สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) กำลังจะปล่อยภารกิจ Group 6-15 ในการขนส่งดาวเทียมสตาร์ลิงก์ (Starlink) V2 Mini ไปยังวงโคจรระดับต่ำของโลกเพิ่มอีกจำนวน 15 ดวง ที่ขับดันโดยจรวด Falcon 9 ออกจากแท่นปล่อยจรวด SLC-4E ที่ฐานทัพอวกาศแวนเดนเบิร์กในแคลิฟอร์เนีย รัฐฟลอริดา ในวันอังคารที่ 18 กรกฎาคม เวลา 9:40 p.m. PT (วันพุธ 11:40 น. ในประเทศไทย) ภารกิจนี้จะเป็นเที่ยวบินที่ 46 ของจรวด Falcon 9 และภารกิจครั้งที่ 48 ของสเปซเอ็กซ์ในปี 2023

ล่าสุด ณ วันที่ 16 กรกฎาคม สเปซเอ็กซ์มีดาวเทียมสตาร์ลิงก์อยู่ในวงโครที่ 4,485 ดวง ซึ่งเป็นดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในวงโคจรจำนวน 98 ดวง ทำงานผิดปกติก่อนที่จะถึงวงโคจร 10 ดวง ซึ่งทั้งหมดมาจากภารกิจ Group 6-16-26-36-4 และ 6-5

เมื่อภารกิจนี้สำเร็จก็จะทำให้สเปซเอ็กซ์มี Starlink V2 Mini อยู่ในวงโคจรเพิ่มขึ้นเป็น 120 ดวง และมีดาวเทียมในวงโคจรทั้งหมด 4,507 ดวง นอกจากนี้อินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมเทียมสตาร์ลิงก์ได้เปิดให้บริการแล้วใน 58 ประเทศ และมีสมาชิกใช้งาน 1,500,000 ราย

ภารกิจ Group 6-15 เป็นการปล่อยดาวเทียม Starlink V2 Mini ที่อยู่ในกลุ่มหรือเชลล์ 6 มีวงโคจรอยู่ที่ 530 กิโลเมตร มุมเอียง 43 องศา ทั้งนี้ V2 Mini ได้ถูกลดขนาดลงจากรุ่น V2 เพื่อให้รองรับการขนส่งด้วยจรวด Falcon 9 เนื่องจากรุ่น V2 มีขนาดใหญ่จะต้องขนส่งด้วยยานสตาร์ชิปที่กำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้

ดาวเทียม Starlink V2 Mini มีเสาอากาศอาร์เรย์ที่ทรงพลังมากขึ้นและใช้ความถี่ย่าน E-band สําหรับ backhaul (เชื่อมต่อระหว่างโหนด) ซึ่งจะทําให้ดาวเทียมแต่ละดวงสามารถให้ความจุมากกว่า Starlink v1.0 และ v1.5 ได้ถึง 4 เท่า

ภารกิจนี้จะใช้บูสเตอร์ B1071 ขึ้นบินเป็นครั้งที่ 10 สำหรับนำกลับมาใช้ใหม่อย่างคุ้มค่า โดยได้ผ่านภารกิจการปล่อยดาวเทียมสอดแนม NROL-87, ปล่อยดาวเทียม NROL-85, ปล่อยดาวเทียมสอดแนม SARah 1, ปล่อยดาวเทียม SWOT, ภารกิจ Transporter 8 แชร์เที่ยวปล่อยดาวเทียม 72 ดวง และปล่อยดาวเทียมสตาร์ลิงก์ 4 ครั้งคือ Group 3-2, Group 4-29, Group 2-6 และ Group 2-8 (รวมภารกิจนี้ด้วยเป็นครั้งที่ 5)

หลังจากจรวด Falcon 9 ถูกปล่อยขึ้นไปประมาณ 2 นาทีครึ่ง บูสเตอร์ B1071 จะแยกตัวกลับมาลงจอดบนเรือโดรน Of Course I Still Love You ที่จอดรออยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกในเวลาประมาณนาทีที่ 9 หลังจากปล่อยจรวด

ที่มา : spacex.com

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส