แสนสิริ จับมือกับ สิริ เวนเจอร์ส เปิดตัว “Sansiri Smart Home” ระบบสั่งการด้วยเสียงบน Google Assistant ผู้ช่วยอัจฉริยะประจำบ้าน ที่เชื่อมต่ออุปกรณ์สมาร์ทโฮมและเทคโนโลยี AI และ IoT เพื่อสร้างนิยามใหม่ของการอยู่อาศัยแบบ Smart Living ที่ครอบคลุมทั้งเอนเตอร์เทนเมนต์ ความสะดวกสบาย ความปลอดภัยและการประหยัดพลังงาน ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มีพฤติกรรมรักสบาย และหันมาพึ่งเทคโนโลยีในยุคเศรษฐกิจ Lazy Economy ทั้งยังรองรับการใช้งานของทุกเจเนอเรชั่น

ซึ่ง Sansiri Smart Home จะเป็นระบบสั่งการด้วยเสียงบน Google Assistant ที่เชื่อมต่ออุปกรณ์สมาร์ตโฮมผ่านเทคโนโลยี AI และ IoT ร่วมกับอุปกรณ์สมาร์ตโฮมอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Speaker B&O หลอดไฟอัจฉริยะ Philips Hue และเซนเซอร์ตรวจวัดการนอน Withings Sleep เพื่อนำเสนอการอยู่อาศัยแบบ Smart Living ครอบคลุม 4 ด้านดังนี้

  • ความบันเทิงที่สามารถส่งมอบสุดยอดความบันเทิง สั่งงานด้วยเสียงเพื่อเปิด-ปิด ควบคุมและปรับระดับเสียงเพลงและทีวีภายในบ้าน
  • ความสะดวกสบาย นำเสนอมิติใหม่แห่งการสั่งงานด้วยเสียง ตั้งค่าเพื่อควบคุมหลายอุปกรณ์ในคำสั่งเดียว
  • ความปลอดภัย เรียกดูกล้องวงจรปิด CCTV จากโรงรถและริมรั้ว เพื่อแสดงผลบนหน้าจอ ยกระดับความปลอดภัย เพิ่มความอุ่นใจในการอยู่อาศัยไปอีกขั้น
  • การประหยัดพลังงาน ซึ่งสามารถติดตั้งระบบเปิด-ปิด และปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ ช่วยควบคุมอุณหภูมิในบ้านเพื่อการประหยัดพลังงานแบบอัตโนมัติ

นอกเหนือจากการสั่งงานด้วยเสียง Sansiri Smart Home ยังสามารถทำงานแบบอัตโนมัติผ่านระบบเซ็นเซอร์ เช่น การตรวจวัดการนอน และการตรวจจับการล้ม (Fall Detection) ตอบโจทย์การใช้งานของผู้สูงอายุได้อีกด้วย

คุณสมเกียรติ หงษ์ทรัพย์ภิญโญ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)

ท่ามกลางยุคเศรษฐกิจ Lazy Economy คนยุคใหม่ต้องการความสะดวกสบายและลดภาระเล็กน้อย เพื่อจะได้มีเวลาทำงานสำคัญ ด้วยการหันมาพึ่งเทคโนโลยีในการใช้ชีวิต จากวิจัย ‘เจาะลึกอินไซต์…พิชิตใจคนขี้เกียจ (Lazy Consumer)’ โดยวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) พบว่า เทคโนโลยี Automation & Hands-Free เป็น 1 ใน 5 ธุรกิจหรือสินค้าครองใจคนรักสบายและด้วยวิสัยทัศน์ของแสนสิริในการเติมเต็มไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยให้กับลูกค้าอย่างสมบูรณ์แบบ นอกเหนือจากจุดเด่นด้านเซอร์วิส์ตั้งแต่ก่อนไปถึงหลังการขาย รวมทั้ง LIV-24 บริการดูแลความปลอดภัยจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง

ล่าสุด เราได้จับมือกับสิริ เวนเจอร์ส บริษัทร่วมทุนด้าน PropTech อย่างครบวงจรรายแรกของไทย สร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์แนวราบเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในตลาดบ้านเดี่ยวและ Top 3 ในตลาดทาวน์เฮาส์ใน 3 ปี ตอกย้ำการสร้างจุดเด่นและฟังก์ชั่นที่แตกต่างฉีกกรอบเดิม ๆ ด้วย Sansiri Smart Home สั่งการด้วยเสียงบน Google Assistant เชื่อมต่อเทคโนโลยี AI และ IoT ภายในและรอบตัวบ้าน รองรับการใช้งานของทุกสมาชิกในครอบครัว ครอบคลุมทุกความต้องการที่แตกต่างกันของทุกเจเนอเรชั่น เพื่อนำเสนอการอยู่อาศัยแบบ Smart Living อย่างเต็มรูปแบบ ในโชว์เคส 2 แห่ง ที่โครงการเศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา 2 และทวีวัฒนา

แสนสิริ ผู้นำด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมการอยู่อาศัยของวงการอสังหาฯ ไทย เดินหน้าค้นหานวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้การใช้ชีวิตของลูกบ้านสะดวกสบายและเป็นเรื่องง่าย โดยโครงการเศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา 2 และ ทวีวัฒนา เป็นบ้านเดี่ยวสไตล์โมเดิร์นและเป็นโครงการที่อยู่อาศัยของแสนสิริ ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน Home Automation ที่สามารถควบคุมผ่าน Sansiri Home Service Application มาผสมผสานกับ Google Assistant ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มหลักในการสั่งการด้วยเสียง ร่วมกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมอื่น ๆ ผ่านสปีคเกอร์และดิสเพลย์ในแต่ละจุดของบ้าน

คุณสมเกียรติ หงษ์ทรัพย์ภิญโญ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)

ในเฟสแรก แสนสิริและสิริ เวนเจอร์สประสบความสำเร็จในการพัฒนา Sansiri Smart Home โดยเลือกใช้ Google Assistant ผู้ช่วยอัจฉริยะประจำบ้านเป็นแพลตฟอร์มหลักในการสั่งการด้วยเสียงกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮม ครอบคลุม 4 ด้าน ได้แก่ เอนเตอร์เทนเมนต์ ความสะดวกสบาย ความปลอดภัยและการประหยัดพลังงาน เติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตอย่างไร้รอยต่อ สอดรับกับยุค Lazy Economy

ในอนาคตอันใกล้ของภาพรวมตลาดเทคโนโลยีระดับโลก เราจะได้เห็นบทบาทการทำงานของเทคโนโลยี Context-Aware Computing ที่จะคอยใส่ใจ (Aware) บริบทหรือข้อมูลต่าง ๆ ที่ผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์ (Context) เพื่อนำไปใช้ในการประมวลผล (Computing) หาคำตอบหรือตอบสนองล่วงหน้าให้กับผู้ใช้ในเฟสต่อไป โดยเราวางแผนต่อยอดการศึกษาวิจัยสู่การพัฒนา Context-Aware Smart Home บ้านอัจฉริยะที่ลดการสั่งการด้วยเสียงหรือผ่านแอป แต่จะก้าวล้ำยิ่งกว่าด้วยความสามารถในการปรับฟีเจอร์แบบอัตโนมัติให้ตอบสนองต่อสภาพแวดล้อม พฤติกรรมหรือบริบทของผู้ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผ่านการทำงานร่วมกันของระบบ Sensor, Big Data, Algorithm, AI และ IoT

โดย Sansiri Smart Home ได้วางแผนเพิ่มเป็นแพ็คเกจ Add-On สำหรับลูกค้าที่สนใจติดตั้งในราคาเริ่มต้น 300,000 บาท ซึ่งจะเริ่มในปี 2020 เป็นต้นไป มุ่งเปิดประสบการณใหม่ของการอยู่อาศัยแบบ Smart Living ที่มาพร้อมกับความก้าวล้ำแห่งอนาคต และสำหรับใครที่สนใจก็สามารถทดลองได้ก่อนใครที่โครงการเศรษฐสิริ กรุงเทพกรีฑา 2 และ ทวีวัฒนาได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป