Apple เตรียมเดินหน้าพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะรุ่นแรกของแบรนด์ หรือที่เรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า Apple Glasses เพื่อแข่งขันกับ Meta Ray-Ban ของ Meta (บริษัทแม่ของ Facebook) ที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้ โดยมีรายงานว่า Apple ได้สั่งระงับโครงการพัฒนา Vision Air ซึ่งเป็นอุปกรณ์ MR (Mixed Reality) รุ่นถัดไปของแบรนด์ เพื่อทุ่มเทให้กับการพัฒนา Apple Glasses อย่างเต็มที่
ล่าสุดเว็บไซต์ MacRumors ได้รวบรวม 5 สิ่งสำคัญ ที่ต้องจับตามองในการพัฒนา Apple Glasses ดังนี้
นำเทรนด์แฟชั่น
มีความเป็นไปได้สูงที่ Apple Glasses จะได้รับการนำเสนอในฐานะเครื่องประดับแฟชั่นที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับ Apple Watch ที่กลายเป็นเครื่องประดับแฟชั่นที่ได้รับความนิยมไปแล้ว
ทั้งนี้ Apple ต้องการให้ Apple Glasses เปิดตัวพร้อมตัวเลือกด้านวัสดุ (กรอบแว่นและขาแว่น) ให้ผู้ใช้เลือกได้อย่างหลากหลาย ทั้งสีและรูปลักษณ์การออกแบบ เพื่อให้เหมาะกับสไตล์การแต่งตัวของแต่ละคน ซึ่งจะต่างจาก Meta Ray-Ban ที่มีตัวเลือกจำกัดในช่วงเริ่มแรกของการวางจำหน่าย
ขับเคลื่อนด้วย Siri
Apple Glasses จะขับเคลื่อนการทำงานด้วย Siri เวอร์ชันใหม่ โดยเป็นการควบคุมด้วยเสียง (Voice Control) เป็นส่วนใหญ่
นอกจากนี้มีรายงานว่า Apple ได้ปรับโครงสร้างของ Siri เวอร์ชันใหม่ เพื่อใช้โมดเลภาษาขนาดใหญ่ (LLM: Large Language Model) ได้อย่างมีประสิทธภาพ และมีความชาญฉลาดมากพอจะเข้าใช้สิ่งที่ผู้ใช้ออกคำสั่งมากขึ้น
ฟีเจอร์ AI ต่าง ๆ (ข่าวลือ)
ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่า Apple Glasses จะมาพร้อมฟีเจอร์ขุมพลัง AI ดังนี้
- ถ่ายภาพ
- บันทึกวิดีโอ
- เล่นเพลง, พอดแคสต์ (Podcast) และหนังสือเสียง (Audiobook)
- บอกทิศทาง
- ช่วยตอบคำถามต่าง ๆ
- อธิบายข้อมูลสภาพแวลดล้อม
- ระบุชนิดของพืช, สัตว์, สถานที่สำคัญ และอื่น ๆ อีกมากมาย ด้วยเทคโนโลยี Visual Intelligence
- โทรออก
- ส่งข้อความ
- แปลภาษาแบบเรียลไทม์
อาจต้องเชื่อมต่อกับ iPhone
Apple Glasses จะได้ใช้ศักยภาพจากชิปเซตที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของชิปเซตที่ใช้ใน Apple Watch และอาจต้องเชื่อมต่อกับ iPhone เพื่อเสริมประมวลผลด้วย AI และใช้ฟีเจอร์อื่น ๆ ได้
เปิดตัวอย่างเร็วที่สุด ในปี 2026
มีรายงานว่า Apple จะเปิดตัว Apple Glasses ในปลายปี 2026 จากนั้นจะเริ่มการผลิตอย่างเต็มกำลังในไตรมาสที่ 2 ของปี 2027 และวางจำหน่ายภายในปี 2027
ทั้งนี้มีความเป็นไปได้ที่ Apple Glasses อาจมีราคาที่ผู้ใช้เข้าถึงได้ง่าย เพื่อแข่งขันกับ Meta Ray-Bans ซึ่งมีราคาเริ่มต้นในสหรัฐฯ อยู่ที่ 380 เหรียญ หรือประมาณ 12,300 บาท