Adobe MAX 2019 เปิดตัวเครื่องมือครีเอทีฟ Photoshop สำหรับ iPad พร้อมเขย่าวงการถ่ายรูป ‘Photoshop Camera’

วันนี้ที่งาน Adobe MAX งานใหญ่ประจำปีที่มุ่งเน้นส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์สำหรับชาวครีเอทีฟ ครั้งนี้ อะโดบี (Nasdaq:ADBE) ได้เปิดตัวโพรดักส์รุ่นใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้เร็วขึ้นพร้อมกับประสิทธิภาพเพื่องานสร้างสรรค์ที่ยอดเยี่ยมครอบคลุมการใช้งานบนสกรีนและระบบปฏิบัติการที่แตกต่างกัน โดย Creative Cloud รุ่นใหม่ ๆ ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ได้แก่ Adobe Photoshop สำหรับ iPad และ Adobe Fresco สำหรับ Microsoft Surfaces พร้อมทั้งเปิดพรีวิว Adobe Illustrator สำหรับ iPad และ Photoshop Camera รุ่นใหม่ล่าสุดที่ทุกคนตั้งตารอ พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัว Adobe Aero เครื่องมือที่ช่วยให้ครีเอเตอร์สร้างคอนเทนต์ที่รวมโลกจริงเข้ากับโลกเสมือน หรือประสบการณ์ AR ได้อย่างลงตัว 

นอกจากนี้ อะโดบียังเผยการอัปเดตสำคัญๆ ได้แก่ Lightroom, Premiere Pro, After Effects, InDesign และ Adobe XD นอกจากอัปเดตความสามารถใหม่ของโพรดักส์กลุ่ม Creative Cloud แล้ว ผู้ใช้ยังจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ บนเครื่องมือต่าง ๆ ที่อะโดบีนำเทคโนโลยี AI และ ML จาก Adobe Sensei มาเสริมให้ผู้ใช้สร้างงานครีเอทีฟได้อย่างรวดเร็วและสมาร์ตยิ่งขึ้น ครอบคลุม Auto Reframe ของ Premiere Pro, Object Selection ใน Photoshop, Auto Tone ใน Photoshop Camera และ Live Brushes ใน Fresco 

สก็อต เบลส์กี้ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์และรองประธานบริหารฝ่าย Creative Cloud ของอะโดบี 

สก็อต เบลส์กี้ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์และรองประธานบริหารฝ่าย Creative Cloud ของอะโดบี กล่าวว่า “ครั้งนี้เราได้ขยายขีดความสามารถและประสิทธิภาพให้กับโพรดักส์ต่างๆ เพื่อตอบโจทย์และเข้าถึงทุกความคิดสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น การเปิดตัวโพรดักส์และอัปเดตความสามารถใหม่ ๆ ในวันนี้ ถือเป็นนิยามใหม่ของประสบการณ์สร้างงานครีเอทีฟที่ตอบโจทย์ทั้งนักออกแบบ ช่างภาพ ผู้สร้างหนัง และนักวาดภาพประกอบ ทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ”

จะใช้ Surface แบบไหน ก็สร้างงานครีเอทีฟได้

การเปิดตัว Creative Cloud ในวันนี้ช่วยให้ทุกคนสามารถครีเอตผลงานได้ทุกที่ ทุกเวลา

• Adobe Photoshop สำหรับ iPad
  • หลังจากเปิดพรีวิวครั้งแรกในงาน MAX เมื่อปีที่ผ่านมา Photoshop สำหรับ iPad ได้นำฟีเจอร์และความสามารถต่างๆ จากเดสก์ท็อปเวอร์ชัน สู่ “แท็บเล็ต” อย่างเป็นทางการ โดยมุ่งเน้นการจัดการแก้ไขตกแต่งภาพ จัดวางองค์ประกอบ รองรับไฟล์ PSD และเครื่องมือออกแบบ UI ที่ได้รับการปรับแต่งให้รองรับทัชสกรีน รวมถึงการเข้าใช้เอกสารบนระบบคลาวด์ และช่วยครีเอตงานได้หลาย ๆ เลเยอร์ (multi-layered creations) Photoshop สำหรับ iPad ได้รับการพัฒนามาเพื่อใช้งานบนแท็บเล็ตโดยเฉพาะ จึงใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้ใช้งานมือใหม่และมืออาชีพ  

• Adobe Fresco สำหรับ Windows
  • Adobe Fresco เวอร์ชั่นสำหรับ iPad ได้รับการเปิดตัวก่อนหน้านี้ และล่าสุดสามารถใช้งานบนระบบปฏิบัติการณ์ Windows บน Microsoft Surface Pro X และ Wacom MobileStudio Pro แล้ว ให้ผู้ใช้วาดภาพและระบายสีผลงานได้อย่างเป็นธรรมชาติ รองรับการทำงานทุกดีไวซ์ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับพู่กัน Raster, Vector และ Live Brush ที่อาศัยการทำงานผ่าน Adobe Sensei ผู้ใช้จึงสามารถใช้พู่กันสีน้ำผสมกับพู่กันสีน้ำมันได้อย่างลงตัว และระบายสีภาพวาดบนหน้าจอได้เหมือนวาดบนผ้าใบจริงๆ  นอกจากนี้ศิลปินยังสามารถซิงก์พู่กันของ Photoshop เพื่อรองรับการทำงานร่วมกับแอปอื่น ๆ ได้อย่างราบรื่นอีกด้วย

• พรีวิว Adobe Illustrator สำหรับ iPad
  • ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา Adobe Illustrator ช่วยให้กราฟิกดีไซเนอร์หลายล้านคนทั่วโลกสร้างสรรค์ผลงานที่ต้องการรวมทั้งสร้างรายได้ให้กับพวกเขา  และพรีวิว Illustrator ตัวล่าสุดของอะโดบีได้ยกความสามารถเวอร์ชันเดสก์ท็อปลงบนจอทัชสกรีน ซึ่งถูกออกแบบเป็นพิเศษเพื่อให้มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานไฟล์เดียวกันดีไวซ์ต่าง ๆ และเข้าถึง Adobe Stock, Adobe Fonts และ Creative Cloud Libraries ทั้งหมดได้อย่างไร้รอยต่อ

• Adobe Photoshop Camera
  • Photoshop Camera แอปพลิเคชันถ่ายภาพน้องใหม่จากอะโดบี ให้ผู้ใช้สมาร์ตโฟนทุกคนได้เพลิดเพลินกับการเนรมิตภาพถ่ายเจ๋ง ๆ โดยการถ่ายรูปผ่าน Photoshop โดยผู้ใช้สามารถครีเอตและแชร์ภาพสวย ๆ ความละเอียดสูงลงบนโซเชียลมีเดียได้อย่างง่ายดาย แอปถ่ายรูปอัจฉริยะที่สร้างความคูลให้กับกล้องบนสมาร์ตโฟนของคุณยิ่งขึ้นไปอีกด้วยเทคโนโลยี Adobe Sensei ที่ช่วยปรับแต่งคุณภาพให้แก่ภาพถ่ายได้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้แอปนี้ยังรวมเอาเลนส์กล้องคุณภาพดี และเอฟเฟกต์พิเศษจากศิลปินชั้นนำ อินฟลูเอ็นเซอร์ชื่อดัง รวมทั้งนักดนตรี Billie Eilish ฝังลงในแอปนี้ด้วย

ยกระดับการสร้างงานครีเอทีฟด้วย Creative Cloud

อัปเดตแอปพลิเคชันและฟีเจอร์เรือธงจากอะโดบี ที่จะมอบประสบการณ์ครีเอตที่ยอดเยี่ยมแก่ผู้ใช้ Creative Cloud ได้แก่

• Lightroom เปิดตัวฟีเจอร์ให้คำแนะนำแบบโต้ตอบสำหรับใช้งานบนเดสก์ท็อป เป็นไกด์รูปใหม่ในการเรียนรู้วิธีแก้ไขภาพถ่ายและค้นพบแรงบันดาลใจจากช่างภาพมืออาชีพ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Panorama Fill Edges ซึ่งจะช่วยเติมขอบภาพด้วยเทคโนโลยี Content-Aware Fill ใช้งานได้บน Windows และ Mac

• Premiere Pro เปิดตัว Auto Reframe ฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี Adobe Sensei ในการวิเคราะห์วิดีโอและตัดต่อวิดีโอตามอัตราส่วนเฟรมที่ต้องการนำไปใช้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ซึ่งช่วยประหยัดเวลาผู้ใช้งานและนำเวลาที่เหลือไปสร้างสรรค์ผลงานอื่นได้มากขึ้น
• After Effects อัปเดตล่าสุดที่พัฒนามาให้ทำงานได้ลื่นไหลขึ้น เล่นวิดีโอพรีวิวได้เร็วขึ้น เล่นไฟล์ EXR ได้เร็วขึ้น และทำงานร่วมกับฟีเจอร์ Content-Aware Fill โดยใช้หน่วยความจำเพียงครึ่งเดียว
• InDesign เปิดตัว SVG Imports สำหรับเวิร์กโฟลว์ออกแบบงานพิมพ์และดิจิทัล พร้อมกับ Variable Fonts ที่เปิดให้ผู้ใช้ปรับแต่งได้ ดีไซเนอร์สามารถปรับแบบอักษรเช่น ความหนา บาง กว้าง เอียง และปรับขนาดฟอนต์ให้เหมาะกับพื้นที่ที่จะนำไปใช้งาน นอกจากนั้นอะโดบียังเพิ่ม Asset Link ไดเร็คลิงค์ที่จะเชื่อมระหว่าง Adobe Experience Manager (AEM) และ InDesign ช่วยให้สามารถสร้างคอนเทนท์ทั้งแบบพรินต์และดิจิทัลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

• ฟีเจอร์ Live Co-Editing และ Document History ใน Adobe XD
  • ฟีเจอร์ Live Co-editing รุ่นเบต้า ช่วยให้ผู้ใช้หลายคนสามารถทำงานบนเอกสารเดียวกันได้แบบเรียลไทม์ทั้งทีมงานฝ่ายออกแบบและฝ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง  นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มเติมฟีเจอร์ Document History ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นรายการที่บันทึกไว้ของเอกสาร สามารถเรียกดูเวอร์ชันที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้ได้ ตั้งชื่อเอกสารที่เฉพาะเจาะจง และสามารถย้อนดูการแก้ไขก่อนหน้าบนหน้าต่างใหม่ได้ด้วย
• เดสก์ท็อปแอปพลิเคชัน Creative Cloud โฉมใหม่
  • แอปพลิเคชัน Creative Cloud สำหรับเดสก์ท็อปที่ออกแบบใหม่ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงการอัปเดตใหม่ ๆ และค้นหาแอปต่าง ๆ ของอะโดบี โดยอัปเดตล่าสุดนี้ประกอบด้วยเสิร์ชเอ็นจินที่เปี่ยมประสิทธิภาพ สามารถค้นหาแอสเซ็ทและไฟล์ Creative Cloud ทั้งหมด พร้อมความสามารถในการแชร์และการเข้าถึงคำแนะนำการใช้งานต่าง ๆ ที่สะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีวิธีการใหม่ในการเข้าถึงบริการต่าง ๆ เช่น Adobe Fonts, Adobe Stock และ Behance รวมถึงเครื่องมือการจัดการแบบเต็มหน้าจอใหม่สำหรับ Creative Cloud Libraries

• เพิ่มประสิทธิภาพ Creative Cloud Libraries รองรับการทำงานร่วมกัน
  • Creative Cloud Library เป็นเครื่องมือที่ช่วยจัดการแอ็สเซ็ทและแชร์ข้อมูลหรือส่วนผสมต่าง ๆ ที่ช่วยให้สร้างผลงานได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ขณะนี้อะโดบีได้รวมไลบรารี่เข้ากับ XD ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์จากโพรเจกต์ที่สร้างในแอปพลิเคชันอื่น เช่น Illustrator บน XD ได้โดยตรง พร้อมกันนี้ยังสามารถใช้งานร่วมกับ Microsoft Word และ PowerPoint เพิ่มขีดความสามารถให้กับเพื่อนร่วมงานทุกแผนกทำงานเอกสารหรืองานพรีเซนเตชันร่วมกันได้อย่างลงตัว รวมทั้งยังได้พัฒนา Library Pack ซึ่งเป็นไลบรารี่ที่สร้างขึ้นเพื่อเก็บแรงบันดาลใจหรือทำหน้าที่เป็นเส้นทางเริ่มต้นสู่ Library สำหรับผู้ใช้ใหม่
• ไลฟ์สตรีมและคำแนะนำขั้นตอนรวมอยู่ในแอป Creative Cloud

โดยทั่วไปแล้ว บุคลากรสายครีเอทีฟพัฒนาขีดความสามารถด้วยการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ด้วยเหตุนี้ อะโดบีจึงเพิ่มฟีเจอร์คำแนะนำขั้นตอนต่างๆ ไว้ภายในแอป Creative Cloud ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ได้เรียนรู้ข้อมูลที่น่าสนใจจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับวิธีการใช้เทคนิคใหม่ ๆ และพัฒนาการทำงานของตนเอง  และในปีหน้า จะสามารถใช้ฟีเจอร์ไลฟ์สตรีมภายในเครื่องมือ Creative Cloud และผ่านทาง Behance ได้

 ท้าทายประสบการณ์สร้างงานครีเอทีฟรูปแบบใหม่ๆ

เนื่องจากครีเอทีฟและผู้บริโภคหันมาใช้งาน Augmented Reality, ระบบ 3 มิติ และระบบสั่งงานด้วยเสียงเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นอะโดบีจึงสร้างเครื่องมือที่ใช้งานง่าย เพื่อรองรับการสร้างสรรค์สื่อชนิดใหม่ๆ และวันนี้อะโดบีได้เปิดตัว Adobe Aero ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ รวมโลกดิจิทัลเข้ากับโลกจริงได้อย่างไร้รอยต่อโดยใช้เครื่องมือที่คุ้นเคย เช่น Photoshop และ Dimension เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่นในรูปแบบ 3 มิติ นอกจากนี้ อะโดบียังเตรียมที่จะรวมชุดโปรดักส์ Substance ที่ได้จากการเข้าซื้อกิจการเมื่อไม่นานมานี้ เข้าไว้ในกลุ่มโปรดักส์ของอะโดบี โดย Substance ถือเป็นมาตรฐานสำหรับการออกแบบวัสดุและพื้นผิว 3 มิติ ทั้งนี้จะมีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรดักส์ดังกล่าวในปีหน้า

Adobe MAX: ใครๆ ก็เป็นครีเอเตอร์ได้

ภายในงาน MAX 2019 ครีเอทีฟชื่อดังทั่วโลกจะมาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวประสบการณ์ที่น่าสนใจ สำหรับปีนี้ เราได้รับเกียรติจากนักผลิตคอนเทนท์คนดังจากหลากหลายวงการ ได้แก่ นักดนตรีชื่อดัง บิลลี่ เอลิช พร้อมด้วยศิลปินคนดัง ทาคาชิ มูราคามิ, เดฟ โกรฮล์ไดเร็คเตอร์และมือกลองวง Foo Fighter, เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน ผู้กำกับภาพยนตร์และโปรดิวเซอร์ชื่อดัง, เดวิด ลาชาแปลล์ ช่างภาพผู้มีชื่อเสียง และวิชวลอาร์ทิสต์ ชานเทล มาร์ติน  นอกจากนั้น นักเขียนและนักแสดงตลกเจ้าของรางวัลเอ็มมี่อวอร์ด จอห์น มูลานีย์ จะรับหน้าที่เป็นพิธีกรสำหรับช่วง MAX Sneaks ในปีนี้ โดยเป็นการนำเสนอพรีวิวเทคโนโลยีนวัตกรรมที่เป็นผลงานการพัฒนาของ Adobe Research

ราคาและการวางจำหน่าย

อัปเดตสำหรับซอฟต์แวร์เดสก์ท็อป Creative Cloud พร้อมใช้งานแล้วสำหรับสมาชิก Creative Cloud ทุกคน ครอบคลุมการใช้งานระดับบุคคลทั่วไป นักศึกษา ทีมงาน สถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และองค์กร  ส่วนโมบายล์แอปของอะโดบีสามารถดาวน์โหลดได้จาก iOS App Store และ Google Play

• Adobe Photoshop on iPad พร้อมใช้งานสำหรับลูกค้า Creative Cloud ทุกราย โดยเป็นส่วนหนึ่งของบริการสมาชิก Photoshop นอกจากนี้ยังสามารถซื้อแอปดังกล่าวผ่านทาง Apple App Store และ Adobe.com ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนบริการสำหรับสมาชิกได้ที่นี่
• แอป Adobe Fresco ค่าบริการ $9.99 ต่อเดือน หรือสามารถใช้งานร่วมกับแผนบริการสำหรับสมาชิก Creative Cloud  นอกจากนี้ ยังมีเวอร์ชัน freemium ซึ่งประกอบด้วยฟีเจอร์จำนวนมากที่เหมือนกับเวอร์ชันเต็ม  ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนบริการได้ที่นี่
• Adobe Illustrator สำหรับ iPad จะวางจำหน่ายในปี 2563 ผู้ใช้สามารถลงทะเบียนเพื่อใช้งานรุ่นเบต้าได้ที่นี่
• Adobe Aero เปิดให้ใช้งานฟรีในรูปแบบของแอปบน iOS

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์ต่าง ๆ และภาพรวมของนวัตกรรมใน Creative Cloud และฟีเจอร์ใหม่ ๆ บนเครื่องมือต่างๆ ดังนี้:

• Digital Imaging: Photoshop และ Photoshop สำหรับ iPad, Photoshop Camera และ Fresco
• 3D & AR: Adobe Aero, Dimension และ Substance
• Photography: Lightroom และ Lightroom Classic 
• Digital Video and Audio: Premiere Pro, After Effects, Audition และ Character Animator
• Design: Adobe XD, Illustrator, Illustrator สำหรับ iPad และ InDesign

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส