ในยุคที่ “ความยั่งยืน” ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็น “ใบอนุญาต” สู่การดำเนินธุรกิจแห่งอนาคต กลุ่มสยามพิวรรธน์ได้สร้างแรงกระเพื่อมครั้งสำคัญในวงการค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ไทย ด้วยการประกาศความสำเร็จในการเป็นผู้ประกอบการศูนย์การค้าและศูนย์ประชุม “รายแรกของไทย” ที่ได้รับการรับรองเครื่องหมาย การชดเชยคาร์บอน 100% (Carbon Offset & Carbon Neutral) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO)

ความสำเร็จนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงจุดใดจุดหนึ่ง แต่ครอบคลุม “ทุกตารางนิ้ว” ของอาณาจักรในเครือ ทั้ง 5 ศูนย์การค้า (สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์, สยามดิสคัฟเวอรี่, ไอคอนสยาม, ไอซีเอส) 2 ศูนย์ประชุม (พารากอน ฮอลล์, ไอคอนสยาม ฮอลล์) และอาคารสำนักงาน สำหรับการดำเนินงานในขอบเขตที่ 1 และ 2 รอบปี 2567 นี่คือการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า การเดินหน้าสู่ Net Zero ไม่ใช่แค่คำมั่นสัญญาระยะไกล แต่เป็นสิ่งที่ต้องลงมือทำ “เดี๋ยวนี้”

เบื้องหลังความสำเร็จ: จับมือ “อินโนพาวเวอร์” หมุนเวียนคาร์บอนเครดิตในประเทศ

กุญแจสำคัญของความสำเร็จครั้งนี้ คือการขยายผลการดำเนินงานไปยังพื้นที่ใหญ่อย่าง ไอคอนสยาม, ไอซีเอส และไอคอนสยาม ฮอลล์ จนครบสมบูรณ์ โดยมี “อินโนพาวเวอร์” (InnovePower) ซึ่งเป็นบริษัทนวัตกรรมพลังงานสะอาดจากการรวมพลังของ 3 ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงาน (กฟผ., ราช กรุ๊ป และ ผลิตไฟฟ้า) ทำหน้าที่เป็น Decarbonization Partner

โมเดลนี้ไม่ใช่แค่การ “ซื้อ” ใบรับรอง แต่เป็นการใช้กลไก “การซื้อขายคาร์บอนเครดิต” (Carbon Credit) อย่างเป็นรูปธรรม สยามพิวรรธน์ได้ชดเชยคาร์บอนผ่านคาร์บอนเครดิตที่ผ่านการรับรอง T-VER ซึ่งมาจาก “โครงการพลังงานหมุนเวียน” (Renewable Energy) ภายในประเทศ

การดำเนินการนี้สร้างผลกระทบเชิงบวกที่เรียกว่า Social Co-Benefit กล่าวคือ เงินที่สยามพิวรรธน์ใช้ในการชดเชยคาร์บอน ไม่ได้หายไปไหน แต่ได้ไหลกลับไปสนับสนุนโครงการพลังงานสะอาดอื่น ๆ ในประเทศไทย ช่วยยกระดับเศรษฐกิจฐานราก และเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำในภาพรวม

ไม่ใช่แค่หมุดหมาย แต่คือ “การเดินทาง” สู่ Net Zero 2050

การได้รับการรับรองครั้งนี้ ซึ่งมีพิธีมอบใบประกาศนียบัตรอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 ถือเป็นเครื่องตอกย้ำว่าสยามพิวรรธน์กำลัง “เดินเกม” อย่างจริงจังในด้านความยั่งยืน

ความสำเร็จ 100% Carbon Offset ในวันนี้ เป็นเพียงหมุดหมายสำคัญระหว่างทาง เพื่อมุ่งหน้าสู่เป้าหมายที่ท้าทายยิ่งกว่าในระยะยาว นั่นคือ Zero Waste to Landfill (ขยะฝังกลบเป็นศูนย์) ภายในปี 2040 และเป้าหมายสูงสุด Net Zero (การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์) ภายในปี 2050

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของสยามพิวรรธน์ จึงไม่ได้เป็นเพียงการสร้างภาพลักษณ์องค์กรสีเขียว แต่คือการ “ยกระดับมาตรฐาน” (Raise the Bar) ที่ท้าทายให้ทั้งอุตสาหกรรมค้าปลีกไทยต้องหันมาลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน