ก.ล.ต. ออกหลักเกณฑ์ให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ต้องจัดให้ลูกค้าอบรมหรือทดสอบความรู้เกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซี และจัดส่งรายงานข้อมูลคุณภาพการให้บริการ

วันที่ 4 กรกฎาคม 2565 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกหลักเกณฑ์กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ต้องจัดให้ลูกค้าเข้ารับการอบรม หรือทดสอบความรู้เกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซี เพื่อให้ลูกค้ามีความรู้ความเข้าใจในการลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีที่เหมาะสม และสอดคล้องกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

รวมทั้งกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจจัดส่งรายงานข้อมูลคุณภาพการให้บริการ และการใช้ความสามารถของระบบงาน (IT Usage Capacity) ต่อ ก.ล.ต. เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองผู้ซื้อขายให้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกใช้บริการกับผู้ประกอบธุรกิจ

ปัจจุบัน มีผู้สนใจลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจลงทุนไม่สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้ ในขณะที่ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเติบโตอย่างรวดเร็ว และผู้ซื้อขายยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพการให้บริการของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ได้แก่ ข้อมูลความขัดข้องของระบบที่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการ และข้อร้องเรียนของผู้ใช้บริการ เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกใช้บริการ และ ก.ล.ต. ยังไม่มีข้อมูล IT Usage Capacity เพื่อใช้ติดตามตรวจสอบคุณภาพการให้บริการของผู้ประกอบธุรกิจได้

ก.ล.ต. เห็นถึงความสำคัญของการให้ผู้ประกอบธุรกิจจัดให้มีการอบรมหรือทดสอบความรู้เกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีให้แก่ผู้ซื้อขายก่อนตัดสินใจซื้อขายและสอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และเพื่อให้มีข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพการให้บริการของผู้ประกอบธุรกิจ รวมทั้งเพื่อให้ ก.ล.ต. สามารถติดตามตรวจสอบประสิทธิภาพการให้บริการ และความพร้อมของระบบงานของผู้ประกอบธุรกิจได้ ก.ล.ต. จึงออกหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวโดยสรุป ดังนี้

(1) กำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้ประกอบธุรกิจ ต้องจัดให้ลูกค้าเข้ารับการอบรมหรือการทดสอบความรู้ (Knowledge Test) เกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซี โดยคณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติเห็นชอบ ในการประชุมครั้งที่ 6/2564 เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2564

ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ดังกล่าวยกเว้นกรณีที่ลูกค้าเป็นผู้มีประสบการณ์ซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีมาก่อนใช้บริการกับผู้ประกอบธุรกิจ หรือเป็นผู้ลงทุนสถาบัน ผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ที่มีสถานะเป็นนิติบุคคล รวมทั้งกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจต้องจัดให้มีการให้คำแนะนำเบื้องต้น เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจความสำคัญในการจัดสรรและกำหนดสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมแก่ลูกค้า (Basic Asset Allocation) เพิ่มเติมด้วย โดยประกาศดังกล่าวได้ลงราชกิจจานุเบกษา และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2565

(2) กำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้ประกอบธุรกิจ จัดส่งรายงานข้อมูลคุณภาพการให้บริการต่อ ก.ล.ต. และเปิดเผยรายงานดังกล่าวบนเว็บไซต์ของผู้ประกอบธุรกิจ โดยคณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติเห็นชอบ ในการประชุมครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2565

ทั้งนี้ การจัดส่งรายงานการใช้ความสามารถของระบบงานต่อ ก.ล.ต. ก็เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองผู้ซื้อขายให้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกใช้บริการกับผู้ประกอบธุรกิจ และเพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลของ ก.ล.ต โดยประกาศดังกล่าวได้ลงราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566

ที่มา : ก.ล.ต.