สำหรับใครที่กำลังมีอาการเหล่านี้ กินเท่าไหร่ก็ไม่พอ ไม่หิวแต่ยังอยากกินอยู่ บางทีไม่อยากกินแต่กลับห้ามตนเองไม่ได้ พอกินเสร็จก็กลับมานั่งเครียด ละอายใจกับพฤติกรรมกินเยอะของตนเอง รู้หรือไม่ว่าอาการเหล่านี้อาจบ่งบอกว่าคุณกำลังเป็น ‘โรคกินไม่หยุด’ อยู่ก็เป็นได้

โรคกินไม่หยุด

โรคกินไม่หยุด (Binge Eating Disorder) คืออาการเกี่ยวกับโรคทางจิตเวชอย่างหนึ่ง ที่ผู้ป่วยรู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมการกินของตนเองได้ แม้ไม่หิวหรือรู้สึกอิ่มแต่กลับยังกินต่อไปไม่หยุด ซ้ำยังกินในปริมาณมากในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งโดยปกติแล้วทุกคนจะอยากกินเยอะ ๆ หรือมีพฤติกรรมเหล่านี้นาน ๆ ครั้งต่อเมื่ออยู่งานเลี้ยงสังสรรค์ โอกาสพิเศษต่าง ๆ ในขณะที่คนที่ป่วยเป็นโรคกินไม่หยุด จะมีพฤติกรรมควบคุมการกินของตนเองไม่ได้มากกว่า 1 ครั้งต่อสัปดาห์ และเป็นมานานกว่า 3 เดือน

โดยโรคกินไม่หยุดสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ  ทุกวัย โดยที่ผู้ป่วยเองอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตนเองกำลังเผชิญกับโรคนี้อยู่

อาการของโรคกินไม่หยุด

แม้ว่าอาการกินไม่หยุด จะส่งผลให้ผู้ที่ป่วยโรคนี้มีน้ำหนักตัวที่มากกว่าเกณฑ์ แต่ขณะเดียวกันผู้ที่มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติก็สามารถเป็นโรคนี้ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งอาการของโรคก็จะสัมพันธ์กับภาวะอารมณ์ของผู้ป่วยด้วย

  • กินอาหารในปริมาณมากกว่าปกติ 
  • ไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมการกินของตนเองได้
  • กินอาหารอย่างรวดเร็ว
  • ชอบกินข้าวคนเดียว หรือแอบกินไม่ให้คนอื่นเห็น
  • รู้สึกเบื่อหน่าย เครียด ละอายใจ กับพฤติกรรมการกินของตนเอง

สาเหตุของการเกิดโรค

สำหรับสาเหตุของโรคกินไม่หยุด ยังไม่มีการระบุที่แน่ชัดว่ามาจากสาเหตุอะไร โดยปัจจัยที่อาจสนับสนุนให้เกิดโรคนี้ได้ เช่น 

  • ผู้ที่เครียดกับการลดน้ำหนัก ไม่มั่นใจในรูปร่างของตนเอง และเคยผ่านการลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารมาในเวลานาน ซึ่งเมื่อกลับมากินปกติแล้วจะรู้สึกอยากกินมากขึ้นกว่าเดิม จนไม่สามารถควบคุมการกินของตนเองได้
  • บางกรณีอาจเกิดกับบุคคลที่ครอบครัวมีประวัติเป็นโรคที่เกี่ยวกับการกินผิดปกติ
  • ผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับอาการป่วยทางจิตเวช เช่น โรคซึมเศร้า โรคไบโพลาร์ โรคเครียด เป็นต้น

ปัญหาสุขภาพที่ตามมา

ผู้ที่เป็นโรคกินไม่หยุดมายาวนาน จะมีปัญหาเกี่ยวกับภาวะทางจิตโดยไม่รู้ตัว เพราะคุณอาจรู้สึกกังวล ซึมเศร้า และไม่อยากพบเจอผู้คนเนื่องจากอับอายกับพฤติกรรมการกินเยอะของตนเอง นอกจากนี้ ยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคอื่น ๆ ตามมาอีกด้วย เช่น

  • โรคอ้วน
  • โรคเบาหวาน
  • โรคความดันโลหิตสูง
  • ระดับคอลเลสเตอรอลสูง
  • โรคปวดข้อ
  • โรคหัวใจ
  • โรคหยุดหายใจขณะนอนหลับ

วิธีป้องกันและรักษา

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่า โรคกินไม่หยุด มักจะมาควบคู่กับผู้ที่มีอาการป่วยเกี่ยวกับภาวะทางจิตร่วมด้วย ดังนั้น แนวทางการรักษาของแพทย์ก็จะดูว่าสาเหตุโรคกินไม่หยุดของคุณมาจากโรคอื่น ๆ ร่วมด้วยหรือไม่ และให้ยารักษาของโรคนั้น ๆ 

ในขณะที่บางคนอาจจะเกิดจากภาวะเครียด กดดัน เรื่องการลดน้ำหนักของตนเองในอดีต แพทย์ก็จะใช้วิธีรักษาด้านจิตบำบัด โดยผู้ป่วยจะต้องค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนความคิด และพฤติกรรมการกินของตนเองทีละนิด อย่างไรก็ตาม หากคนรอบข้างหรือคนที่คุณรักกำลังเผชิญกับโรคนี้อยู่ ความเข้าใจถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด อย่าต่อว่าหรือใช้ถ้อยคำที่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกผิดหวังในตนเอง แต่ให้แนะนำโดยการพาไปพบแพทย์เพื่อรักษาอย่างตรงจุดจึงจะเป็นผลดีที่สุด 

ที่มา mayoclinic, womenshealth

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส