จบไปอย่างสวยงามตามในเกมแบบที่หลายคนคงจะค้างคาใจ และถกเถียงไปว่าสิ่งที่ โจล (Joel) ทำในตอนท้ายเรื่องนั้นถูกต้องไหม เพราะเรื่องนี้ถูกคนเล่นเกมถกเถียงกันไปนานแล้วตั้งแต่ปี 2013 ที่จนถึงตอนนี้ก็ยังเถียงกันก็ยังไม่จบ และที่หลายคนสงสัยว่าแล้วจากนี้ชีวิตของ เอลลี่ (Ellie) จะเป็นอย่างไรต่อไป ที่ถ้าวันหนึ่งเธอรู้ความจริงที่ถูกปกปิดนี้จะทำให้เอลลี่เป็นอย่างไรคงต้องมารอดูในซีรีส์ ‘The Last Of Us Season 2’ ที่เมื่อตัวซีรีส์กระแสดีได้ทั้งคำชมจากทั้งคนเล่นเกมและไม่เล่นเกมที่ต่างก็ชื่นชมในความยอดเยี่ยม บวกกับยอดคนดูช่อง ‘HBO’ ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากตอนที่ 1 จนถึงตอนที่ 9 จึงไม่น่าแปลกใจที่ทาง ‘HBO’ จะรีบไฟเขียวสั่งให้ทำ ‘Season 2’ ออกมาทันที และนี่คือข้อมูลคร่าว ๆ บางส่วนของ ‘The Last Of Us Season 2’ ที่ทางทีมพัฒนาซีรีส์คิดจะทำในอนาคต มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง เตรียมปืนกระเป๋าเป้มีดให้พร้อมแล้วมาดูไปพร้อมกันเลย

เนื้อหาในซีรีส์คราวนี้จะแตกต่างออกไปจากเกมและจะยังมีการตัดสลับไปมาระหว่าง Ellie และ Abby

เรื่องแรกที่หลายคนที่ดูแต่ซีรีส์ไม่เคยเล่นเกมยังไม่ทราบ ก็คือเรื่องราวของ ‘The Last Of Us Season 2’ จะมีตัวละครใหม่เพิ่มเข้ามาอีกคนนั่นคือ แอ๊บบี้ (Abby) สาวน้อยกล้ามโตที่เป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตในเหตุการณ์กราดยิงของ โจล (Joel) ในตอนท้ายของซีรีส์ ที่เรื่องราวคราวนี้จะเป็นการตัดสลับเล่าเรื่องราวของเอลลี่ ที่ต้องเริ่มต้นชีวิตวัยรุ่นมีความรักและการเดินทางครั้งใหม่ที่มีเป้าหมายใหญ่กว่าเดิม กับแอ๊บบี้สาวน้อยที่ต้องปกป้องเพื่อน ๆ และอยู่ในสงครามความขัดแย้งระหว่างความเชื่อของคนสองกลุ่ม กับเรื่องราวความรักสามเส้าอดีตที่ลบไม่ออกและการไถ่บาป ที่บอกเลยว่าทั้งสองเรื่องราวนั้นจะเดินคู่ขนานกันไปและทั้งคู่จะส่งผลถึงกัน ซึ่งจากข้อมูลบอกว่าตัวซีรีส์จะไม่เดินตามแบบเกม เพราะในเกมจะเป็นการตัดสลับช่วงเวลาไปมาแบบไม่เรียงกันอย่างในซีรีส์ ‘The Witcher Season 1’ ที่คนดูต้องงงแน่นอน ดังนั้นการเปลี่ยนแนวทางเล่าเรื่องและขยายสิ่งต่าง ๆ ในซีรีส์ออกมา ก็นับว่าถูกต้องถูกทางและควรทำมาก ๆ เพราะภาคนี้มีตัวละครใหม่เนื้อเรื่องแยกที่น่าสนใจมากมาย ที่ถ้าเล่าตามแบบในเกมคนดูมีงงแน่นอน และอีกเรื่องที่แฟน ๆ ต้องดีใจนั่นคือตัวซีรีส์จะยาวกว่า 9 ตอนแน่นอน

Bella Ramsey จะกลับมารับบทเป็น Ellie

ยังจำกันได้ไหมช่วงที่ซีรีส์ ‘The Last of Us’ จะออกฉายหลายคนทั่วโลกรวมถึงบ้านเราด้วย ได้เคยตำหนิติติงน้อง เบลลา แรมซีย์ (Bella Ramsey) เอาไว้ว่าตัวน้องเขาไม่มีความเหมือนตัวละครเอลลี่ในเกมเลย จนขนาดมีการล่ารายชื่อไปทาง ‘HBO’ เพื่อเปลี่ยนนักแสดงมาแล้ว แต่หลายคนที่เคยเห็นฝีมือการแสดงของน้องมาแล้ว ต่างก็พูดว่าน้องต้องเป็นเอลลี่ที่ดีแน่นอน จนซีรีส์ออกฉายแค่ตอนแรกเท่านั้นละ หลายคนที่เคยว่าเอาไว้ต่างเงียบเสียงและบอกว่านี่ละคือเอลลี่ที่คนเล่นเกมรู้จัก จนมาถึง ‘The Last Of Us Season 2’ หลายคนก็กลัวว่าน้องจะไม่มาเล่นต่อหรือกลัวน้องจะโตไม่ทันตามซีรีส์ คือต้องบอกตรงนี้เลยว่าตัวน้องเบลลานั้นตอนนี้เธออายุ 19 ตามเนื้อเรื่องใน ‘The Last Of Us 2’ แล้วนะ แค่น้องเล่นเป็นเด็กอายุ 14 เท่านั้น และทางคนเขียนบทผู้สร้างเกมนี้อย่าง นีล ดรักแมน (Neil Druckmann) ก็ออกมาพูดแซว ๆ ขำ ๆ ว่าถ้าน้องเบลลาไม่เล่นเราก็จะบังคับเธอมารับบทนี้ เพราะไม่มีใครเป็นเอลลี่ที่ดีกว่านี้อีกแล้ว ดังนั้นสบายใจได้เลยว่าเราจะได้เห็นน้องเค้าอีกแน่นอน ส่วนลุง เพโดร พาสคาล (Pedro Pascal) แกถือคติไม่เลือกงานไม่ยากจน (ซีรีส์ใส่หน้ากากทั้งเรื่องยังเล่น) ลุงแกมาแน่นอนสบายใจได้

จะเน้นที่เรื่องราวความสัมพันธ์ของ Joel และ Ellie หลัง The Last of Us Season 1 จบ

‘OK’ ประโยคสั้น ๆ ในตอนจบของซีรีส์กับเกมที่ทิ้งคำถามมากมายให้คนที่เล่นเกม ‘The Last of Us’ เมื่อปี 2013 ต่างคิดตามไปต่าง ๆ นานา ว่าเรื่องราวของโจลและเอลลี่จะเป็นยังไงต่อไปหลังจากซีรีส์จบ เพราะอย่างที่เราก็รู้กันแล้วว่าสุดท้ายลุงโจลก็เลือกจะปกป้องหัวใจที่แตกสลายของตัวเองแทนการช่วยโลก โดยที่เอลลี่ไม่รู้เรื่องนี้ (และถ้าเธอรู้จะเป็นอย่างไร) ซึ่งสิ่งนี้จะถูกเอามาขยี้ ๆ แล้วก็ขยี้อีกครั้งใน ‘Season 2’ แน่นอน นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องราวความสัมพันธ์ความรักความผูกพันของทั้งคู่ที่เกมก็สื่อออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ที่บอกเลยว่าคุณจะยิ่งหลงรักพ่อลูกคู่นี้มากขึ้นไปอีกแน่นอน และถ้าคุณจำได้ว่าเอลลี่อยากไปดวงจันทร์โจลบอกว่าตัวเองฝันอยากเป็นนักร้อง รวมถึงการเรียกแกะเพราะมันไม่พูดมาก ที่ทั้งคู่คุยกันเอาไว้ในซีรีส์สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นอีกแน่นอน และคุณต้องประทับใจบอกเลย

มีเรื่องราวด้านอื่น ๆ ที่เรายังไม่รู้ เช่น Bill และ Frank

สงสัยทางทีมเขียนบทจะติดใจเรื่องราวของ บิล (Bill) และ แฟรงค์ (Frank) คู่รักในวันที่โลกล่มสลาย ซึ่งหลายคนที่ได้ดูซีรีส์ ‘The Last of Us’ คงจะทราบแล้วว่าเรื่องราวของทั้งคู่นั้นจบลงอย่างไร ขณะที่ในเกมนั้นเรื่องราวจะต่างออกไปมาก ๆ เพราะในเกมนั้นบิลจะเป็นเพื่อนเราในการเดินทางระยะสั้น ๆ ก่อนจะเจอกับแฟรงค์ที่ติดเชื้อและฆ่าตัวตายก่อนที่โจลเอลลี่และบิลจะมาเจอ (รูปข้างล่าง) แต่ในซีรีส์ได้มีการเอาเรื่องราวนี้มาเปลี่ยนใหม่ และจัดให้ทั้งตอนเป็นเรื่องราวของทั้งคู่ ที่ก็ได้รับเสียงชื่นชมในแง่ของเนื้อหา จนทางทีมงานบอกว่าจะบอกเล่าเรื่องราวของบลิและแฟรงค์เพิ่มอีก ที่ก็ต้องรอดูว่ามันจะเอามาใส่ตรงไหนอย่างไร

มุมมองที่เปลี่ยนไปของ Abby และ Ellie

กลับมาที่ตัวละครทั้งสองอย่างเอลลี่และแอ๊บบี้กันอีกครั้ง ที่ถ้าใครเล่นเกมมาแล้วคงไม่ต้องอธิบายอะไรกันมาก เพราะทุกคนคงจะทราบกันอยู่แล้วว่าทั้งคู่นั้นจะมีเรื่องราวจุดเริ่มต้นที่ต่างกัน ก่อนที่เนื้อหาทั้งคู่จะมาสลับทางกันไปคนละแบบ ซึ่งคนที่ไม่เคยเล่นเกมไม่รู้เนื้อเรื่องเราก็จะอธิบายแบบไม่สปอยล์ว่า เรื่องราวมุมมองของตัวละครทั้งคู่นั้นจะมีความคิดที่ต่างกันชัดเจน โดยเฉพาะแอ๊บบี้ที่เริ่มต้นด้วยความโกรธเกลียด จนเธอเริ่มมาเรียนรู้หลายสิ่งจากการสูญเสียว่าเราควรจะหันมาดูแลปกป้องคนข้าง ๆ ที่รักเรามากกว่าไปสนใจสิ่งที่มันทำไปแล้วก็ไม่ได้อะไร กับเอลลี่ที่เริ่มต้นด้วยความรักความสวยงามชีวิตที่มีความสุข ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นความโกรธเกลียดโมโหที่สวนทางกับแอ๊บบี้ ที่ทางทีมงานบอกว่าจะปรับเปลี่ยนมุมมองของทั้งคู่ อันนี้คือสิ่งที่แฟน ๆ อยากรู้ว่าทีมงานจะเปลี่ยนสองตัวละครหลักนี้ไปทางไหน เพราะสุดท้ายสิ่งที่ทั้งคู่จะได้พบระหว่างทางมันคือคำตอบของสิ่งที่ทั้งคู่เห็นแต่ไม่สนใจ ที่เอาจริง ๆ ในเกมก็บอกเล่าชัดเจนแล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่คนเล่นเกมหลายคนก็ไม่เชื่อไม่สนใจตามที่เกมสื่อ เพราะมัวแต่ไปสนใจจุดอื่นของเรื่องจนพาลเกลียดเกมนี้ไปเลย ซึ่งตรงจุดนี้นั่นละคือปัญหาที่ซีรีส์ต้องมาปรับแก้ เพราะถ้าเล่าตามในเกมบอกเลยคนดูซีรีส์ก็ไม่เข้าใจแน่นอน ดังนั้นการเปลี่ยนมุมมองแง่คิดตรงนี้จึงเหมาะและควรทำมาก ๆ

ผู้ติดเชื้อในรูปแบบใหม่ ๆ สปอร์อาจจะกลับมา

แน่นอนว่าเมื่อตัวซีรีส์ขึ้นเนื้อหาใหม่สถานที่ใหม่อย่างซีแอตเทิลและซานตาบาร์บารา เราเลยได้เจอผู้ติดเชื้อรูปแบบใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาถึงสองแบบ อย่างแรกถูกเรียกว่า ‘Shamblers’ ที่ตัวของมันจะเป็นปุ่มหนองที่ปล่อยควันพิษออกมา (ใครโดนตายสถานเดียว) บอกเลยว่าโหดกว่าพ่อใหญ่ ‘Bloater’ ที่เราเห็นเสียอีก และอีกชนิดที่เราขอข้ามรูปเพราะมันจะเปิดเผยเนื้อเรื่องมากเกินไป แต่จะบอกแค่ชื่ออย่างเดียวว่า ‘Rat king’ ที่บอกเลยว่าตัวนี้โหดสุดที่คนดูซีรีส์ต้องเอามือปิดปากแน่นอน นอกจากนี้ก็น่าจะมีผู้ติดเชื้อใหม่ ๆ แบบที่ซีรีส์ทำมาแล้วกับสาวน้อย ‘Clicker’ ที่ในเกมไม่มี (คนเล่นเกมบอกอยากได้แบบนี้บ้าง) และสิ่งที่คนเล่นเกมขัดใจและในซีรีส์ไม่มีนั่นคือเรื่องราวของสปอร์เห็ดที่คราวนี้มันจะกลับมาแล้ว เพราะคนปกติ (ในเกม) ถ้าสูดสปอร์เห็ดเข้าไปมาก ๆ จะติดเชื้อแต่เอลลี่เราเดินชิลล์ ๆ คงต้องมาดูว่าจะมีผู้ติดเชื้อแบบอื่น ๆ เพิ่มมาอีกไหม

เส้นทางที่รุนแรงและอันตรายของ Ellie

ถ้าคุณได้ดู ‘The Last of Us’ ฉบับซีรีส์จบไปแล้วและคิดว่าในซีรีส์บอกเล่าเรื่องราวดราม่ามากเกินไป จนแทบไม่มีฉากต่อสู้เอาชีวิตรอดเลย มาคราวนี้ใน ‘The Last of Us Season 2’ จะมีการเพิ่มฉากเรื่องราวเนื้อหาที่เข้มข้นขึ้น เพราะการเดินทางของเอลลี่คราวนี้น้องต้องไปอยู่ตรงกลางของความขัดแย้งของคนสองกลุ่มที่ไม่ถูกกัน และต่างฝ่ายต่างก็ทำสงครามต่อสู้กันเรื่อยมา กลุ่มมีชื่อว่ากลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยวอชิงตัน ที่เรียกย่อ ๆ ว่า ‘WLF’ ที่เป็นกลุ่มคนกึ่ง ๆ ทหารที่มีการฝึกการรบและระเบียบแบบทหารที่ปกป้องประชาชน กับกลุ่มศาสนาที่เรียกว่า ‘Seraphites’ ที่ฝั่ง ‘WLF’ เรียกว่า ‘Scars’ ที่คนพวกนี้จะมีผู้นำทางด้านจิตวิญญาณที่ไม่ใช่ปืนแต่จะใช้ธนูที่สืบทอดคำสอนสิ่งต่าง ๆ จากผู้นำ และการประหารศัตรูด้วยการแขวนคอและคว้านท้องควักไส้ออกมา (เชื่อเถอะว่าคนเล่นเกมเจอมาแล้ว) โดยทั้งสองฝั่งจะแต่งกายต่างกันชัดเจนจนเราแยกออกได้ ที่กลุ่มแรกจะเป็นคนทั่ว ๆ ไปที่เราเห็น ๆ ในเกม แต่พวก ‘Scars’ ผู้ชายจะโกนหัวผู้หญิงจะมัดผมเป็นเปียพันรอบหัวและรอยแผลที่แก้มพร้อมกับชุดกันฝนที่เป็นเอกลักษณ์ของศาสนา พร้อมกับฉากโหด ๆ ที่จัดหนักจัดเต็มเตรียมปิดตากันได้เลย

การถ่ายทำอาจจะเปิดกล้องในปลายปี 2023 และเปิดตัวในปี 2024 – 2025

ปิดท้ายกับข่าวดีที่แฟน ๆ ซีรีส์คงไม่ต้องรอนานเหมือนคนเล่นเกม ที่ต้องรอมาตั้งแต่ปี 2013 กว่าจะได้ดูซีรีส์ ‘The Last of Us’ เพราะจากข้อมูลบอกว่าทางนีล ดรัคแมนเคยคิดอยากสร้างซีรีส์ ‘The Last of Us’ มาตั้งแต่ปี 2013 ปีเดียวกับที่เกมออก แต่ด้วยปัญหามากมายทั้งการหาผู้กำกับไปจนถึงบทซีรีส์ที่บางค่ายก็อยากสร้างแค่ภาพยนตร์ไม่อยากสร้างซีรีส์ จนสุดท้ายเวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงปีนี้ที่เราได้ดูซีรีส์ ‘The Last of Us’ สมใจ ที่พอยอดผู้ชมเสียงตอบรับที่ดีขนาดนี้ทาง ‘HBO’ มีหรือที่จะไม่ปล่อยไฟเขียวให้สร้างต่อ ซึ่งคิดว่าทาง นีล ดรักแมน และทีมงานคงจะเตรียมการทุกอย่างเอาไว้แล้วถึงได้มีข่าวว่าตัวซีรีส์จะเปิดกล้องปลายปี 2023 นี้และน่าจะออกฉายในปี 2024 ถึง 2025 เรียกว่าเร็วมาก ๆ ที่บอกเลยว่าคราวนี้เรื่องราวจะโหดดิบจริงจัง คนรักหมาเตรียมตัวเตรียมใจให้ดีบอกเลย เพราะคราวนี้มีประเด็นให้ ‘PETA’ (องค์กรพิทักษ์สัตว์) เล่นแน่นอนเตรียมรอดูในอนาคตได้เลย

เป็นอย่างไรกันบ้างกับการรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ ‘The Last Of Us Season 2’ ที่เรารวบรวมมานำเสนอ หวังว่าจะถูกใจแฟนซีรีส์กับเกมที่รอคอยและคาดหวังว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรจากข้อมูลที่เราหยิบมานำเสนอ ซึ่งคนเล่นเกมมาแล้วที่คันปากอยากบอกแต่ไม่อยากสปอยล์ คงบอกได้คำเดียวว่าคราวนี้มันคือความเกลียดชังโกรธแค้นการไถ่บาปยึดติดและความว่างเปล่า ที่เรียกว่ามืดมิดต่างกับภาคแรกที่เกี่ยวกับการสูญเสียความโหยหาความรักความผูกพัน ที่หลายคนต้องชอบแน่นอน และถ้ามีความคืบหน้าข่าวเกี่ยวกับซีรีส์ ‘The Last Of Us’ เราจะรีบมารายงานให้ทราบทันทีติดตามที่แบไต๋เอาไว้ได้เลย รับรองว่าคุณจะไม่พลาดทุกข่าวสารแน่นอน

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส