วันที่ 15 กันยายน เวลาราว 13.40 น. อีเธอเรียม (Ethereum) ได้ทำการเปลี่ยนบล็อกเชนจากระบบ Proof of Work กลายเป็น Proof of Stake หรือที่เรียกว่า ‘The Merge’ ได้สำเร็จ หลังจากทำการทดลองมาหลายปี

ทางมูลนิธิอีเธอเรียมกล่าวว่า การเปลี่ยนระบบในครั้งนี้ทำให้บล็อกเชนอีเธอเรียมประหยัดพลังงานมากขึ้นถึง 99.95% ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทางด้านสิ่งแวดล้อม และยังเปิดโอกาสให้มีการขยายระบบให้กว้างขวางได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

เอลิ เบน-แซสสัน (Eli Ben-Sasson) ประธานและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทสตาร์กแวร์กล่าวการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้นับเป็นก้าวแรกที่จะทำให้อีเธอเรียมถูกใช้งานอย่างกว้างขวางในอนาคต โดยเขามองว่าระบบประมวลผลของอีเธอเรียมจะถูกนำไปใช้ได้หลากหลาย โดยเฉพาะแอปพลิเคชันที่เกี่ยวกับบล็อกเชนที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน

ทางด้าน วิทาลิก บูเตอริน (Vitalik Buterin) ผู้ร่วมก่อตั้งอีเธอเรียมก็ได้ออกมาเฉลิมฉลองกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ผ่านทางทวิตเตอร์ โดยกล่าวว่านี่เป็นเหตุการณ์ครั้งใหญ่ และทุกคนที่มีส่วนร่วมควรรู้สึกภาคภูมิใจกับมัน

The Merge ครั้งนี้ นับเป็นขั้นตอนแรกจากทั้งหมด 5 ขั้นตอนสำคัญในการพัฒนาอีเธอเรียม ซึ่งประกอบไปด้วย The Merge, The Surge, The Verge, The Purge, และ The Splurge โดยเมื่อพัฒนาครบทั้ง 5 ขั้นตอนแล้ว บูเตอรินกล่าวว่าอีเธอเรียมจะสามารถรองรับธุรกรรมได้ถึง 100,000 ธุรกรรมต่อวินาที อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนผลกระทบด้านราคานั้น ราคาของเหรียญอีเธอเรียมปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังจากการเปลี่ยนแปลงเป็น Proof of Stake โดยซื้อขายอยู่ที่ราว 58,662 บาท อ้างอิงข้อมูงจาก Coinmarketcap วันที่ 15 กันยายน 2022 เวลา 16.40 น.

ที่มา: Cointelegraph

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส