เอกสารจากชั้นศาลที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 23 มีนาคม ชี้ว่า Meta ยอมให้ Netflix เข้ามาส่องข้อความส่วนตัวของผู้ใช้ (direct messages – DM) เพื่อให้ฝ่ายหลังสามารถดัดแปลงเนื้อหาเข้ากับผู้ใช้ได้ดีขึ้น ด้าน Meta ออกมาปฏิเสธข่าวนี้

เอกสารฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งคดีความที่ แมกซิมิลเลียน ไคลน์ (Maximillian Klein) และ ซาราห์ กราเบิร์ต (Sarah Grabert) สองพลเมืองอเมริกัน ที่ยื่นฟ้องว่าทั้งสองบริษัทมี ‘ความสัมพันธ์พิเศษ’ ที่ Meta ยอมให้ Netflix เข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ดังกล่าว

ในคำฟ้องยังกล่าวหาด้วยว่าทั้งสองบริษัททำสัญญาการเป็นหุ้นส่วนและการทำงานผนวกร่วมกันที่ช่วยเสริมการทำงานของระบบโฆษณาแบบเจาะจงเป้าหมายและโมเดลการจัดอันดับของ Facebook มาอย่างน้อยตั้งแต่ปี 2011

โจทก์ชี้ว่าข้อตกลงนี้เป็นผลมาจากความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่าง รีด เฮสทิงส์ (Reed Hastings) ผู้ร่วมก่อตั้ง Netflix และ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ทนายความฝ่ายโจทก์ยังกล่าวหาอีกว่าหลังจากที่เฮสทิงส์เข้าดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารของ Facebook ไม่ถึง 1 เดือน ทั้งสองบริษัทก็ลงนามในข้อตกลง Inbox API ที่อนุญาตให้ Netflix เข้าดูอินบ็อกซ์ DM ของผู้ใช้งาน Facebook ได้ โดย Netflix จะตอบแทนด้วยการส่งรายงานให้ Facebook (ชื่อของ Meta ในขณะนั้น) ทุก 2 สัปดาห์ รายงานที่ว่านี้จะวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งาน Facebook ของผู้ใช้

ต่อมา Andy Stone ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารของ Meta ออกมาโพสต์ X โต้แย้งข่าวนี้ว่าไม่จริง Meta ไม่ได้แชร์ข้อความส่วนตัวให้ Netflix ข้อตกลงนี้ทำให้ผู้ใช้ Netflix สามารถส่งข้อความหาเพื่อนในเฟซบุ๊กได้ว่ากำลังชมอะไรอยู่เท่านั้น ซึ่งก็เป็นข้อตกลงทั่ว ๆ ไปในอุตสาหกรรมนี้