นางทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุถังดับเพลิงระเบิดระหว่างซ้อมดับเพลิงที่โรงเรียนราชวินิตมัธยมว่า กทม. ได้สั่งให้ยุติการซ้อมดับเพลิงของทุกหน่วยงานแล้ว จนกว่าอุปกรณ์ทั้งหมดจะได้รับการตรวจสอบเสร็จสิ้น ซึ่งตอนนี้ถูกเรียกเก็บทั้งหมดแล้ว และไม่ให้มีการซ้อมดับเพลิงโดยใช้ถังคาร์บอนไดออกไซด์

รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าจะเริ่มให้ทางสถานีดับเพลิงทุกสถานีและสำนักงานเขต ร่วมกับประธานชุมชนลงตรวจพื้นที่ทั้งหมดที่มีถังดับเพลิงที่เป็นถังเคมีแห้ง หากเป็นถังเก่า ใช้การไม่ได้ หรือถังที่ประชาชนไม่มั่นใจ จะให้เก็บออกทั้งหมด ส่วนถังที่ได้มาตรฐานจะมีการทดสอบ พร้อมการเติมสารเคมีให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน

สำหรับการซ้อมดับเพลิงของทุกหน่วยงาน รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ขอให้หยุดทั้งหมดแล้ว และมีการออกขั้นตอนในการตรวจสอบในเบื้องต้น (Visual Inspection) โดยอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ชุมชน ประชาชน และเจ้าหน้าที่ ในการตรวจดูมาตรวัดค่าความดัน สลัก ความกรอบของสายดับเพลิง ขนาด ความบวมของถัง สนิมที่ถัง เป็นต้น

ทั้งนี้ หากพบสามารถความชำรุดหรือไม่สมบูรณ์ สามารถแจ้งย้ายถังกับสำนักงานเขตพื้นที่ได้ สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ซึ่งมีความกังวลใจ หากพบถังดับเพลิงที่มีลักษณะไม่ปลอดภัย สามารถแจ้งผ่านทาง Traffy Fondue เพื่อให้ กทม. ดำเนินการต่อไป

รองผู้ว่าฯ กทม. ระบุว่า จะมีการรื้อระบบการฝึกซ้อมดับเพลิงใหม่ทั้งหมด ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นการซ้อมแห้งที่ไม่มีการฉีดพ่น เป็นการใช้ถังเปล่าที่ไม่มีการอัดแรงดันใด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การฝึกซ้อมดับเพลิงในโรงเรียนและนักเรียน ซึ่งต้องการความปลอดภัยสูง ใช้เกณฑ์การเว้นระยะ และจะไม่อนุญาตให้มีการซ้อมในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม 

นอกจากนี้ การใช้อุปกรณ์ในการซ้อมต้องได้มาตรฐานและผ่านการตรวจสอบทุกครั้ง ปรับการฝึกซ้อมให้เป็นการให้ความรู้โดยปลอดภัย และจะร่วมมือกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ปรับมาตรฐานความปลอดภัยทั้งหมดโดยใช้มาตรฐานร่วมกัน

สำหรับเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปอบรมและซ้อมการดับเพลิงที่โรงเรียนราชวินิตมัธยม รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า จะถูกดำเนินคดีทั้งหมด โดยขณะนี้ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อให้สอดคล้องกับที่ทางตำรวจมีสำนวนมา อีกทั้งยังรอสำนวนของพิสูจน์หลักฐานอยู่ด้วย เพื่อระบุให้แน่ชัดว่าเป็นความผิดในลักษณะไหน เป็นการปฏิบัติงานในหน้าที่และได้ทำตามมาตรฐานอย่างที่ควรจะเป็นหรือไม่

ทางด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ระบุว่า ได้สั่งการให้ทำบัญชีของถังดับเพลิงทั้งหมด โดยต่อไปจะมีระบบ GPS เพื่อให้รู้ว่าในแต่ละชุมชนมีถังดับเพลิงอยู่ที่ไหนบ้าง แต่ละถังตรวจสอบเมื่อไร ซึ่งปัจจุบันเริ่มนำร่องแล้วที่เขตบางกอกใหญ่ และในอนาคตเมื่อการดำเนินการดังกล่าวขยายไปทุกชุมชน ก็จะทำให้สามารถเห็นภาพรวมได้ว่าในพื้นที่ กทม. มีถังดับเพลิงอยู่ในจุดใดบ้าง และรู้ว่าถังนี้จะหมดอายุเมื่อไร ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเพื่อช่วยให้เกิดความมั่นใจมากขึ้น

สำหรับการเยียวยาผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตนั้น กทม. มีเงินเยียวยา แต่อาจไม่ใช่เงินจำนวนมาก เพราะเป็นไปตามระเบียบ โดยผู้เสียชีวิต 29,700 บาท ส่วนผู้ประสบภัย 4,000 บาท ส่วนการรักษาพยาบาลนั้น โรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานครจะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส