ออปโป้ (OPPO) ได้เผยมาตรฐานใหม่สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่สมาร์ตโฟนในงาน MWC2022 กับ 150W SUPERVOOCTM พร้อม Battery Health Engine (BHE) ที่แม้จะชาร์จด้วยความเร็วสูง แต่ยังสามารถเซฟแบตเตอรี่ได้ยาวนานมากขึ้น และเทคโนโลยี 240W SUPERVOOCTM flash charge

150W SUPERVOOCTM พร้อม BHE: ประสิทธิภาพการชาร์จขั้นสูง

มาตรฐานใหม่นี้ จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 – 100% ได้ภายในเวลาแค่ 15 นาทีเท่านั้น ในขณะที่การชาร์จแค่ 5 นาที ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 % เป็น 50% ได้เลยอีกด้วย ซึ่งทางออปโป้แจ้งว่าแบตเตอรี่ที่ใช้จับเวลาชาร์จนี้ มีขนาดใหญ่ถึง 4,500 mAh เลยทีเดียว โดยมีคุณสมบัติ 2 ด้าน ทั้งเรื่องของการชาร์จอย่างรวดเร็ว (Flash Charge) และการรักษาอายุการใช้งานแบตเตอรี่ด้วย BHE หรือ Battery Health Engine

150W SUPERVOOCTM พร้อม BHE สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 4,500mAh จาก 1% ถึง 50% ใน 5 นาทีและเต็ม 100% ใน 15 นาที

Battery Health Engine เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้แบตเตอรี่ของสมาร์ตโฟนออปโป้นั้นมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้นอย่างมากถึง 80% แม้จะสามารถชาร์จได้เร็วถึง 150W ด้วยเทคโนโลยีถนอมแบตเตอรี่ใหม่นี้ ทำให้สามารถชาร์จได้มากถึง 1,600 รอบเป็นอย่างน้อย (จากเดิมเพียงแค่ 800 รอบเท่านั้น) ทางออปโป้เขาเคลมว่า สามารถใช้งานได้ยาวนานอย่างน้อย 4 ปีเลย โดยเทคโนโลยี Battery Health Engine นี้มีเทคโนโลยีเสริมอยู่ภายในอยู่หลายส่วนด้วยกัน

  • Smart Battery Health Algorithm สามารถติดตามศักย์ไฟฟ้าแบบเรียลไทม์ผ่านขั้วลบภายในแบตเตอรี่ และปรับกระแสไฟฟ้าการชาร์จแบบไดนามิกให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม ลดการเกิดลิเธียมที่ตายแล้วอย่างมีประสิทธิภาพในขณะที่ยังคงรักษากระแสไฟชาร์จสูงสุด ดังนั้นจึงรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีต่อสุขภาพและความเร็วในการชาร์จที่ไวขึ้น
  • Battery Healing Technology ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่จากระบบภายในของแบตเตอรี่ ด้วยการปรับปรุงสูตรอิเล็กโทรไลต์ อิเล็กโทรดจะได้รับการซ่อมแซมอย่างต่อเนื่องในระหว่างรอบการชาร์จและการคายประจุของแบตเตอรี่ ทำให้เกิด Solid Electrolyte Interface (SEI) ที่เสถียรและทนทานยิ่งขึ้น ซึ่งจะคงสถานะที่สมบูรณ์แบบตลอดเวลาแบบเรียลไทม์ ช่วยลดการสึกหรอของขั้วไฟฟ้าบวกและขั้วลบของแบตเตอรี่ ดังนั้นจึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแบตเตอรี่และยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้

BHE จะถูกรวมเข้ากับโทรศัพท์ OPPO และ OnePlus ระดับกลางถึงระดับไฮเอนด์ส่วนใหญ่ในอนาคต
มอบความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และความทนทานมาสู่ผู้ใช้มากขึ้น 150W SUPERVOOCTM flash charge พร้อม BHE จะเปิดตัวในสมาร์ทโฟน OnePlus ในไตรมาสที่สองของปีนี้

นอกจากนี้ อะแดปเตอร์สำหรับ 150W SUPERVOOCTM พร้อม BHE ยังมีการใช้แกลเลียมไนไตรด์ (GaN)
เพื่อลดขนาดของอะแดปเตอร์ให้มีขนาดเกือบเท่ากับขนาดอะแดปเตอร์ 65W SUPERVOOCTM รุ่นก่อนหน้า
โดยมีขนาด 58 x 57 x 30 มม. และน้ำหนักประมาณ 172 กรัม

กำลังไฟ 1.51W/cm3 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมมาก

เจฟ ซาง (Jeff Zhang) หัวหน้านักวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีการชาร์จที่ออปโป้ กล่าวว่า ในขณะที่วิทยาศาสตร์การชาร์จยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องมากขึ้นเรื่อยๆ ความคาดหวังของผู้ใช้ก็มากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน นับตั้งแต่เปิดตัว VOOC flash charge ในปี 2014  ทางออปโป้ได้ให้ความสำคัญกับประสบการณ์การชาร์จโดยรวม ในขณะที่เป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว เราจะยังคงผลักดันขีดจำกัดของเทคโนโลยีการชาร์จเร็วกำลังสูง
และพร้อมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นใหม่อย่างเต็มที่ เช่น การเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ รวมถึงมอบโซลูชันการชาร์จที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ ชาญฉลาด และรวดเร็วแก่ผู้ใช้ที่เหนือไปกว่าแค่เรื่องความเร็ว

240W SUPERVOOCTM: ก้าวต่อไปของการชาร์จเร็วกำลังสูง

เนื่องจากความต้องการทางออกในการชาร์จประสิทธิภาพสูงที่เพิ่มขึ้นในยุคของการเชื่อมต่ออัจฉริยะ 5G OPPO ได้ผลักดันขีดจำกัดของการชาร์จเร็วกำลังสูงและเปิดตัว 240W SUPERVOOCTM ซึ่งเทคโนโลยีใหม่นี้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 4,500mAh ได้เต็ม 100% ในเวลาประมาณ 9 นาที

240W SUPERVOOCTM ได้รับการออกแบบด้วยเทคโนโลยี 24V/10A บนอินเทอร์เฟซ Type-C มีปั๊มชาร์จสามตัวและสามารถแปลงพลังงานที่จ่ายให้กับโทรศัพท์มือถือเป็น 10V / 24A เป็นไปตามข้อกำหนดของอุปกรณ์ที่มีอยู่และได้รับการทดสอบในแง่ของการกระจายความร้อน รับประกันประสิทธิภาพสูงสุดและความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ อัตราการคายประจุชั้นนำของแบตเตอรี่ยังช่วยให้ฮาร์ดแวร์รองรับกำลังไฟสูงสุดได้ถึง 240W

240W SUPERVOOCTM มอบประสบการณ์การชาร์จที่ปลอดภัย ไร้สะดุด อีกทั้งยังก้าวข้ามขีดจำกัดของความเร็วในการชาร์จ ด้วยการใช้แนวทางแบบองค์รวมเพื่อความปลอดภัยของอแดปเตอร์ สายชาร์จ และโทรศัพท์ โดย OPPO ช่วยลดอันตรายและความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น ด้วยการมอบโซลูชันการชาร์จที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย:

  • 240W SUPERVOOCTM ใช้มาตรการป้องกันความปลอดภัย 5 ข้อรวมถึงชิปควบคุมอัจฉริยะที่ปรับแต่งเป็นพิเศษซึ่งควบคุมแรงดันไฟฟ้า กระแสไฟ และอุณหภูมิเพื่อมอบโซลูชันการชาร์จที่ปลอดภัย
  • ชิปตรวจสอบความปลอดภัยของแบตเตอรี่แบบกำหนดเองจะตรวจสอบว่าแบตเตอรี่ของโทรศัพท์มือถือเสียหายจากปัจจัยภายนอกหรือไม่เมื่อใช้งาน 
  • การป้องกันอุณหภูมิได้รับการพัฒนาผ่านเซ็นเซอร์อุณหภูมิ 13 ตัวที่ติดตั้งในโทรศัพท์ ลดการเกิดความร้อนที่สูงเกินไปและช่วยหลีกเลี่ยงความผิดปกติต่างๆ ได้

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส