จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่สร้างความเสียหายและความสูญเสียให้กับประชาชนในเมียนมา และส่งผลกระทบถึงหลายพื้นที่ในประเทศไทย เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ได้แสดงความห่วงใยอย่างสุดซึ้งต่อผู้ประสบภัย และประกาศเปิดตัวโครงการ “ซีพีอาสา ร้อยเรียงความดี รวมใจช่วยผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว” เพื่อระดมความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนและเป็นระบบ โดยมีเป้าหมายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ได้รับผลกระทบ

ภายใต้การนำของนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซีพี ได้ระดมสรรพกำลังจากทุกกลุ่มธุรกิจในเครือฯ ทั้งด้านบุคลากร ทรัพยากร และเครือข่าย เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างครอบคลุมและทั่วถึง โดยได้รับความห่วงใยและคำแนะนำจากท่านประธานอาวุโส ธนินท์ เจียรวนนท์ และท่านประธานกรรมการ สุภกิต เจียรวนนท์ ที่ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเน้นย้ำให้ทุกกลุ่มธุรกิจใช้ศักยภาพอย่างเต็มที่ในการดูแลพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า และชุมชนที่เกี่ยวข้อง

เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน ซีพีได้ดำเนินการตามมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วน ดังนี้

• จัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังสถานการณ์” เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและประสานงานความช่วยเหลือกับหน่วยงานต่าง ๆ
• ส่งทีม “ซีพีอาสา ร้อยเรียงความดี” ลงพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือในจุดที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะบริเวณจตุจักร กรุงเทพฯ ซึ่งได้รับผลกระทบจากอาคารถล่ม
• สนับสนุนอาหารและสิ่งของจำเป็น เครือฯ ได้สนับสนุนผลิตภัณฑ์อาหารและวัตถุดิบจากหน่วยธุรกิจในเครือฯ แก่หน่วยงานและมูลนิธิต่าง ๆ ที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ เช่น โรงครัวพระราชทาน มูลนิธิเพชรเกษม และมูลนิธิองค์กรทำดี
• ตรวจสอบและประเมินความปลอดภัย ซีพีได้ดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารสำนักงาน โรงงาน และสถานประกอบการของเครือฯ ทั่วประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกพื้นที่ปลอดภัยสำหรับพนักงาน ลูกค้า และคู่ค้า
• เตรียมความพร้อมระบบสื่อสาร กลุ่มทรู คอร์ปอเรชั่น ได้เตรียมความพร้อมระบบสื่อสาร เพื่อรองรับการใช้งานในพื้นที่ประสบภัยและประสานการสนับสนุนกับหน่วยงานรัฐ
• เผยแพร่ข้อมูลความปลอดภัย ซีพีได้เผยแพร่ข้อมูลคำแนะนำด้านความปลอดภัยผ่านช่องทางการสื่อสารขององค์กร เพื่อให้ประชาชนสามารถรับมือกับเหตุฉุกเฉินได้อย่างถูกต้อง

ความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม

นายศุภชัย เจียรวนนท์ กล่าวว่า

เครือเจริญโภคภัณฑ์ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมเป็นพลังสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบภัย และขอเชิญชวนประชาชนติดตามข่าวสารจากหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิด พร้อมร่วมมือกันเพื่อความปลอดภัยและการฟื้นฟูที่ยั่งยืนในระยะยาว