HMD Global บริษัทที่ได้รับสิทธิในการออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือแบรนด์ Nokia ได้เปิดโทรศัพท์มือถือรุ่นล่าสุด นั่นคือ Nokia 6300 4G ที่มีดีไซน์เหมือนเวอร์ชัน 2006 และ Nokia 8000 4G

โทรศัพท์มือถือทั้ง 2 รุ่น ได้รับการติดตั้งระบบปฏิบัติการ KaiOS ซึ่งทำให้สามารถใช้งานแอปสุดฮิตอย่าง WhatsApp, Google Maps และ Google Assistant ซึ่งเป็นฟีเจอร์ผู้ช่วยดิจิทัลอัจฉริยะได้

แม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จในตลาดสมาร์ตโฟนมากนัก แต่ HMD Global ยังคงสามารถนำพาแบรนด์ Nokia ประสบความสำเร็จในตลาดโทรศัพท์มือถือระดับเริ่มต้น หรือตลาดฟีเจอร์โฟน ได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งถือได้ว่าเป็นอัตลักษณ์อันโดดเด่นของแบรนด์ Nokia มาอย่างยาวนาน

Nokia 6300 4G

Nokia 6300 4G มาพร้อมบอดีพลาสติก โดยมีสเปกดังนี้

  • หน้าจอ LCD ขนาด 2.4 นิ้ว ความละเอียด 320 x 240 พิกเซล
  • ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 210
  • กล้อง VGA ด้านหลังตัวเครื่อง
  • แบตเตอรี 1,500 mAh
  • ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม., ตัวรับวิทยุ FM, ฟังก์ชันฮอตสปอต Wi-Fi

ทาง HMD Global อ้างว่า Nokia 6300 4G รองรับการเชื่อมต่อ 4G และสามารถสแตนด์บายได้นาน 25 วัน

Nokia 6300 4G มีให้เลือก 3 สี คือ Light Charcoal, White และ Cyan Green โดยมีราคาอยู่ที่ 49 ยูโร (ประมาณ 1,700 บาท)

Nokia 8000 4G

Nokia 8000 4G มีดีไซน์และสเปกที่พรีเมียมมากกว่าเวอร์ชันมาตรฐานของซีรีส์ 8000 โดยมาพร้อมบอดีพลาสติกที่มีขอบโค้งอันเป็นเอกลักษณ์ เพิ่มสีสันที่สะดุดตา ทั้ง Onyx Black, Citrine Gold, Opal White และ Topaz Blue โดยมีสเปกดังนี้

  • หน้าจอขนาด 2.8 นิ้ว ความละเอียด QVGA (320 x 240 พิกเซล)
  • ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 210
  • แรม 512 MB
  • ความจุ 4 GB
  • กล้องหลัง 2 ล้านพิกเซล
  • แบตเตอรี 1,500 mAh
  • ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม., ตัวรับวิทยุ FM
  • ฟังก์ชันฮอตสปอต Wi-Fi

Nokia 8000 4G รองรับการเชื่อมต่อ 4G และสามารถสแตนด์บายได้สูงสุด 25 วัน โดยมีราคาอยู่ที่ 79 ยูโร (ประมาณ 2,800 บาท)

ข้อมูลอ้างอิง : gsmarena

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส