หลังจากที่รอคอยกันอย่างยาวนาน วันนี้ในงาน Apple Unleashed เราก็ได้เห็นรุ่นต่อยอดของ Apple Silicon กันแล้วกับ Apple M1 Pro และ M1 Max สองชิปรุ่นล่าสุดที่อัปเกรดจาก Apple M1 ที่เป็นก้าวแรกของ Apple Silicon Transition ซึ่งคราวนี้มีการปรับปรุงตัวชิปไปอย่างก้าวกระโดดสุด ๆ (จนคนซื้อ M1 น้ำตาจะไหล)

สำหรับในรุ่นอัปเกรดนี้จะถูกแบ่งออกเป็นสองรุ่น M1 Pro และ M1 Max ยังเป็นชิปสถาปัตยกรรม ARM ออกแบบเป็นแบบ SoC (Systems on Chip) ผลิตบนโหนด 5nm เช่นเดิม ที่มีการอัปเกรดในด้าน CPU และ GPU พร้อมกับของใหม่ ๆ ที่ใส่เข้ามาเพิ่มเติมจาก Apple M1

สเปก M1 Pro และ M1 Max

M1 Pro

  • ทรานซิสเตอร์ 33.7 ล้านตัว
  • CPU 10 Core (เป็น Perfomance Core 8 คอร์ + Effciency Core 2 คอร์)
  • GPU 16 Core (EUs 2048 ตัว แรงกว่า M1 สองเท่า)
  • Neural Engine 16 คอร์
  • Unified Memory 2 ตัว สูงสุด 16 GB
  • แบนด์วิดท์เมมโมรี 200 GB/s
  • มี Display Engine ต่อจอแยก 4K ได้สูงสุด 3 จอ
  • มี Thunderbolt 4 I/O Controller ในตัว

M1 Max

  • ทรานซิสเตอร์ 57 ล้านตัว
  • CPU 10 Core
  • GPU 32 Core (EUs 4096 ตัว แรงกว่า M1 สี่เท่า)
  • Neural Engine 16 คอร์
  • Unified Memory 4 ตัว สูงสุด 64 GB
  • แบนด์วิดท์เมมโมรี 400 GB/s
  • มี Display Engine ต่อจอแยก 4K ได้สูงสุด 3 จอ
  • มี Thunderbolt 4 I/O Controller ในตัว

ประสิทธิภาพ CPU

M1 Pro และ M1 Max มีประสิทธิภาพมากกว่า M1 ราว 70 % เพิ่มสเปกขึ้นมาเป็น 10 Core จาก 8 Core ใน M1 โดยแบ่งเป็น P Core 8 ตัว และ E Core 2 ตัว มีประสิทธิภาพต่อกำลังไฟที่เท่ากันมากกว่าเดิมจากตัว M1 ประมาณ 1.7 เท่า ซึ่งใช้พลังงานน้อยกว่า และได้ประสิทธิภาพมากกว่า เมื่อเทียบกับชิป x86 ในระดับเดียวกัน

ประสิทธิภาพ GPU

ในด้าน GPU ได้มีการอัปเกรดสเปกขึ้นมาเป็น 16 Core สำหรับ M1 Pro และ 32 Core สำหรับ M1 Max ให้ประสิทธิภาพมากกว่าเดิม 2 เท่า และ 4 เท่าตามลำดับ เมื่อเทียบกับ M1 รุ่นแรก และเมื่อเทียบกับ MacBook Pro 16 นิ้ว รุ่นปี 2019 ที่ใช้การ์ดจอแยก Radeon 5600M แล้ว ใช้พลังงานน้อยกว่าที่ประสิทธิภาพระดับเดียวกันถึง 100W และเมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊กแบบโปรทั่วไปแล้ว จะใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 40%

Display Engine

ชิป M1 Pro และ M1 Max มี Display Engine ที่สามารถประมวลผลการแสดงผลภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิม สามารถแสดงผลภาพแบบ ProRes ในความละเอียด 4K และ 8K ได้พร้อม ๆ กันหลายสตรีม โดยที่ไม่ต้องใช้พลังงานจากตัวหน่วยประมวลผลหลักมากมาย

สำหรับชิปทั้งสองตัวนี้จะถูกนำไปใช้ใน MacBook รุ่นใหม่ 14 นิ้ว และ 16 นิ้ว ที่เปิดตัวพร้อมกันนั่นเอง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส