เทสลา (Tesla) ผู้ผลิตรถยนต์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกได้ยื่นเอกสารไปยังสำนักงานบริหารความปลอดภัยการจราจรบนทางหลวงแห่งชาติ (NHTSA) ว่าจะเรียกคืนรถยนต์เพื่อปลอดภัยจำนวน 475,318 คัน ประกอบด้วยรถยนต์ซีดานไฟฟ้า Model 3 จำนวน 356,309 คัน และรถยนต์ซีดานไฟฟ้ารุ่นหรู Model S จำนวน 119,109 คัน

การเรียกคืนรถยนต์ Model 3 เนื่องจากเทสลาเชื่อว่าการเปิดปิดฝากระโปรงหลังหลายครั้งอาจทำให้ชุดสายเคเบิ้ลที่เชื่อมต่อสายโคแอ็กเชียลส่งสัญญาณภาพจากกล้องมองหลังไปแสดงยังจอภาพเกิดความเสียหาย ซึ่งจะส่งผลให้ไม่สามารถรับสัญญาณและแสดงภาพจากกล้องมองหลังได้

เทสลาจึงเรียกคืนรถยนต์ Model 3 ทั้งหมดที่จำหน่ายตั้งแต่ปี 2017 – 2020 จำนวน 356,309 คัน ซึ่งคิดว่ามีเพียง 1% ที่จะพบปัญหา และเมื่อลูกค้ารายใดนำรถมาเข้าศูนย์และตรวจพบปัญหานี้ บริษัทจะติดตั้งชุดสายเคเบิลและตัวป้องกันสายให้ใหม่ฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

การเรียกคืนรถยนต์ Model S เนื่องจากการวางแนวสลักล็อกกระโปรงหน้าไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจจะทำให้กระโปรงหน้าของรถยนต์ล็อกไม่ได้ และหากกระโปรงหน้ารถเปิดขึ้นในขณะที่ขับขี่ก็จะบดบังการมองเห็นได้ ดังนั้นเทสลาจึงเรียกคืนรถยนต์ Model S ในบางรุ่นจำนวน 119,109 คัน ซึ่งประมาณว่ามีเพียง 14% ที่จะพบปัญหานี้และเมื่อลูกค้ารายใดนำรถมาเข้าศูนย์และตรวจพบปัญหา บริษัทจะแก้ไขโดยการวางแนวสลักล็อกให้ถูกต้อง ส่วนใครที่นำรถไปซ่อมก่อนหน้าการเรียกคืนเองแล้ว ทางบริษัทจะรับผิดชอบโดยการจ่ายเงินชดเชยให้คืน

อย่างไรก็ตาม เทสลาเผยว่าไม่มีข้อบกพร่องใดที่นำไปสู่การชนหรือการได้รับบาดเจ็บ

ที่มา : theverge

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส