ทีมผู้สร้างและนักแสดงนำใน ‘Alien: Romulus’ ได้เข้าร่วมงาน San Diego Comic-Con โดยผู้กำกับ เฟเด อัลบาเรซ (Fede Álvarez) และหนึ่งในนักแสดงนำอย่าง อาร์ชี เรเนาซ์ (Archie Renaux) ได้กล่าวถึงการใช้เอฟเฟกต์พิเศษแบบพื้นฐานในหลายฉาก, การถ่ายทำแบบตามลำดับเวลา และการเสียชีวิตของตัวละครจำนวนมาก
เรเนาซ์ได้กล่าวว่า
อัลบาเรซได้กล่าวว่า
เขาได้กล่าวเสริมว่า
‘Alien: Romulus’ เป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างตอนจบของ ‘Alien’ (1979) ของ ริดลีย์ สกอตต์ (Ridley Scott) และก่อนถึงเหตุการณ์ใน ‘Aliens’ (1986) ของ เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) นำแสดงโดยนักแสดงรุ่นใหม่อย่าง เคลี สแปนี (Cailee Spaeny), เดวิด จอนส์สัน (David Jonsson), อาร์ชี เรเนาซ์, อิซาเบลา เมอร์เซด (Isabela Merced), สไปก์ เฟิร์น (Spike Fearn) และไอลี วู (Aileen Wu) ซึ่งเป็นการแยกเส้นเรื่องจาก ‘Prometheus’ (2012) และ ‘Alien: Covenant’ (2017) ของสกอตต์ที่เล่าเรื่องจุดกำเนิดของตัว Xenomorph

‘Alien: Romulus’ ได้รับการโปรโมตมาโดยตลอดว่าเน้นการใช้เอฟเฟกต์พิเศษแบบพื้นฐานเป็นหลัก ซึ่งนอกจากเป็นการตอบสนองต่อปัญหาการสร้างตัว Xenomorph ด้วย CGI ใน ‘Alien: Covenant’ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก ยังเป็นการกลับสู่อารมณ์สยองขวัญแบบดั้งเดิมดังที่สกอตต์ได้สร้างสรรค์ไว้ใน ‘Alien’ ภาคแรก ซึ่งเน้นการนำเสนองานดีไซน์ตัว Xenomorph ที่ออกแบบได้อย่างดุดันและสวยงามโดย เอช. อาร์. กีเกอร์ (H.R. Giger) รวมถึงภาคต่อ ๆ มา โดยไม่พึ่งพา CGI มากจนเกินไป
ไม่เพียงแค่นั้น อัลบาเรซยังมีความเชี่ยวชาญในการใช้เอฟเฟกต์พิเศษพื้นฐานในภาพยนตร์ของตนอย่างต่อเนื่อง เช่น ‘Evil dead’ (2013) เวอร์ชันรีบูต หรือ ‘Don’t Breathe’ (2016) เป็นต้น ซึ่งทำให้เขาสามารถนำเอฟเฟกต์พิเศษเหล่านี้มาเป็นตัวกระตุ้นให้นักแสดงโชว์ศักยภาพในฉากที่มีความตึงเครียดและน่ากลัวได้เป็นอย่างดี
‘Alien: Romulus’ มีกำหนดฉายในวันที่ 15 สิงหาคม 2024 นี้






