แม้ว่า iPhone จะยังคงเป็นอันดับ 2 ในตลาดสมาร์ตโฟนระดับโลก โดยอาศัยเพียงสมาร์ตโฟนระดับพรีเมียมเท่านั้น แต่ส่วนแบ่งก็ถูกแบรนด์จีนแย่งไปเยอะพอสมควร ด้วยการเริ่มต้นปี 2024 แบบนี้ก็ทำให้ทั้งปีของ Apple อาจดูไม่ดีเท่าไหร่นัก ในขณะเดียวกัน มีการคาดการณ์ว่ายอดขายสมาร์ตโฟน Android (รวมทั้งตลาด) อาจเติบโตมากกว่า iOS ถึง 2 เท่า

เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของ iPhone มีรายงานจากมาร์ก เกอร์แมน (Mark Gurman) แห่ง Bloomberg เผยว่า Apple มีความต้องการที่จะทำสมาร์ตโฟนราคา 250 เหรียญ หรือประมาณ 9,000 บาท ซึ่งจัดเป็นสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นสำหรับเจาะกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ซึ่งตลาดนี้จะมียอดขายสมาร์ตโฟนจีนเยอะมาก แม้ว่า iPhone SE จะเป็น iPhone ที่ทำมาราคาไม่สูงมาก แต่ก็ยังอยู่ที่ระดับ 400 เหรียญ หรือประมาณ 14,700 บาท ถือว่ายังสูงสำหรับตลาดเกิดใหม่

อย่างไรก็ตาม การทำสมาร์ตโฟนหรือ iPhone ราคาถูกออกมานั้นขัดกับแนวคิดของสตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) เต็ม ๆ โดยจ็อบส์กล่าวว่า “เราไม่ต้องการที่จะทำผลิตภัณฑ์ที่ไร้คุณภาพออกมา” ปัจจุบัน Apple ยังคงใช้หลักการนี้เรื่อยมา จะเห็นได้ว่า Apple มักจะทำผลิตภัณฑ์ที่เน้นตลาดพรีเมียมออกมาเท่านั้น

การทำ iPhone ราคาถูกออกมาสิ่งที่ผู้ใช้งานจะพบเจอคือคุณภาพของสินค้าที่ออกมาลดลงอย่างชัดเจน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่าหนักใจของ Apple เพราะหากคุณภาพออกมาไม่ดีก็จะเสียชื่อความเป็น iPhone ได้เหมือนกัน เกอร์แมนแสดงความคิดเห็นว่าหาก Apple ต้องการส่วนแบ่งในตลาดระดับล่าง การทำ iPhone ที่ราคา 250 เหรียญเป็นทางออกที่ดีที่สุด

แต่หาก Apple สำเร็จในการตีตลาดระดับเริ่มต้นจนทำให้ผู้ใช้งานชอบใจในผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานซื้อ iPhone ที่มีราคาสูงกว่าในอนาคตได้เหมือนกัน