Lamborghini Temerario ศักราชใหม่แห่งกระทิงดุ ยนตรกรรมที่เข้ามาเติมเต็มไลน์อัปไฮบริดสมรรถนะสูง (HPEV) ต่อจาก Revuelto V12 และ Urus SE ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดย Temerario ได้สร้างบรรทัดฐานใหม่ด้วยการผสานจิตวิญญาณของซูเปอร์สปอร์ตคาร์เข้ากับเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดที่ล้ำสมัยที่สุด ซึ่ง BT beartai ได้รับเชิญไปร่วมงานเปิดตัวในครั้งนี้ด้วย
หัวใจหลักคือเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตรที่ถูกรังสรรค์ขึ้นใหม่ทั้งหมด ณ Sant’Agata Bolognese สามารถลากรอบเครื่องยนต์ได้สูงถึง 10,000 รอบต่อนาที ผสานพลังกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว สู่กำลังมหาศาล 920 แรงม้า (PS) ผลลัพธ์คืออัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.7 วินาที และทะยานสู่ 200 กม./ชม. ใน 7.4 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุด 343 กม./ชม. นี่คือการผสมผสานที่สมบูรณ์แบบระหว่างเสียงคำรามอันเป็นเอกลักษณ์ของ Lamborghini และแรงบิดมหาศาลจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ตอบสนองในเสี้ยววินาที

25 มิถุนายน 2568 – เรนาสโซ มอเตอร์ ผู้จำหน่ายรถยนต์ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย ได้เผยโฉม “Temerario” (เทเมราริโอ) ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นล่าสุดจาก Lamborghini นำโดย อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการ บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด พร้อมด้วย สเตฟาน วิงเคิลมันน์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี และ ฟรานเชสโก้ สกาดาโอนิ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี ที่ร่วมมาเปิดเผยถึงแนวคิดในการรังสรรค์ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ปลั๊กอินไฮบริดคันนี้
ดีไซน์ที่หลอมรวมกับอากาศพลศาสตร์ราวกับประติมากรรม
ทุกเส้นสายของ Temerario ถูกออกแบบภายใต้เป้าหมายเดียว: ประสิทธิภาพสูงสุด หลักอากาศพลศาสตร์คือหัวใจสำคัญ ตั้งแต่ไฟ DRL ทรงหกเหลี่ยมที่ทำหน้าที่เป็นช่องรับลม ไปจนถึงการจัดการอากาศใต้ท้องรถอย่างชาญฉลาด ส่งผลให้มีแรงกด (Downforce) เพิ่มขึ้นจาก Huracán EVO ถึง 103% ทำให้ตัวรถมีเสถียรภาพในการยึดเกาะถนนที่ความเร็วสูงได้อย่างยอดเยี่ยม ควบคู่ไปการระบายความร้อนระบบเบรกที่ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 50% ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่เพื่อสร้างเสถียรภาพและความมั่นใจในทุกย่านความเร็ว
นอกจากนี้ Temerario ยังมอบประสบการณ์ที่หลากหลายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น สามารถ ลดการปล่อยก๊าซ CO₂ ได้ถึง 50% เมื่อเทียบกับ Huracán และยังสามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ได้อีกด้วย
ปรัชญา ‘Feel Like a Pilot’ ถูกถ่ายทอดสู่ห้องโดยสารอย่างสมบูรณ์แบบ แดชบอร์ดเพรียวบาง จอแสดงผล 3 ตำแหน่งที่จัดวางอย่างชาญฉลาด และพวงมาลัยที่อัดแน่นด้วยฟังก์ชันควบคุม ทำให้ผู้ขับขี่มีสมาธิอยู่กับท้องถนนได้อย่างเต็มที่ การเลือกใช้วัสดุชั้นสูงอย่างคาร์บอนไฟเบอร์ หนังแท้ และ Dinamica® Corsatex Suede ตอกย้ำความหรูหราที่มาพร้อมความสปอร์ต ขณะที่พื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มขึ้นก็มอบความสบายอย่างเหนือชั้นกว่าซูเปอร์คาร์รุ่นใดในเซกเมนต์เดียวกัน แม้แต่พื้นที่สำหรับผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และสัมภาระ
ประสบการณ์ขับขี่ที่ไร้ขีดจำกัดด้วยโหมดขับขี่ 13 รูปแบบ
Temerario มีโหมดการขับขี่ที่แตกต่างกันถึง 13 รูปแบบ ผ่านระบบ ANIMA (Città, Strada, Sport, Corsa และ Corsa Plus) และการจัดการพลังงานไฮบริด 3 โหมด (Recharge, Hybrid และ Performance) ตั้งแต่การขับขี่ด้วยไฟฟ้า 100% ในโหมด Città เพื่อการเดินทางภายในเมือง ไปจนถึงการปลดปล่อยศักยภาพสูงสุดในสนามแข่งด้วยโหมด Corsa Plus และ Drift Mode โหมดพิเศษใหม่ล่าสุด ที่เปิดมิติใหม่ของการควบคุมแบบโอเวอร์สเตียร์ได้อย่างแม่นยำ เร้าใจ และปลอดภัย
สะท้อนความเป็นตัวตนอันทรงพลังงานผ่าน Ad Personam
เฉกเช่นเดียวกับผลงานศิลปะทุกชิ้นจากลัมโบร์กินี Temerario เปิดโอกาสให้เจ้าของได้สะท้อนตัวตนอย่างไร้ขีดจำกัดผ่านโปรแกรม Ad Personam ด้วยตัวเลือกสีภายนอกกว่า 400 เฉดสี พร้อมวัสดุตกแต่งและล้อดีไซน์พิเศษ เพื่อรังสรรค์ยนตรกรรมหนึ่งเดียวในโลกที่เป็นของคุณอย่างแท้จริง ซึ่งภายในงานนี้ ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ ได้แสดง Temerario ในสีใหม่ อย่าง Blu Marinus ที่สะท้อนความหรูหราอย่างมีระดับและแฝงไปด้วยพลัง นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัวสีใหม่ Verde Mercurius