นาซา (NASA) จะทดสอบใช้ยานอวกาศ DART (Double Asteroid Redirect Mission) พุ่งชน Dimorphos ดาวเคราะห์น้อยขนาดเล็กที่เป็นดวงจันทร์บริวารของ Didymos (ดาวเคราะห์น้อยที่ขนาดใหญ่กว่า) เพื่อเปลี่ยนเส้นทาง Dimorphos โดยไม่ส่งผลกระทบต่อลูกพี่ Didymos และโลกให้เกิดอันตรายใด ๆ ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อนำมาใช้เป็นระบบป้องกันดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลกในอนาคตได้ และภารกิจจะเริ่มขึ้นพร้อมถ่ายทดสดในวันที่ 26 กันยายน เวลา 18:00 น. ET (5:00 น. วันที่ 27 ในประเทศไทย) หลังจากนั้นจะมีการติดตามดูผลการเปลี่ยนแปลงเป็นหลายสัปดาห์

Didymos เป็นดาวเคราะห์น้อยแบบไบนารี คือ ดาวเคราะห์น้อย 2 ดวง ประกอบด้วย ดวงใหญ่ชื่อว่า Didymos มีความยาวประมาณ 780 เมตร และมีดวงเล็กชื่อ Dimorphos ยาว 160 เมตร ที่เป็นบริวารและโคจรรอบดวงใหญ่ทุก ๆ 11 ชั่วโมง 55 นาที ซึ่งทั้งคู่จะโคจรรอบดวงอาทิตย์ไปด้วยกัน ทั้งนี้การพุ่งชนโดย DART จะทำให้การโคจรของ Dimorphos รอบลูกพี่เปลี่ยนแปลงไปประมาณ 10 นาที และทั้งคู่จะไม่เป็นอันตรายกับโลกเพราะอยู่ไกลกัน 9.6 ล้านกิโลเมตร

เดือนพฤศจิกายน 2021 นาซาได้ปล่อยยานอวกาศ DART ออกจากฟลอริดา และกำลังเคลื่อนที่ไปยัง Dimorphos เพื่อพุ่งชนด้วยความเร็วประมาณ 22,500 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งแรงชนจะทำให้ DART เป็นเหมือนเครื่องเจาะแบบกระแทก ซึ่งจะทำให้ Dimorphos เกิดปล่องลึกขนาดหลายสิบเมตร แต่จะไม่ทำให้ระเบิดหรือแตกกระจาย แต่จะมีแค่เศษหินและเศษฝุ่นขยะปลิวไปสู่อวกาศประมาณ 1,000,000 กิโลกรัม ที่สำคัญมีโอกาสทำให้วงโคจรของ Dimorphos เบี่ยงเบนไป

DART มีระบบนำทางที่ช่วยให้สามารถเข้าพุ่งชน Dimorphos ได้อย่างถูกต้อง (ไม่ชนผิดดวง) ซึ่งยานน้ำหนัก 570 กิโลกรัม จะพุ่งชนเข้ากับดาวเคราะห์น้อยหนักประมาณ 5,000 ล้านกิโลกรัม จึงเทียบได้กับการขับรถกอล์ฟเข้าพุ่งชนมหาพีระมิด ทั้งนี้ระหว่างการพุ่งชนจะมีกล้องของ DART และดาวเทียมขนาดเล็กของอิตาลี LICIACube จับภาพส่งมายังโลกให้ชมกัน และอีก 2 – 3 สัปดาห์จะมีการตรวจสอบความเบี่ยงเบนของวงโคจรต่อไป

ที่มา : euronews และ space.com

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส