เราเข้าสู่ยุคการสตรีมคอนเทนต์กันอย่างจริงจังแล้ว ทุกอย่างเราดูกันแบบออนไลน์ไม่ว่าจะ YouTube หรือ Netlflix ปัญหาที่จะตามมาคือปริมาณอินเทอร์เน็ตที่เรามีจะหมดไวขึ้นเนื่องจากพฤติกรรมการใช้งานก็เปลี่ยนไป ว่าแต่ทั้งสองอย่างนี้จะใช้ปริมาณอินเทอร์เน็ตเท่าไหร่บ้าง? มาดูกัน

YouTube

ปริมาณข้อมูลที่ใช้ระหว่างการดู YouTube จะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของคลิป ซึ่งตั้งแต่ HD, Full HD, 4K และอื่น ๆ จะมีการใช้งานปริมาณข้อมูล ดังนี้

คุณภาพวิดีโอ ความละเอียด (พิกเซล) เฟรมเรท บิตเรต ปริมาณข้อมูลที่ใช้ต่อนาที ปริมาณข้อมูลที่ใช้ต่อ 1 ชั่วโมง
144p 256×144 30 80-100 Kbps 0.5-1.5 MB 30-90 MB
240p 426×240 30 300-700 Kbps 3-4.5 MB 180-250 MB
360p 640×360 30 400-1,000 Kbps 5-7.5 MB 300-450 MB
480p 854×480 30 500-2,000 Kbps 8-11 MB 480-660 MB
720p (HD) 1280×720 30-60 1.5-6.0 Mbps 20-45 MB 1.2-2.7 GB
1080p (FHD) 1920×1080 30-60 3.0-9.0 Mbps 50-68 MB 2.5-4.1 GB
1440p (QHD) 2560×1440 30-60 6.0-18.0 Mbps 45-135 MB 2.7-8.1 GB
2160p (4k) (UHD) 3840×2160 30-60 13.0-51.0 Mbps 95-385 MB 5.5-23.0 GB
4320p (8k) (FUHD) 7680×4320 30-60 20-50 Mbps (เฟรมเรท @30FPS) 150-375 MB (เฟรมเรท 30FPS) 9.0-22.5 GB (เฟรมเรท @30FPS)

Netflix

สำหรับ Netflix นั้นจะแบ่งตามคุณภาพของภาพยนตร์เช่นเดียวกันกับ YouTube โดยแต่ละคุณภาพจะมีการใช้งานปริมาณอินเทอร์เน็ตดังนี้

  • ความละเอียดน้อย: ใช้ปริมาณข้อมูล 0.3GB ต่อชั่วโมง
  • ความละเอียดปานกลาง: ใช้ปริมาณข้อมูล 0.7GB ต่อชั่วโมง
  • ความละเอียดสูง: ใช้ปริมาณข้อมูล 3GB ต่อชั่วโมง สำหรับคุณภาพระดับ HD และใช้ปริมาณข้อมูล 7GB ต่อชั่วโมง สำหรับคุณภาพระดับ Ultra HD
  • อัตโนมัติ: การใช้งานข้อมูลจะอิงตามสามระดับข้างต้น แต่จะเลือกระดับไหนขึ้นอยู่กับคุณภาพของอินเทอร์เน็ต ณ​ เวลานั้นด้วย

netflix

เห็นแบบนี้แล้ว ใครไม่ได้ต่อ Wi-Fi หรือใช้โปรอินเทอร์เน็ตแบบ Umlimite ก็อย่าลืมตรวจสอบปริมาณข้อมูลหรือ data ที่เรามีให้ใช้ต่อเดือนกันด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้นดูไปดูมา เผลอ ๆ หมดแบบไม่รู้ตัวได้เลย

อ้างอิง 1, 2

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส