SAMSUNG (ซัมซุง) เปิดศักราชใหม่ ตอกย้ำความมั่นใจบริการหลังการขายแก่ลูกค้า สมาร์ทโฟนซัมซุง กาแลคซี่ จัดเต็มทั้งจำนวนศูนย์บริการ นวัตกรรม และความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ให้บริการทันที ทุกที่ ทุกเวลา ล่าสุดเปิดศูนย์บริการสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมขนาดใหญ่ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า แกรนด์ พระราม 9 บนพื้นที่กว่า 207 ตารางเมตร เสริมทัพยอดขายสมาร์ทโฟนที่เติบโตต่อเนื่อง พร้อมให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านการบริการหลังการขายทั้งเครือข่ายศูนย์บริการ นวัตกรรม และบุคลากร ปัจจุบันซัมซุงมีศูนย์บริการสมาร์ทโฟนและจุดรับส่งเครื่องซ่อมที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ มีพนักงานที่ผ่านการอบรมมาตรฐานการบริการและทีมคอล เซ็นเตอร์คอยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านทุกช่องทาง ทั้งโทรศัพท์ และ ไลฟ์ แชต ผ่านเว็บไซต์ ให้มอบบริการได้ทันที เหนือกว่าด้วยนวัตกรรมที่ซัมซุงพัฒนานำมาใช้ในการบริการให้แม่นยำ ฉับไว สอดรับไปกับผลิตภัณฑ์ของซัมซุงที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ยุคดิจิตัลของลูกค้า

นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “นอกเหนือไปจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมอันโดดเด่นหลากหลายที่ช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้บริโภคสะดวกสบายยิ่งขึ้นแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ซัมซุงมุ่งมั่นพัฒนา และให้ความสำคัญอย่างสม่ำเสมอก็คือการสร้างประสบการณ์ที่ดีระหว่างซัมซุงและผู้บริโภค ซึ่งรวมถึงการมอบบริการหลังการขายที่ดีและมีคุณภาพในศูนย์บริการของซัมซุงทุกแห่ง เพราะเราเชื่อว่ากุญแจสำคัญของการยืดหยัดเป็นผู้นำคือบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพและน่าประทับใจ โดยซัมซุงไม่หยุดยั้งในการพัฒนาเพื่อมอบบริการ หลังการขายที่ดีที่สุด ภายใต้แนวคิด “มอบบริการดีที่สุดด้วยนวัตกรรมอันล้ำหน้าเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในยุคดิจิทัล” โดยซัมซุงได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาและปรับปรุงการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค เพื่อมอบความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนซัมซุงทุกคน”

มร. จองซุง ปาร์ค ผู้อำนวยการฝ่ายบริการหลังการจำหน่าย บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับแนวคิดมอบบริการดีที่สุดเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในยุคดิจิทัลของศูนย์บริการซัมซุง ประกอบด้วย

  1. นวัตกรรมเพื่อการบริการ (Innovative service) – การนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ให้งานซ่อมมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้ช่างสามารถทำงานได้อย่างตรงอาการและไม่เกิดปัญหาซ้ำ ด้วยซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีที่นำมาประยุกต์ใช้ให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรม Galaxy Must ช่วยตรวจเช็คคุณภาพงานซ่อมได้มีประสิทธิภาพสูงสุด โปรแกรม Galaxy Diagnose ที่มาพร้อม ระบบ OQC ที่ช่วยตรวจสอบคุณภาพงานซ่อมก่อนส่งสินค้ากลับถึงมือลูกค้า ช่วยการันตีว่าจะไม่เกิดอาการเสียซ้ำ  โปรแกรม Remote Service บริการที่ผู้เชี่ยวชาญสามารถวิเคราะห์แก้ปัญหาเบื้องต้นรวมถึงการตั้งค่าการใช้งานคุณสมบัติต่างๆ ได้จากระยะไกล และ แอพพลิเคชั่น my Samsung ช่วยดูแลลูกค้าให้สามารถเข้าถึงบริการหลังการขายของซัมซุงได้อย่างง่ายดาย รวมไปถึงฟังก์ชั่นการใช้งานที่ช่วยให้ลูกค้าใช้งานผลิตภัณฑ์ซัมซุงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
  2. เครือข่ายศูนย์บริการที่ครอบคลุมเข้าถึงได้ง่าย ทุกที่ ทุกเวลา – ศูนย์บริการพร้อมให้บริการ 149 ศูนย์  เป็นศูนย์ขนาดใหญ 41 ศูนย์ และจุดรับส่งซ่อม 2,412 จุดทั่วประเทศ และล่าสุดกับจุดรับส่งซ่อมแบบเอ็กซ์เพรสที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส 2 สถานี คือ สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและสถานีวงเวียนใหญ่ ที่ลูกค้าสามารถนำเครื่องมาฝากซ่อมและรับกลับได้ในระหว่างการเดินทาง และภายในปีนี้ ยังมีแผนจะขยายศูนย์บริการเพิ่มอีก 5 แห่ง นอกจากนี้ยังมอบความอุ่นใจให้แก่ลูกค้าด้วยบริการคอล เซ็นเตอร์ ที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงที่ โทร. 02-689-3232 หรือผ่านทาง www.samsung.com/th/support ที่ให้บริการ  Live Chat ที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้เพียงปลายนิ้ว ซึ่งซัมซุงยังคงมีแผนพัฒนาช่องทางอื่นๆ ต่อไปเพื่อมอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้น
  3. บุคลากรคุณภาพ (Well-trained people) – มีพนักงานที่ผ่านการอบรมมาตรฐานคอยให้บริการในทุกจุด อาทิเจ้าหน้าที่  Galaxy Consultant ประจำทุกแบรนด์ช็อปเพื่อให้บริการด้านแอพลิเคชั่น เจ้าหน้าที่ Galaxy Butler Service ประจำทุกศูนย์บริการขนาดใหญ่คอยอำนวยความสะดวกทั้งด้านงานบริการ การอัพเดทแอพพลิเคชันและตอบคำถามต่างๆ ที่ลูกค้าต้องการความช่วยเหลือ  ในส่วนของงานซ่อมบริการช่างเทคนิคทุกคนต้องผ่านการอบรมสอบผ่านมาตรฐานการแก้ปัญหาตั้งแต่ระดับต้นไปจนถึงระดับสูง โดยปัจจุบันซัมซุงมีผู้เชี่ยวชาญงานซ่อมบริการสมาร์ท โฟนกว่า 300 คน และช่างเทคนิคฝีมือมาตรฐานกว่า 1,000 คน รองรับงานซ่อมได้กว่า 50,000 งานต่อเดือน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทักษะการบริการซัมซุงยังมีการจัดแข่งขันทักษะ Smart Service Contest ของช่างเทคนิคทุกปี นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมส่งเสริมการพัฒนาทักษะสร้างอาชีพแก่เยาวชนผ่านโครงการทวิภาคีที่ซัมซุงได้ดำเนินการปีนี้เป็นปีที่ 2 โดยสร้างคนเข้าสู่ศูนย์บริการซัมซุงแล้วกว่า 45 คน และภายในปี 2560 นี้คาดว่าจะมีเพิ่มอีกกว่า 40 คน  ซึ่งเป็นหนึ่งความภูมิใจของซัมซุงในการมีส่วนร่วมสร้างแรงงานคุณภาพแก่สังคมไทย”

“ความทุ่มเททั้งหมดนี้เพื่อส่งมอบประสบการณ์ของการให้บริการที่ครอบคลุมและมีคุณภาพยิ่งกว่าเดิมสู่ลูกค้าชาวไทยทุกคน” นายวิชัย กล่าวปิดท้าย