Setsuna Digital ทิปสเตอร์จากประเทศจีน ได้รายงานข้อมูลจากแหล่งข่าววงในที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับสมาร์ตโฟนพับจอได้รุ่นถัดไปของ Samsung นั่นคือ Galaxy Z Flip7 และ Galaxy Z Fold7 ที่คาดว่าจะได้รับการเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้
รายงานดังกล่าวได้ระบุถึงสเปกของ Samsung Galaxy Z Flip7 ซึ่งมีดีไซน์ฝาพับ ดังนี้
- หน้าจอบนฝาพับ: ขนาด 4.1 นิ้ว, ขอบจอบาง 1.25 มม., รีเฟรชเรต 120 Hz (รีเฟรชภาพ 120 ครั้งต่อวินาที), ความสว่างสูงสุด 2,600 Nit
- หน้าจอพับได้ด้านใน: ขนาด 6.9 นิ้ว, สัดส่วนหน้าจอ 21:9, รีเฟรชเรต 120 Hz, ความสว่างสูงสุด 2,600 Nit
- ความบางของตัวเครื่อง เมื่อพับจอเข้าหากัน: 13.7 มม.
- ความบางของตัวเครื่อง เมื่อเปิดหน้าจอออกจากกัน: 6.5 มม.
- แบตเตอรี่: 4,300 mAh
- น้ำหนัก: 188 กรัม

สำหรับ Samsung Galaxy Z Fold7 นั้น แหล่งข่าวได้ระบุว่าจะมีสเปกดังนี้
- หน่วยประมวลผล: ชิปเซต Qualcomm Snapdragon 8 Elite (คาดว่าเป็นเวอร์ชัน ‘For Galaxy’ ที่มีความเร็วสูงสุด 4.47 GHz)
- หน้าจอบนฝาพับ: ขนาด 6.5 นิ้ว
- หน้าจอพับได้ด้านใน: ขนาด 8 นิ้ว
- กล้องหลัก: ความละเอียด 200 ล้านพิกเซล
- กล้องเซลฟี: ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล, มุมกว้าง 100 องศา
- ความบางของตัวเครื่อง เมื่อพับจอเข้าหากัน: 8.9 มม.
- ความบางของตัวเครื่อง เมื่อเปิดหน้าจอออกจากกัน: 4.2 มม.
- น้ำหนัก: 215 กรัม
- กรอบตัวเครื่อง: ผลิตด้วยวัสดุอะลูมิเนียมที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้น
- ฝาหลัง: ติดตั้งเซรามิกแก้วที่มีความแข็งแรงมากขึ้น

Setsuna Digital ยังได้เปิดเผยภาพเรนเดอร์ของ Samsung Galaxy Z Fold7 เพิ่มเติม ซึ่งดูเหมือนมีดีไซน์บางส่วนใกล้เคียงกับ Galaxy Z Fold6 FE ที่เปิดตัวในประเทศเกาหลีใต้เมื่อเดือนตุลาคม 2024 รวมถึงมีขนาดของตัวเครื่องที่ใกล้เคียงกันมาก เช่น มีความบางของตัวเครื่องเมื่อเปิดหน้าจอออกจากกัน ‘เท่ากัน’ และกล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล ‘เท่ากัน’ เป็นต้น
แต่ Samsung Galaxy Z Fold7 มีขนาดหน้าจอพับได้ใหญ่ขึ้น 0.2 นิ้ว และติดตั้งกล้องเซลฟีใต้แผงหน้าจอ ในขณะที่ Galaxy Z Fold6 SE ได้การเจาะรูเพื่อติดตั้งกล้องเซลฟี

อีกประเด็นที่ยังไม่มีความชัดเจน คือ Samsung จะติดตั้งชิปเซตเรือธง Exynos 2500 ใน Samsung Galaxy Z Flip7 ที่จำหน่ายในทุกตลาดทั่วโลก หรือจะติดตั้งเฉพาะเครื่องที่จำหน่ายในบางประเทศเท่านั้น
Samsung Galaxy Z Flip7 และ Fold7 จะได้รับการเปิดตัวในอีเวนต์ Galaxy Unpacked ซึ่งจะจัดขึ้น ณ บรุกลิน นิวยอร์ก ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2025 นี้ ก่อนจะวางจำหน่ายในเดือนสิงหาคม 2025 ต่อไป