอบประสบการณ์เดินทางแบบใหม่ที่จะขับเคลื่อนไปสู่อนาคตอย่างแท้จริง

ทั้งหมดเป็นเพียงส่วนหนึ่งในเทคโนโลยีของ Chery ที่ไม่ได้มีดีแค่เรื่องรถเท่านั้น แต่ยังมีโปรดักต์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนอีกมากมาย ซึ่งคาดว่าในปี 2025 จะนำเข้าให้คนไทยสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ ผ่านแบรนด์​ OMODA & JAECOO ประเทศไทย อย่างแน่นอน