ดร. พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE ประเทศไทยเผยถึงการใช้บริการบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ของไลน์เติมโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วง โควิด-19 ในการดำเนินชีวิตในช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาดส่งผลให้ผู้ใช้ไม่ว่าการดำเนินชีวิตประจำวัน พึ่งพาแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ซึ่งภายใน Ecosystem ของ LINE นั้น มีบริการครบถ้วนให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตประจำวันและทำงานได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ เปิดเผยตัวเลขการใช้งานในไทยเติบโตกว่า 2 ล้านคนใน 1 ปี ทั้งยังเป็นแพลตฟอร์มอันดับหนึ่งที่ผู้ใช้งานใช้เวลาบนแพลตฟอร์ม โดยเฉลี่ยถึง 1/3 ของเวลาที่ผู้ใช้ออนไลน์

ในช่วงล็อกดาวน์ มีการใช้ Official Account จาก 3 ล้านเป็น 4 ล้าน ในช่วงเวลสั้น ๆ ในช่วงโควิค-19 สำหรับไลน์ Official Account ที่เพิ่มมา 4 ภาคธุรกิจที่ทำได้ต่อเนื่องและมีการใช้งาน Official Account เพิ่มต่อเนื่องเป็นเรื่องของ Automotive/Retail/Government/F&B นอกจากภาคธุรกิจแล้วภาครัฐก็มีการนำ Official Account ไปใช้ในการสื่อสารในช่วงของสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 เพื่อให้ประชาชนได้ทราบข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้อง

การใช้ Line Call ผ่าน Desktop มีการเพิ่มขึ้นถึง 200% การใช้ VDO Call เพิ่มขึ้น 270% และ Voice Call เพิ่มขึ้น 236% แสดงให้เห็นว่าไลน์เป็นแพลตฟอร์มหลักในการสื่อสารของประชาชนคนไทยในช่วงล็อกดาวน์ นอกจากนี้สติกเกอร์ที่ขายดียังมีเนื้อหาเกี่ยวกับการกักตัวและที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 และ 80% ของสติกเกอร์ที่ออหแบบในช่วงนี้มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19

LINE MAN โตขึ้น 3 เท่าตัวในช่วงล็อกดาวน์ เนื่องจากคนส่วนใหญ่อยู่บ้านกักตัว มีการสั่งอาหารเพิ่มมากขึ้น อาหารที่ได้รับความนิยมเลยจะเป็นอาหารไทย อาหารอีสาน อาหารปิ้งย่าง ซึ่งคนส่วนใหญ่ยังอยากใช้ชีวิตเป็นปกติอยู่ซึ่งในจุดนี้ไลน์สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตให้งานยิ่งขึ้นได้

LINE SHOPPING มีการเติมโตขึ้น 100% ในช่วงเวลสั้น ๆ มูลค่าในการซื้อเพิ่มขึ้น 138% และสิ่งที่คนเข้ามาดูกันเยอะเลยคือสินค้าที่จำเป็นต้องใช้ในบ้าน และสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม และสินค้าเกี่ยวกับสมาร์ตโฟนและ IT ก็มีคนที่สนใจเช่นเดียวกัน

ปัจจัยสำคัญการผลักดัน LINE ประเทศไทยให้เติบโต

  • ทัศนคติ (Mindset) ทัศคติที่เปิดกว้าง ไม่ปิดกั้นความคิดของตัวเอง ที่ LINE เรามีวัฒนธรรมองค์กรข้อหนึ่ง ในการมองปัญหาให้เป็นโอกาสที่เกิดขึ้นได้เสมอ เหมือนกับการพัฒนาบริการของ LINE ที่พัฒนามาจากปัญหาที่ผู้บริโภคประสบอยู่ LINE เรียนรู้จากปัญหาเหล่านี้ เพื่อนำเสนอทางแก้ปัญหาที่ช่วยให้ชีวิตของเขาดีขึ้น ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น
  • ความรวดเร็ว (Agility) เพราะยุคนี้เป็นยุคแห่งเทคโนโลยี ซึ่งทำให้ทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว แบรนด์ องค์กร หรือคนในยุคนี้ จึงต้องมีการปรับตัว รับมือกับการเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมและความต้องการของผู้ใช้เปลี่ยนไปทุกวัน การพัฒนาบริการของเราต้องสามารถปรับเปลี่ยนได้เร็ว ให้ทันเช่นกัน เพื่อเป็นแพลตฟอร์มที่ตอบสนองทุกความต้องการที่เปลี่ยนไปของลูกค้าทุกระดับ ปิดการขาย จนสามารถเพิ่มยอดผู้ใช้ LINE OA ถึง 4 ล้านแอคเคาท์ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
  • เข้าใจและเข้าถึง (Humanization) เป็นแนวคิดในการดำเนินธุรกิจที่สำคัญของ LINE ที่เราคำนึงถึงมาโดยตลอด เราศึกษาและทำความเข้าใจในพฤติกรรมผู้ใช้งาน สังคม และวัฒนธรรม และนำมาปรับใช้กับในแต่ละประเทศที่เราเข้าไปดำเนินธุรกิจ เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะสร้างสรรค์ประโยชน์ ออกแบบบริการที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน และให้บริการอย่างดีที่สุด
  • ยกระดับชีวิตของทุกคน (Elevation) ทุกบริการที่ LINE สร้างสรรค์ออกมา จะต้องช่วยยกระดับชีวิตของทุกคนให้ดีขึ้นรอบด้านตั้งแต่บริการพื้นฐานของ LINE ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการสื่อสาร ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และเป็นเครื่องมือในการดำเนินธุรกิจที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สุดท้ายที่ขาดไม่ได้สำหรับ แพลตฟอร์มดิจิทัลอย่าง LINE คือ Innovation (นวัตกรรม) ทุกบริการและฟีเจอร์ที่เราคิดค้นและพัฒนาต่อยอดขึ้นมาด้วยเป้าหมายการเป็นแพลตฟอร์มที่ใช่สำหรับ New Normal Lifestyle ของผู้ใช้ นั้นหมายถึง ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมทางเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะสามารถยกระดับและตอบโจทย์ทุกวิถีชีวิตและความต้องการทั้งของผู้ใช้งานและธุรกิจได้อย่างเป็นประโยชน์และมีประสิทธิภาพที่แท้จริง