วันนี้ทาง AIS ได้ออกมาแถลงข่าวเกี่ยวข้องกับเรื่องสัมปทานคลื่น 900MHz ที่ทาง AIS มีลูกค้า 2G อยู่จำนวนมาก (4 แสนเลขหมายสำหรับ 900MHz และ 7.6 ล้านเลขหมายสำหรับลูกค้า AWN 2100MHz) ว่าทางเอไอเอส จะขอเดินหน้าทำทุกวิถีทางตามหลักการ และเป็นไปได้จริงในทางปฏิบัติ เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง โดยแนวทางการแก้ปัญหาคือทาง AIS จะจัดหามือถือให้ลูกค้า 2G ฟรี ๆ และทำการเจรจา Roaming สัญญาณเครือข่าย 2G 1800MHz ของทาง dtac ให้สำเร็จ (เพราะมือถือส่วนใหญ่รองรับคลื่น 1800MHz และ 900MHz อยู่แล้ว)
ซึ่งได้ยื่นข้อเสนอเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ที่ผ่านมา ร้องขอให้กสทช.พิจารณาขยายระยะเวลาคุ้มครอง และขอใช้ความถี่ 900 MHz เพียง 5 MHz ในช่วงที่ 1 ซึ่งยังว่างอยู่ อย่างเร่งด่วน เพื่อให้ลูกค้ายังใช้งานได้ต่อเนื่องไปอีก 3 เดือน โดยจะขอใช้คลื่น 900MHz Slot 1 (ที่ทาง JAS ประมูลชนะ) ความกว้าง 5MHz และชำระ “ค่าใช้ความถี่” ให้ทาง กสทช. อีกด้วย
ในประเด็นที่ TRUE เสนอให้ทาง AIS เช่าคลื่น 900MHz นาน 3 เดือนฟรี ๆ นั้น ทาง AIS ได้กล่าวว่าไม่ได้รับข้อเสนอจากทาง TRUE โดยตรง และที่สำคัญคือไม่สามารถทำได้ตามกฎหมายเพราะผิดมาตรา 46 ใน พ.ร.บ. กสทช. ที่ห้ามมิให้ผู้อื่นร่วมใช้ความถี่ของผู้รับใบอนุญาต

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “ในฐานะผู้ให้บริการ เราทราบดีถึงช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีของประเทศไทย ดังนั้นตั้งแต่ก่อนสิ้นสุดสัญญาร่วมการงานบนคลื่น 900 MHz เราจึงสื่อสารให้ลูกค้าทราบถึงการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีจาก 2G สู่ดิจิทัล อย่าง 3G หรือ 4G ตามนโยบายรัฐ โดยประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าที่คงค้างอยู่ในระบบ 2G 900 MHz โอนย้ายไปยังผู้ให้บริการรายใหม่ หรือ เปลี่ยนเครื่องจาก 2G เป็นเทคโนโลยี 3G/4G อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน”
“แม้ว่าเราได้ทำการประชาสัมพันธ์ดังกล่าวอย่างเข้มข้นแล้วก็ตาม ปัจจุบัน
ก็ยังคงเหลือลูกค้าที่ใช้เบอร์ในระบบ 2G 900 MHz ของเอไอเอส อีกราว 4 แสนเลขหมาย และลูกค้าเอดับบลิวเอ็นที่ยังคงถือเครื่องมือถือ 2G อีกราว 7.6 ล้านเครื่อง และเมื่อศุกร์ที่ 11 มีนาคม ที่ผ่านมา บริษัท ทรูมูฟเอชผู้ประมูลได้คลื่น 900 MHz ช่วงที่ 2 ได้เข้ามาชำระค่าใบอนุญาต และส่งผลให้ กสทช. จะสั่งให้ปิดบริการคลื่น 900 MHz ที่เอไอเอสเคยใช้งานอยู่ อันจะทำให้ลูกค้าที่ยังคงใช้งาน 2G บนคลื่น 900 MHz ใช้งานไม่ได้อีกต่อไป เพื่อให้ลูกค้ามีเวลาเพียงพอในการเปลี่ยนเครื่อง ซึ่งในวันเดียวกันนั้น บริษัทฯได้ทำหนังสือไปยัง กสทช. คัดค้านมติที่ไม่อนุมัติให้มีการขยายระยะเวลาของมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการออกไป ด้วยเหตุผล คือ
ตามประกาศ กสทช. เรื่องมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการในกรณีสิ้นสุด สัมปทานหรือสัญญาให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พ.ศ. 2556 ในข้อ 9. ได้ระบุว่า “…เมื่อคณะกรรมการได้จัดสรรคลื่นความถี่ให้กับผู้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่รายใหม่แล้ว ให้คณะกรรมการกำหนดวันหยุดให้บริการ ซึ่งถือว่าเป็นวันสิ้นสุดระยะเวลาความคุ้มครอง…” เพื่อความเป็นธรรมแก่ผู้ได้รับใบอนุญาตรายใหม่ที่จะมีสิทธิใช้คลื่นความถี่อย่างปราศจากการรบกวน ซึ่งกรณีนี้ เอไอเอส ได้แจ้ง กสทช.ว่า ขอให้บริการต่อไป โดยใช้คลื่นความถี่ 900 MHz ในชุดที่ 1 ซึ่งยังว่างอยู่ อันจะไม่ถือเป็นการริดรอนสิทธิผู้ได้ใบอนุญาตในชุดที่ 2 รวมถึงมติของกสทช. ก็ถือว่าขัดต่อประกาศ กสทช.เอง ที่ต้องมีความต่อเนื่องในการให้บริการ คุ้มครองประโยชน์สาธารณะ และคุ้มครองผู้ใช้บริการให้ได้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไม่มีข้อจำกัดในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านการสิ้นสุดสัมปทาน
โดยในระหว่างการขยายมาตรการคุ้มครองฯออกไปอีกระยะหนึ่งนั้น บริษัทฯยังคงนำส่งรายได้ให้แก่รัฐ ตามหลักเกณฑ์ของประกาศฯคุ้มครอง เช่นเดิมทุกประการ ซึ่งหาก กสทช.ไม่เห็นด้วยกับแนวทางขยายมาตรการเยียวยาต่อไปอีก บริษัทฯ จึงได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหา โดยขอให้กสทช. พิจารณาใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายให้บริษัทฯ ยังคงให้บริการแก่ลูกค้าบนคลื่น 900 MHz ต่อไปอีก อย่างน้อยประมาณ 3 เดือน (สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2559) เพื่อให้ลูกค้าใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง และยังคงมีระยะเวลาเพียงพอที่จะอัพเกรดเทคโนโลยีด้วยการโอนย้ายออกไปยังผู้บริการรายใหม่ตามที่ลูกค้าต้องการ โดยบริษัทจะใช้คลื่นความถี่ 900 MHz ช่วงที่ 1 ในจำนวนเพียง 5 MHz ซึ่งขณะนี้ยังว่างอยู่ และลูกค้าเอไอเอสก็ใช้งานอยู่ในความถี่ช่วงที่ 1 โดยบริษัทฯยินดีชำระค่าใช้งานคลื่นความถี่ให้แก่ กสทช.เพื่อนำส่งเป็นรายได้ให้แก่ประเทศต่อไป
นายสมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับกระแสข่าวข้อเสนอของทรูมูฟเอช ที่ให้ กสทช. นำคลื่นความถี่ 900 MHz มาให้เอไอเอสใช้งานต่อชั่วคราวแบบไม่คิดค่าใช้จ่าย รวมถึงลักษณะที่ให้ทีโอทีสนับสนุนอุปกรณ์ 2G และเอไอเอสดูแลระบบบริหารจัดการ นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับข้อเสนอนี้โดยตรงจากทรูมูฟ เป็นแต่เพียงการเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชนเท่านั้น อีกทั้ง บริษัทฯยังเห็นว่าเป็นแนวทางที่ไม่สามารถเป็นไปได้จริง ทั้งในแง่ของกฎหมาย เนื่องจากยังเป็นปัญหาในข้อกฎหมาย ที่กสทช. ต้องพิจารณาว่า จะเข้าข่ายเป็นการให้ผู้อื่นมาร่วมใช้คลื่นความถี่ของผู้รับใบอนุญาต ซึ่งต้องห้ามตามมาตรา 46 ของพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ หรือไม่ อีกทั้งในทางปฏิบัติ ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ในเวลาอันสั้น เนื่องจากปัจจุบันลูกค้าเอไอเอส ใช้งานอยู่บนคลื่น 900 MHz ช่วงที่ 1 ซึ่งยังว่างอยู่ มิใช่ช่วงความถี่ของทรูมูฟเอช (ช่วงที่ 2)”
“ด้วยความตั้งใจอย่างยิ่งของบริษัทฯ ที่จะให้ลูกค้าทุกท่านใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการที่เราได้เรียกร้องไปที่ กสทช. เพื่อให้ขยายระยะเวลาคุ้มครองออกไปดังกล่าว เราจึงดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกค้าได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ประกอบด้วย
– จัดเครื่องทดแทนให้ฟรี สำหรับลูกค้าที่ยังคงถือเครื่อง 2G ให้อัพเกรดเทคโนโลยีเปลี่ยนเป็น 3G หรือ 4G ซึ่งวันนี้ลูกค้ายังคงสามารถจองเครื่องและรับเครื่องได้ฟรี ณ ที่ทำการ อบต. และเทศบาลทั่วประเทศ
– ให้ลูกค้าที่ยังถือเครื่อง 2G สามารถใช้งานบนเครือข่ายของดีแทค ที่เอไอเอส ได้เจรจาความร่วมมือโรมมิ่งไว้เรียบร้อยแล้ว โดยลูกค้าไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆเพิ่มเติม
– เดินหน้าขยายเครือข่าย3G และ 4G อย่างต่อเนื่องด้วยงบประมาณ 40,000 ล้านบาท
“ผมจึงขอความอนุเคราะห์มายัง กสทช.ให้กรุณาพิจารณาข้อร้องขอของเอไอเอสอย่างเร่งด่วน เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้า โดยขอเรียนยืนยันว่า ทุกลมหายใจของชาวเอไอเอสทั้งหมด มุ่งมั่นเพื่อประโยชน์ของลูกค้า และได้ดำเนินการทุกวิถีทางที่จะดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุดมาโดยตลอด ในฐานะบริษัทฯที่มีธรรมาภิบาล บริหารงานอย่างโปร่งใส ยึดถือหลักการ อีกทั้งยึดประโยชน์ของลูกค้าเป็นที่ตั้งเสมอ เรามีเจตนารมณ์ที่แน่วแน่อย่างยิ่งที่จะดูแลลูกค้าและผู้บริโภคไม่ให้ได้รับผลกระทบแม้แต่ท่านเดียว จากการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี ซึ่งเป็นนโยบายของภาครัฐอันดำเนินการโดย กสทช. ดังนั้นการนำเสนอแนวทางต่างๆ ที่สามารถดูแลได้ทั้งลูกค้าและไม่ผิดหลักการทางกฎหมายจากเอไอเอสนั้น จะเท่ากับเป็นบทพิสูจน์ความจริงใจในการคุ้มครองสิทธิ์และดูแลผู้บริโภคของ กสทช. ในครั้งนี้” นายสมชัย กล่าวในตอนท้าย