งาน WWDC2018 ในปีนี้ มีการเปิดตัว macOS ตัวใหม่ล่าสุด ในชื่อ “Mojave” (อ่านว่า โม-ฮา-เว่) โดยชื่อนี้มาจากชื่อทะเลทรายที่อยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยมีฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ ดังนี้

Dark Mode เป็นโหมดที่หลายคนร้องว้าวกันเลย เพราะมีดีไซน์ที่สวย น่าใช้ โดยฟีเจอร์นี้จะเป็นการปรับโทนสีของหน้าจอให้เป็นโทนสีมืดลง เพื่อให้เราสบายตาในการทำงาน ในโหมดนี้มีการปรับเป็นสีมืดในแอปทั้งหมดของทาง macOS ทั้ง Mail, Message, Maps, Calendar, Photos, ภาพ Wallpaper ที่สามารถปรับเปลี่ยนไปตามโหมดที่ใช้ รูปโทนปกติที่สว่างเป็นตอนกลางวันอีกรูปหนึ่ง รูป Dark Mode ที่เป็นรูปตอนกลางคืนอีกรูปหนึ่งได้และ ตัว Dock กับ Menu Bar ด้ว

Desktop and Finder มีส่วนที่น่าสนใจ ดังนี้

  • Stack สามารถทำให้ไอคอนต่างๆ บนหน้าจอที่รกของเรามีการแบ่งกลุ่มให้อัตโนมัติ โดยแบ่งตามรูปแบบไฟล์ สามารถเข้าไปใช้ได้ง่ายขึ้น
  • Gallery View โฉมใหม่ สามารถดูตัวอย่างของไฟล์คร่าวๆ ก่อนที่จะกดเข้าไปดูได้
  • Preview Pane แสดงข้อมูล รายละเอียดของไฟล์ได้ ทำให้เราทราบว่าไฟล์นี้คืออะไร
  • Quick Actions / Quick Look สามารถจัดการกับไฟล์ที่เราต้องการเลือกได้อย่างรวดเร็ว เช่น สร้าง Password ให้กับไฟล์ PDF, ตัดต่อวีดีโออย่างง่ายๆ หรือกลับรูปหรือตัดรูปได้โดยไม่ต้องผ่านแอปอื่น

News, Stock, Voice Memo และ Home แอปที่มีใน iOS ตอนนี้สามารถใช้กับ macOS ได้แล้ว โดยสามารถอ่านข่าว ดูเรื่องหุ้นได้ ซิงก์ไฟล์เสียงที่เราอัดจาก iOS ออกมาได้ว่ายขึ้น หรือควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านได้ง่ายขึ้นแ และมีการปรับโฉมให้สามารถใช้งานใน macOS ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

Group FaceTime สามารถแชทแบบเห็นหน้าเป็นกลุ่มได้แล้ว โดยจำนวนสูงสุดที่สามารถทำได้คือ 32 คน

Mac App Store มีการปรับโฉมใหม่ มีส่วนของ Discovery ที่เหมือนกับ iOS ที่จะมีการแนะนำแอปที่น่าสนใจเพื่อให้เราเข้าถึงแอปที่เราต้องการได้มากขึ้น ซึ่งรวมไปถึงแอป Office ของทาง Microsoft, Lightroom CC ของ Adobe ที่จะมาเร็วๆ นี้

Privacy and Security ในส่วนของ Safari สามารถตั้งค่าเปิด-ปิดการ Tracking รวมไปถึง Widget ที่เข้ามา เพื่อให้เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้ตัวเว็บสามารถเข้าถึงข้อมูลอะไรของเราได้บ้าง เป็นการป้องกันการเข้าถึงข้อมูลของเราได้มากขึ้น ทั้ง Password ในแต่ละเว็บ รวมไปถึงไมโครโฟน ข้อมูลส่วนตัว ประวัติการเข้า Mail และ Message ได้

ฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ

  • สามารถบันทึก Screenshots ได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงสามารถบันทึกหน้าจอเป็นวีดีโอได้แล้ว
  • สามารถใช้กล้องจาก iPhone หรือ iPad ที่อยู่ใกล้ แล้วให้ไปออกใน Mac ได้ทันที
  • เครื่องมือ Markup รวมเอาไว้ใน Finder, Quick Look และ Screenshots แล้ว เราสามารถเข้าไปแสดงความคิดเห็นและแชร์ข้อมูลกับคนอื่นได้ง่ายขึ้น

สำหรับใครที่เป็นนักพัฒนา สามารถเข้าไปใช้ตัว Developers Preview ของ macOS Mojave ได้แล้วที่ https://developer.apple.com/ ส่วนผู้ใช้ทั่วไป ตัว Public beta สามารถใช้ได้ในช่วงปลายเดือนมิ.ย. ทาง https://beta.apple.com/sp/betaprogram/ ส่วนตัวเต็มสามารถอัพเดตได้ฟรีในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ประมาณเดือน ก.ย. – พ.ย.)

อ้างอิงจาก Apple Newsroom / Apple