วันนี้ Samsung ได้จัดงาน Unpacked Part 2 เพื่อเป็นการเปิดตัว Samsung Galaxy Z Fold 2 อย่างเป็นทางการ หลังจากเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาในงาน Galaxy Unpacked 2020 ได้มีการเปิดตัวสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ในซีรีส์ Galaxy Note 20 พร้อมด้วย Tab S7, Buds Live และ Watch 3 และมีการเกริ่นถึง Z Fold 2 เพียงเล็กน้อย

Galaxy Z Fold 2 นี้มีดีไซน์คล้าย ๆ กับรุ่นแรก แต่มีการปรับรายละเอียดต่าง ๆ ของการดีไซน์และฮาร์ดแวร์ให้ลงตัวมากยิ่งขึ้น ด้วยหน้าจอด้านนอกใหญ่เต็มตาขึ้นกว่าเดิมด้วยจอที่ใหญ่ถึง 6.2 นิ้ว (จากเดิม 4.6 นิ้ว) และจอ Infinity-O ด้านในใหญ่ถึง 7.6 นิ้ว (จากเดิม 7.3 นิ้ว) เปลี่ยนจากแถบกล้องเป็นรูเล็ก ๆ ทั้งด้านในและด้านนอก ไม่รกตา

อีกทั้งหน้าจอด้านในยังมีความสว่างสูงสุดได้ถึง 900 nit (จากเดิม 800 nit) มีรีเฟรชเรตสูงสุด 120Hz และสามารถปรับเปลี่ยนได้ไปตามสิ่งที่เปิดอยู่บนหน้าจอได้อัตโนมัติ เพื่อประหยัดแบตเตอรี

https://youtu.be/BvQiQcCLiqU

เมื่อกางจอออกมาจะมีความกว้างกว่ารุ่นเดิมประมาณ 1 ซม. ขอบหน้าจอบางลง ตัวเครื่องมีความหนาเพียง 6 มม. เท่านั้น และเมื่อพับจอจะบางลงจากรุ่นที่แล้วเหลือเพียง 16.8 มม (จากเดิม 17.1 มม.) บานพับมีความนิ่มนวลมากยิ่งขึ้น พร้อมอุปกรณ์ Sweeper สำหรับป้องกันฝุ่นเข้า

Z Fold 2 ประกอบไปด้วยกล้องถึง 5 ตัวด้วยกัน 3 ตัวด้านหลัง เลนส์ Ultra Wide เลนส์ Wide และเลนส์ Tele ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าบนหน้าจอด้านนอกและด้านใน ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล

นอกจากนี้ มีฟีเจอร์ Flex Mode คือการที่กางจอไม่สุด ทำให้ในแอปที่รองรับเราสามารถใช้งานได้ในรูปแบบที่ต่างจากเดิมได้ เช่น แอปกล้อง ที่จะสามารถดูรูปใน Gallery ไปด้วยได้ การควบคุมการเล่นวิดีโอ แอปปฏิทิน วิดีโอและสามารถตั้งกล้องเพื่อถ่ายเป็น Time Lapse ได้ด้วย

https://youtu.be/YclZC7JKdYg

หนึ่งในไฮไลต์สำหรับคนชอบเซลฟีและไม่ชอบกล้องหน้า เมื่อกางตัวเครื่องออกมาเราสามารถใช้กล้องหลังที่มีความละเอียดมากกว่าในการเซลฟีได้ โดยเราจะสามารถเปิดหน้าจอด้านนอกเพื่อพรีวิวรูปได้ ส่วนในวิดีโอโหมดโปรจะสามารถปรับความเร็วในการซูม เสียง เลือกรับเสียงได้ เหมือนใน Note 20

ในด้านของความปลอดภัย ผู้ใช้จะสามารถใช้การสแกนนิ้ว หรือสแกนใบหน้าก็ได้ โดยเซ็นเซอร์สแกนนิ้วจะอยู่ที่ด้านข้างของตัวเครื่อง

ส่วนสเปก Z Fold 2 จะใช้เป็นชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 865+ พื้นที่หน่วยความจำ 256GB RAM (ไม่สามารถเพิ่มพื้นที่ด้วย microSD ได้) 12GB รองรับการใช้งาน 2 ซิม (ซิมนาโน และ e-SIM) การชาร์จเร็ว Wireless PowerShare ที่จะสามารถชาร์จแบตเตอรีให้กับเครื่องอื่น ๆ ได้ จากแบตเตอรีที่ให้มาถึง 4,500mAH ที่สำคัญจะไม่กล่าวถึงไม่ได้เลย รองรับการใช้งาน 5G ด้วย

Galaxy Z Fold 2 มีให้เลือก 2 สี สี Mystic Bronze และ Mystic Black แต่สำหรับขอบมีให้เลือกถึงอีก 4 สี สี Metallic Silver, Metallic Gold, Metallic Red, และ Metallic Blue

ที่พิเศษไปกว่านี้ จะมีการเปิดตัวรุ่น Thom Browne Edition ที่จะออกแบบมาพิเศษ เพื่อเป็นการเพิ่มรสนิยมทางด้านแฟชั่นด้วย

Samsung Galaxy Z Fold 2 จะวางจำหน่ายในราคา 1,999 เหรียญ เปิดสั่งจองวันที่ 1 กันยายน และวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 กันยายนนี้ และ Thom Browne Edition จะวางจำหน่ายในวันที่ 25 กันยายนนี้

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส