อินเดียประเทศที่มีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 2 ของโลก (10.3 ล้านคน) รวมถึงมีผู้เสียชีวิตราว 150,000 คน อนุมัติให้ฉีดวัคซีนที่ผลิตโดยประเทศอินเดียในกรณีฉุกเฉินแล้ว

เจ้าหน้าที่หน่วยงานกำกับดูแลยาอนุญาตให้ฉีดวัคซีน 2 ตัว ที่ถูกพัฒนาโดย AstraZeneca ร่วมกับมหาวิทยาลัย Oxford และ บริษัทในพื้นที่ Bharat Biotech โดยนายกรัฐมนตรี Narendra Modi กล่าวว่า นี่จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในอินเดีย ในขั้นแรกอินเดียวางแผนจะฉีดวัคซีนเหล่านี้ให้กับผู้มีสิทธิพิเศษ 300 ล้านคนอันได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ เคสกรณีฉุกเฉิน และผู้ที่มีความเสี่ยงเนื่องจากอายุหรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ภายในปีนี้

เมื่อวันเสาร์ที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา อินเดียได้ฝึกซ้อมบุคลากรกว่า 90,000 คนเพื่อเตรียมพร้อมดูแลสุขภาพประชากร 1,300 ล้านคนทั่วประเทศ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์จารณ์ของนักการเมืองฝ่ายค้าน และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์บางรายถึงความโปร่งใส และความไม่ปลอดภัยของวัคซีน เจ้าหน้าที่กำกับดูแลยาก็ยืนยันว่าบริษัททั้ง 2 ได้ส่งข้อมูลที่แสดงว่าวัคซีนของตนปลอดภัยพร้อมใช้งาน

วัคซีน Oxford / AstraZeneca ถูกผลิตขึ้นในประเทศ โดยสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (Serum Institute of India) ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดของโลก มีจำนวนวัคซีนที่ผลิตมากกว่า 50 ล้านโดสต่อเดือน ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤศจิกายน Adar Poonawalla ผู้บริหารของบริษัทเคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว BBC ไว้ว่า พวกเขาตั้งใจจะผลิตให้ได้ 100 ล้านโดสต่อเดือนหากวัคซีนดังกล่าวได้รับการอนุมัตฺิแล้ว

วัคซีนตัวดังกล่าว (หรือที่อินเดียรู้จักกันในชื่อ Covishield) จำเป็นจะต้องฉีด 2 ชุด โดยชุดแรกและชุดที่ 2 ต้องฉีดให้ห่างกันระหว่าง 4 – 12 สัปดาห์ วัคซีนสามารถจัดเก็บได้ในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส (ซึ่งมีอุณหภูมิใกล้เคียงกับช่องแช่แข็งทั่วไปมาก) ทำให้ง่ายต่อการขนย้ายมากกว่าวัคซีน Pfizer (จาก BioNTech) ที่ต้องจัดเก็บในอุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส และจำกัดจำนวนในการขนย้ายในแต่ละครั้ง ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญหากต้องขนย้ายวัคซีนดังกล่าวในประเทศอินเดีย

ทางด้านบริษัทท้องถิ่นอย่าง Bharat Biotech ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีการทดลองขนาดใหญ่เพื่อเก็บข้อมูลความปลอดภัยของวัคซีนดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่กำกับดูแลยา Somani กล่าวว่า เพื่อประโยชน์สูงสุดที่ประชาชนจะได้รับ วัคซีน Covaxin ของ Bharat Biotech นั้นมีความปลอดภัย และสามารถสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้กับร่างกายได้ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในทางเลือกที่อาจจะสามารถต้านเชื้อไวรัส Covid-19 สายพันธุ์ใหม่ได้อีกด้วย

ส่วน Pfizer วัคซีนที่ได้รับอนุมัติให้ใช้ในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการขออนุญาติใช้ในกรณีฉุกเฉินในประเทศอินเดีย

อ้างอิง BBC News

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส