ทุกคนที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าก็ต้องมีเครื่องชาร์จรถติดบ้านไว้เพื่อชาร์จรถทุกคืนเหมือนชาร์จมือถือนะครับ แต่ก็ไม่ใช่ทุกสถานที่จะสามารถติดตั้งตู้ Home Charger ได้ โดยเฉพาะที่พักที่เป็นคอนโด หรือพื้นที่ส่วนรวมที่ติดตั้งอุปกรณ์เองไม่ได้ การใช้ Portable EV Charger หรือบางคนก็เรียกว่าที่ชาร์จฉุกเฉินจึงเป็นทางออกสำหรับผู้ใช้กลุ่มนี้ Anitech แบรนด์เทคโนโลยีของไทยจึงเปิดตัว EV-ONE เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าขึ้นมาตอบโจทย์ในจุดนี้

สเปกของ Anitech EV-ONE

  • หัวปลั๊กรูปแบบ Type 2
  • สายไฟยาว 5 เมตร
  • ปรับกำลังไฟฟ้าได้ 4 ระดับตั้งแต่ 16แอมป์, 13แอมป์, 10แอมป์ และ 8แอมป์ ให้เหมาะกับการใช้ในสถานที่ต่างกัน
  • พร้อมกำลังขับ 3.5 กิโลวัตต์
  • หน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 3 นิ้ว ไฟแสดงสถานะแบบ LED พร้อมปุ่มทัชสกรีน
  • มีมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น IP65
  • ปริมาณกระแสไฟฟ้า Input/ Output : 250 VAC 50 Hz
  • ตัวขาปลั๊กรองรับการใช้งานสำหรับที่อยู่อาศัยในทุกรูปแบบไม่ว่าจะมีการติดตั้งสายดินไว้หรือไม่
  • มีโหมดการตั้งเวลาชาร์จ
  • มีระบบความปลอดภัย ทั้งป้องกันแรงดันไฟฟ้าเกิน, ป้องกันไฟฟ้าไหลเกินกำลัง, ป้องกันแรงดันไฟฟ้าตก, ระบบสายดินป้องกันไฟฟ้ารั่วไหล, ป้องกันอุณหภูมิสูงเกินไป รวมถึงป้องกันฟ้าผ่า
  • ใช้ได้กับรถยนต์ไฟฟ้าทั้งระบบแบตเตอรี่และระบบปลั๊กอินไฮบริด
  • รับประกันสินค้า 1 ปี วงเงินการรับประกันสูงสุดถึง 300,000 บาท ในกรณีเกิดปัญหาที่มีต้นเหตุจากหัวชาร์จของ Anitech
  • พร้อมบริการหลังการขายที่พร้อมให้คำปรึกษาตลอดอายุการใช้งาน
  • ราคาพิเศษ 7,990 บาท จากราคาปกติ 12,990 บาท
  • โปรโมชันพิเศษสำหรับ 50 ท่านแรก รับสิทธิ์พิมพ์ชื่อลงบนเครื่องชาร์จฟรี
    • สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์ Anitech EV ONE สามารถดูสั่งจองได้ที่ช่องทาง LineOfficial : @Anitech หรือ anitechonline.com

Anitech เป็นแบรนด์ที่ผลิตสินค้าให้ได้ตามมาตรฐานมอก. อยู่แล้ว Anitech EV-ONE จึงเป็นหัวชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์แรกที่ผลิตในไทย และได้มอก. 5 มาตรฐาน (ส่วนหนึ่งคือ มอก.11 และ มอก.166) เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจในความปลอดภัย

ชาร์จด้วยเครื่องแบบนี้จะมีปัญหาไหม

ในวงการผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้านั้นยังมีข้อถกเถียงว่าการใช้เครื่องชาร์จลักษณะนี้ ที่หลายคนก็เรียกว่าเครื่องชาร์จฉุกเฉิน มันก็ควรใช้แต่ในตอนฉุกเฉินสิ ปกติก็ควรชาร์จกับ Home Charger มากกว่า เราจึงถามคุณโธมัส-พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด เจ้าของแบรนด์ Anitech ก็ได้คำตอบมาว่า

โธมัส-พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด
โธมัส-พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด

เรายังไม่เห็นปัญหาเรื่องคุณภาพกับการชาร์จแบบนี้ ไม่มีงานวิจัยไหนบอกว่าการชาร์จด้วยเครื่องพกพานี้จะมีปัญหามากกว่าแบบตู้ชาร์จ

คุณโทมัสก็ยังขยายความว่า Anitech EV ONE ยังมีระบบเลือกกำลังไฟฟ้าที่ต้องการใช้ได้ ตั้งแต่ 8, 10, 13 และ 16A ให้เหมาะสำหรับการชาร์จในสถานที่ต่าง ๆ อย่างไปเสียบใช้บ้านต่างจังหวัดก็ไม่มั่นใจว่าระบบไฟฟ้าในบ้านเก่าจะรองรับกระแสได้มาก ก็สามารถลดการใช้ไฟลงได้ เพื่อไม่ให้เบรกเกอร์ตัด

ซึ่งแน่นอนว่าการชาร์จด้วยเครื่องแบบนี้มันชาร์จช้ากว่าการชาร์จกับตู้อยู่แล้ว แต่มันก็เหมือนการชาร์จมือถือที่ผู้ใช้ไม่ได้ชาร์จจาก 0% แต่มีแบตเตอรี่อยู่แล้ว แล้วชาร์จเติมไฟในส่วนที่ใช้งานไปแต่ละวันเท่านั้น ซึ่งการชาร์จในช่วงเข้านอนก็น่าจะเพียงพอสำหรับการใช้งานในวันปกติ

ซึ่งคุณโทมัสก็มองว่า Anitech EV ONE มีกลุ่มเป้าหมายคือคนใช้รถ EV ที่ในแบรนด์หรือรุ่นที่ไม่ได้แถมที่ชาร์จฉุกเฉินมาด้วย หรือใครที่ต้องการซื้อที่ชาร์จเพิ่ม สำหรับการชาร์จในหลายสถานที่ เช่นทิ้งไว้ที่บ้านอันหนึ่ง ที่ทำงานอันหนึ่ง ซึ่งการชาร์จด้วยหัวชาร์จลักษณะนี้ก็ทำให้มีจุดชาร์จยืดหยุ่นกว่าการชาร์จกับตู้ที่จำกัดเฉพาะบางช่องจอดเท่านั้น

เรื่องราวการพัฒนา

คุณโธมัสเล่าภาพรวมให้ฟังว่า เทรนด์การใช้รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าทั้งแบบแบตเตอรี่และแบบปลั๊กอินไฮบริดมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยมีการคาดการณ์ว่าในปี 2566 มีปริมาณกว่า 15 ล้านคัน และในปี 2567 จะเพิ่มขึ้นรวมกว่า 17.9 ล้านคัน ทั่วโลก ขณะที่ประเทศไทยก็มีส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV และ PHEV มากที่สุดในภูมิภาคอาเซียนกว่า 59.2% จึงเป็นโอกาสและที่มาของการแตกไลน์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอนิเทคในวันนี้

ซึ่งทีมใช้เวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับวิศวกรรถยนต์ EV กว่า 1 ปี ด้วยงบการวิจัยกว่า 5 ล้านบาท การันตีด้วยความเชี่ยวชาญกว่า 18 ปี ในตลาดอุปกรณ์คอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์

โดยภายในปี 2566 คาดว่าเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Anitech EV ONE จะสร้างยอดขายได้มากกว่า 1,000 ชิ้น และจะสูงขึ้นในปีต่อ ๆ ไปตามเทรนด์ โดยตั้งเป้ายอดขาย 10 ล้านบาท ผ่านการขยายตลาดไปยังกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าและรับผลิตให้กับแบรนด์รถยนต์ที่ตั้งฐานผลิตและประกอบในประเทศไทย

โดยตอนนี้มีการคุยกับค่ายรถเพื่อขายพร้อมรถไฟฟ้าใหม่ และในอนาคตก็จะมีการออกผลิตภัณฑ์สำหรับรถไฟฟ้าออกมาอีก เช่นที่กำลังจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้คือ V2L – Vehicle to Load ที่เป็นเหมือนปลั้กพ่วงต่อไฟจากแบตเตอรี่ของรถไฟฟ้าออกมาเป็นปลั้กให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปใช้

รู้จัก Anitech

บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัดเริ่มต้นในปี 2004 โดยทำสินค้าแบบ OEM ก่อนที่จะเริ่มสร้างแบรนด์ Anitech ใน 2006 โดยเริ่มต้นแบรนด์จากการขายอุปกรณ์สำหรับคอมพิวเตอร์มาก่อน จนปี 2010 ถึงทำปลั้กไฟที่หลายคนรู้จัก แล้วปี 2018 จึงเริ่มทำเครื่องใช้ไฟฟ้า ปี 2019 ทำ IoT และปี 2020 ทำ LAB+ เป็นสินค้า personal care

ทำให้ Anitech มี 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ คืออุปกรณ์ต่อคอม, กลุ่มปลั้กไฟ, กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่ง 3 กลุ่มนี้คิดเป็นส่วนแบ่งราย 30,30,30% ของบริษัท สุดท้ายคือกลุ่ม Personal Care คิดเป็น 10% และล่าสุดคือกลุ่ม Green Tech เป็นกลุ่มที่ 5 ซึ่งผลิตภัณฑ์แรกคือเครื่องชาร์จไฟรถยนต์ไฟฟ้า

ในปี 2023 มีสินค้าเปิดตัวใหม่กว่า 150 รายการ เมื่อรวมกับสินค้าทั้งหมดจะทำให้แอนิเทคมีสินค้าที่วางจำหน่ายในตลาดมากกว่า 1,000 รายการ และในปี 2024 แอนิเทคมุ่งมั่นที่จะก้าวไปสู่แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ที่มีสินค้าหลากหลายตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกมิติผ่านผลิตภัณฑ์โดยคาดว่าจะเปิดตัวสินค้าใหม่อีก 200 รายการ จะทำให้แอนิเทคมีสินค้ารวมกันมากกว่า 1,200 รายการ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส