ล่าสุดทีมงานแบไต๋มีโอกาสบินไปสิงคโปร์ เพื่อสัมผัส 3 โปรดักต์ใหม่ของ Lenovo Legion ก่อนจะนำเข้ามาขายในไทย มีทั้ง Legion 9i โน้ตบุ๊กตัวท็อป,​ Legion Go เครื่องเกมพกพา และ Legion Glasses แว่นตา VR (Virtual reality) ทั้งสามจะให้ความรู้สึกแรกจับอย่างไร ติดตามอ่านได้ในบทความนี้

Lenovo Legion 9i กับชุดระบายความร้อนด้วยน้ำ (เฉพาะ DRAM) ครั้งแรกของค่าย

ต้องบอกว่า Legion 9i มีข่าวเปิดตัวมาสักระยะแล้ว หลายคนคงได้เห็นความ “ว้าว” เรื่องดีไซน์ฝาหลังที่ทำจากคาร์บอนลายหินอ่อน (Forge Carbon) ที่มีให้เห็นตามรถซูเปอร์คาร์ และชุดน้ำระบายความร้อนในตัว (Integrated Liquid Cooling) ที่เขาเคลมว่าเป็นครั้งแรกของโลก

แรกสัมผัสก็ต้องบอกเลยว่า เรื่องดีไซน์ที่ให้คะแนนแบบ 10 เต็ม 10 เลย ฝาหลังคาร์บอนลายหินอ่อนสวยมาก และดูหรูสุด ๆ ตามที่เขาโฆษณาไว้เลย ถ้าได้ถือใช้คิดว่าน่าจะมีคนถามแน่ ๆ ว่าคือรุ่นอะไร ส่วนไฟ RGB ก็วิบวับรอบเครื่อง

อีกจุดที่สะดุดตาคือหน้าจอที่ Lenovo เรียกว่า PureSight กับสเปกที่ถือว่าโหดเลยนะ ใช้พาแนล Mini-LED กับความละเอียด 3.2K และมีความสว่างถึง 1,200 Nits ซึ่งสูงกว่าโน้ตบุ๊กเกมมิงทั่วไปเลยล่ะ เปิดแสงสุดตอนกลางคืนนี้ แสบตาแน่!

ส่วนระบบระบายความร้อนภายในงาน เขาก็มีการแยกชิ้นส่วนต่าง ๆ ออกมาให้ดูเป็นชั้น ๆ ว่านี่คือใต้เครื่อง นี่คือคีย์บอร์ด นี่คือเมนบอร์ด และที่น่าสนใจสุดคือชุดระบายความร้อนที่เขาบอกว่ามีชุดน้ำอยู่ด้านใน Legion 9i เล็กกว่าที่คิด (ปั๊มน้ำอันกระจิ๊ดกับท่ออันกระติ๊ด)​ และไม่ได้พาดไประบายความร้อนให้กับชิป CPU หรือ GPU แต่ระบบน้ำที่ว่าตรงดิ่งไประบายความร้อนให้กับ DRAM ที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ชิป GPU

ด้วยความสงสัยก็เลยถามทาง Lenovo ไปว่า “มันช่วยได้จริง ๆ หรอ”​เขาก็ตอบกลับมาว่ามันช่วยได้ เพราะถ้า DRAM ร้อนมาก ๆ ก็จะลดประสิทธิภาพลง ทำให้ FPS ตกไม่ต่างความร้อนในชิป CPU หรือ GPU เลย ซึ่งการที่มีชุดน้ำไประบายความร้อนออกก็จะช่วยคุมอุณหภูมิไม่ให้สูงเกิน ส่งผลให้ทำ FPS ได้นิ่งกว่า และทาง Lenovo ยังแง้ม ๆ ว่าในอนาคตอาจจะพัฒนาชุดน้ำใส่ให้ CPU และ GPU ด้วยก็ได้

สรุปแรกสัมผัสของ Lenovo Legion 9i คือตรึงตาตรึงใจกับดีไซน์ฝาหลังที่ไม่มีใครเหมือน ส่วนระบบระบายความร้อนผิดไปจากที่คิด แต่ประสิทธิภาพดีไหม ต้องรอรีวิวจริงจังอีกที

Legion Go เครื่องเกมพกพาที่​ ถอดจอยได้ แถมใช้เป็นเมาส์ได้อีก

Legion Go ก็เช่นกัน มีข่าวออกมาเป็นเดือนแล้ว แต่ทีมงานแบไต๋เพิ่งจะมีโอกาสได้จับจริงเป็นครั้งแรก พร้อมกับหลาย ๆ สื่อในเอเชีย (ยกเว้นจีน)​ แรกสัมผัสต้องบอกเลยว่า “เครื่องใหญ่ชะมัด” ปกติเราจะเห็นเครื่องเล่นเกมที่มีจอขนาด 7 นิ้ว แต่ Legion Go ล่อไป 8.8 นิ้ว ป๊าด! นี่มันไซส์จอแท็บเล็ตชัด ๆ ด้วยขนาดจอที่ใหญ่ เครื่องใหญ่ก็ตามไปด้วย การพกพาก็จะสะดวกน้อยกว่าเครื่องที่เล็กกว่า

แต่ในความใหญ่ก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน คือเวลาเราเล่นเกมเนี่ยมันจะสบายตากว่าจอเล็ก แถมสเปกเองก็คมชัดนะ WQXGA (2560×1600) ส่วน Refresh Rate ก็อยู่ที่ 144Hz ถือว่าสูงกว่า ROG Ally และ Steam Deck ที่แบไต๋เคยรีวิวไป (แต่น่าจะกินแบตมากว่าแน่ ๆ ล่ะ)​ และสัมผัสการจับถือต้องบอกว่าเป็นเครื่องใหญ่ที่จับถนัดมือมาก ๆ ด้วยขนาดของด้ามจับ (Grip) ที่ค่อนข้างลึกและโค้งเข้ากับรูปมือ ปุ่มเองก็อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมกับการกดไม่ต้องเอื้อมเยอะ

แต่จุดที่ “ว้าว”​ มากคือ Joy Controller ทั้งสองฝั่ง “ถอดแยกออกจากตัวเครื่องได้”​ ทำให้เราสามารถตั้งจอไว้บนโต๊ะ (เขามีฐานตั้งจอในตัวด้วยนะ)​ และถือเล่นแต่จอยอย่างเดียว บอกเลยว่าสบายมือสุด ๆ เพราะไม่ต้องถือน้ำหนักเครื่องทั้งหมด

และอีกส่วนที่ว้าวไม่แพ้กันคือ “จอยฝั่งขวาแปลงร่างเป็นเมาส์ได้” โอ้ มาย กู๊ดดด! นี่ทำให้เราสามารถเล่นเกม FPS บนเครื่องเกมพกพาได้เหมือนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โดยไม่เสียบพกเมาส์หรือคีย์บอร์ดเลย จอยฝั่งขวาใช้แทนเมาส์ ส่วนฝั่งซ้ายใช้แทน WASD กับกดปุ่มใช้ไอเทมหรือสกิล บอกเลยว่าโคตรเจ๋ง คิดว่าใครเป็นสายเกมยิงน่าจะชอบกัน

ส่วนประสิทธิภาพคิดว่าน่าจะไม่ต่างจาก ROG Ally มากนัก เพราะว่าใช้ชิปเซตตัวเดียวกันคือ AMD Ryzen Z1 / Z1 Extreme ส่วนแรมกับพื้นที่เก็บข้อมูลจะต่างกันแค่ไหน ต้องรอรีวิวแบบละเอียดอีกที

สรุป Legion Go มีฟีเจอร์น่าสนใจเยอะมาก แต่ที่น่ากังวลคือแบตเตอรี่ที่น่าจะหมดไว

Legion Glasses แว่นตา VR พกพาที่หน้าตาไม่ต่างจากแว่นธรรมดา (แต่หนากว่านะ)​

สุดท้ายที่ได้จับคือ Legion Glasses แว่นตา VR ฉบับพกพาที่ให้สัมผัสแรกที่ดูแทบไม่ต่างจากแว่นกันแดดเลย แม้จะมีความหนาและน้ำหนักที่มากกว่า เนื่องจากมีวงจรชิป และลำโพงภายในตัว การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ทำได้ผ่านสาย USB-C อยู่ติดกับตัวแว่น

คุณภาพของภาพที่เห็นผ่านเลนส์ ถือว่าชัดเลยล่ะ เพราะใช้จอ micro-OLED กับความละเอียด FullHD และจุดที่ชอบเลยเขามีเลนส์ให้เลือกสำหรับคนที่สายตาสั้นด้วยนะ ซึ่งจะแถมให้ตั้งแต่ตอนซื้อแว่นเลย ทำให้คนสายตาใส่แล้วมองเห็นได้ชัด

นอกจากนี้เห็นว่าตัวแว่นยังทนทานด้วยนะ ทีมงาน Lenovo ลองทำตกให้ดูในความสูงประมาณ 1.2 เมตรลงบนพื้นพรม ตัวแว่นก็ไม่มีปัญหาใด ๆ ยังคงใช้งานได้ตามปกติ สรุปคือ Legion Glasses เป็นแว่น VR ที่น่าสนใจ แต่เวลาใช้นานแล้วจะเวิร์กไหมนี่คงต้องลองใช้กันยาว ๆ ถึงจะตอบได้

และทั้งหมดนี้คือ 3 โปรดักต์ใหม่ที่ทาง Lenovo เชิญให้ทีมงานแบไต๋บินไปสัมผัสไว ก่อนนำมาขายในไทย ส่วนราคาของแต่ละรุ่นจะอยู่ที่เท่าไรนั้น คงต้องฟังข่าวจาก Lenovo กันอีกที

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส