เรียกว่ายิ่งพัฒนาก็ยิ่งมีขนาดเล็กลง และราคาคุ้มค่ามากขึ้นสำหรับโดรนจาก DJI หลังจากออก DJI Mavic Pro โดรนขนาดกลางประสิทธิภาพสูงแถมพับเหลือเล็กจิ๋วจนตลาดสะเทือนเมื่อ 2 ปีก่อน (และตบ GoPro Karma คว่ำกลางตลาด) ปีที่แล้วก็ออก DJI Spark โดรนขนาดเล็กที่มีความสามารถสั่งงานด้วยมือแถมราคาถูกจนฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมือง

ล่าสุดกับ DJI Mavic Air โดรนที่ผสมความเล็กของ Spark เข้ากับความสามารถเทพๆ และพับได้ของ Mavic จนกลายเป็นโดรนที่น่าซื้อที่สุดในปีนี้เลย!

ความเจ๋งของ Mavic Air นั้นเริ่มตั้งแต่ติดตั้งกล้องวิดีโอ 4K (Spark มาแค่ 1080p เอง) ที่สามารถให้ Bitrate 4K ได้สูงถึง 100 Mbps สำหรับการตัดต่อที่ต้องการรายละเอียดของวิดีโอ และสามารถถ่าย Slow motion ได้ 120 fps ที่ความละเอียด 1080p

ในส่วนของภาพนิ่ง สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลด้วยเลนส์มุมกว้าง 24 mm f/2.8 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว 3 แกน ทีเด็ดคือโดรนสามารถหมุนรอบตัวเพื่อถ่าย 25 ภาพใน 8 วินาที แล้วนำมาประกอบเป็นภาพ Panorama รอบตัว 180 องศาความละเอียด 32 ล้านพิกเซลได้ และผู้ใช้สามารถเปิดโหมด HDR ในการถ่ายภาพ เพื่อเก็บรายละเอียดแสงที่แตกต่างกันได้ด้วย

ตัวโดรนสามารถพับเก็บให้เหลือขนาดเล็ก สามารถพกพาสะดวก แต่ประสิทธิภาพของโดรนนั้นไม่เล็กเลย สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 68.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถบินได้ต่อเนื่องนาน 21 นาที พร้อมระบบช่วยบิน FlightAutonomy 2.0 ที่ใช้เซนเซอร์รอบตัวเพื่อช่วยหลบหลีกสิ่งกีดขวาง และเพิ่มความละเอียดในการควบคุมจนสามารถใช้บินในห้องได้ เสาส่ง Wifi ของโดรนก็สามารถส่งวิดีโอสดๆ จากโดรนความละเอียด 720p กลับมาที่รีโมทในระยะ 4 กิโลได้

ถ่าย QuickShot แบบ Asteroid

ในส่วนของการควบคุม ก็มีทั้งฟังก์ชั่น ActiveTrack ที่โดรนจะบินติดตามวัตถุหรือคนในภาพไปเรื่อย โดยผู้ใช้แค่แตะเลือกวัตถุในครั้งแรก นอกจากนี้ยังมีโหมด TapFly ที่แค่แตะเลือกตำแหน่งในภาพ โดรนก็จะบินไปยังจุดนั้นเอง หรือโหมด QuickShot รูปแบบการบินเข้าหาวัตถุเท่ๆ โดยอัตโนมัติ เพื่อสร้างวิดีโอที่ดูดี และ DJI Mavic Air ยังรองรับการสั่งงานด้วยมืออีกด้วย

DJI Mavic Air มีให้เลือก 3 สีคือ ขาว, ดำ และแดง โดยชุดปกติจำหน่ายในราคา $799 หรือประมาณ 26,000 บาท และชุด Fly More Combo ที่เพิ่มแบตเตอรี่เป็น 3 ชุด (จาก 1 ชุด) ปีกสำรองเพิ่มเป็น 6 คู่ (จาก 4 คู่), ชุดแปลงแบตเตอรี่และกระเป๋าสำหรับเดินทาง ขายในราคา $999 หรือประมาณ 32,500 บาท (ทั้ง 2 ชุดมีรีโมทมาให้เหมือนกัน ไม่ต้องซื้อเพิ่ม) โดยจะเริ่มจำหน่ายในช่วงปลายเดือนมกราคมนี้

ส่วนราคาในประเทศไทยชุดปกติอยู่ที่ 30,000 บาทครับ และชุด Fly More Combo อยู่ที่ 37,500 บาทครับ

เนื้อหาล่าสุด

แสงสีฟ้าทำร้ายตาของคุณได้อย่างไร

ในทุกๆ วันเราได้รับแสงสีฟ้าจากดวงอาทิตย์ที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับร่างกายได้ แต่ถึงจะมีประโยชน์เราก็ไม่ควรรับมากเกินไป เพราะ แสงสีฟ้าที่มาจากดวงอาทิตย์ และ ...อ่านต่อ

โหลดต่อไม่รอแล้วนะ! Fortnite beta บน Android เล่นกันได้แล้ววันนี้ ไม่ต้องพึ่ง Invite อีกต่อไป

หลังจากที่ทำรายได้ครบ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปหมาดๆ บน App Store ก็ถึงเวลาที่ชาว Android จะได้เล่นเกมนี้กันเสียที เพราะล่าสุด Epic Games เปิดให้ผู้ใช้แอนดรอยด์ได้ดาวน์โหลดเกม ...อ่านต่อ

รวมมิตร 7 การแข่งขันเกมสุดเดือด ในงานเกมที่ยิ่งใหญ่แห่งปี “Thailand Game Show 2018”

รวมมิตร 7 การแข่งขันเกมสุดเดือด ในงาน Thailand Game Show 2018 ดาวน์โหลดแอปฯ TrueMoney Wallet เพื่อซื้อบัตร : https://goo.gl/Pb3jgq ดาวน์โหลดแอปฯ Thailand Game Show เพื่อลุ้นรางวัล ...อ่านต่อ

ลามไปถึงเพื่อนบ้าน! วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ เตือนนายกแคนาดา ให้ยุติการพัฒนา 5G ร่วมกับ Huawei โดยด่วน

หลังจากที่ Huawei โดนรัฐบาลมะกันสั่งแบนจนถึงขั้นม้วนเสื่อกลับบ้านเกิด ถึงคราวที่เพื่อนบ้านแดนเมเปิลต้องหวาดระแวงกันบ้างแล้ว เพราะล่าสุด Mark Warner และ Marco Rubio ...อ่านต่อ