รัฐสภาเอลซัลวาดอร์โหวตรับข้อเสนอของประธานาธิบดี นายิบ บูเคเล (Nayib Bukele) ให้บิตคอยน์เป็นเหรียญที่สามารถใช้ในการชำระหนี้หรือเป็นเงินที่ถูกกฎหมายด้วยเสียงข้างมาก 62 จาก 84 เสียง นับเป็นประเทศแรกที่ยอมรับบิตคอยน์เป็นเงินถูกกฎหมาย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ใน 90 วันโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยน BTC – USD ตามราคาตลาด และหลังจากที่ผลการโหวตออกมาได้ไม่นานก็ดันให้ราคาของบิตคอยน์เพิ่มขึ้น 5% เป็น 34,239.17 เหรียญ (1,066,892 บาท)

เมื่อกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ บริษัทห้างร้านก็จะต้องยอมรับการชำระเงินและค่าบริการต่าง ๆ ด้วยบิตคอยน์ อีกทั้งสามารถจ่ายภาษีและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ให้กับภาครัฐได้อีกด้วย แต่ในช่วงแรกก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ประกอบการจะสามารถปรับใช้เทคโนโลยีให้รองรับกับการทำธุรกรรมได้มากแค่ไหน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะส่งเสริมการฝึกอบรมให้ความรู้และกลไกที่ช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการทำธุรกรรมด้วยบิตคอยน์ได้

6 มิถุนายนก่อนเสนอร่างกฎหมายฯ บูเคเลเผยว่า70% ของประชากรเอลซัลวาดอร์ไม่มีบัญชีธนาคารและทำงานในการจ้างงานนอกระบบหรือแรงงานข้ามชาติ ซึ่งมีการโอนเงินกลับเข้ามาให้ครอบครัวในประเทศเกือบ 6,000 ล้านเหรียญ (186,744 ล้านบาท) ที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับระบบตัวกลาง

ดังนั้นการโอนเงินข้ามประเทศด้วยบิตคอยน์จะมีความรวดเร็วและจ่ายค่าธรรมเนียมน้อยลง ช่วยให้ประชาชนเหลือเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น และยังเป็นหนทางหนึ่งสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ การเข้าถึงสินเชื่อ การออมเงิน การลงทุนและการทำธุรกรรมที่ปลอดภัย

ปีที่แล้วเอลซัลวาดอร์ได้เปิดโครงการบิตคอยน์บีช (Bitcoin Beach) เพื่อสร้างระบบนิเวศสำหรับใช้บิตคอยน์ชำระค่าสาธารณูปโภค (โทรศัพท์ ค่าน้ำ และค่าไฟฟ้า) ค่ารักษาพยาบาล อาหาร และค่าตัดผม ให้แก่คนในชุมชนแถวชายหาดเอลซอนเต (El Zonte) และเมืองปุนตาแมงโก้ (Punta Mango) เดือนมีนาคม สไตรก์ (Strike) แอปชำระเงินบนมือถือได้เปิดตัวในเอลซัลวาดอร์สามารถช่วยรับส่งเงินจากต่างประเทศให้กับครอบครัวด้วยการแปลงเงินเดือนที่ได้เป็นบิตคอยน์

ปัจจุบันนโยบายของรัฐบาลในบางประเทศได้ประกาศกีดกันบิตคอยน์ เดือนพฤษภาคมจีนได้สั่งห้ามธนาคารและบริษัทชำระเงินให้บริการธุรกรรมเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล และก่อนหน้านั้นอินเดียได้เตรียมออกฎหมายห้ามซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยเอกชนในอินเดียทั้งหมด แต่ก็ยังมีหลายประเทศที่กำลังพัฒนา CBDC (Central Bank Digital Currency) หรือเงินสกุลดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางของประเทศ เช่น อังกฤษ สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป

ที่มา : engadget และ reuters

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส