ในยุคที่สมาร์ตโฟนกลายเป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การสื่อสาร ธุรกรรมทางการเงิน ไปจนถึงความบันเทิงและบริการต่าง ๆ ที่ต้องใช้ข้อมูลส่วนตัวเพื่อให้เข้าถึงบริการนั้นได้ง่ายขึ้น แต่ลึก ๆ แล้วคิดว่าหลายคนก็น่าจะกังวลว่าข้อมูลส่วนตัวของเราจะปลอดภัยจริงหรือไม่ ? ความรู้สึกนี้กำลังสะท้อนถึง “Privacy Paradox” หรือความย้อนแย้งด้านความเป็นส่วนตัว 

กลัวข้อมูลรั่ว แต่ก็กดอนุญาต ชวนทำความเข้าใจ Privacy Paradox ความย้อนแย้งที่เราต่างก็เป็น

เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยรู้สึกคล้าย ๆ กัน เวลาจะโหลดแอปพลิเคชัน เข้าบริการใหม่ ๆ หรือเข้าเว็บไซต์ที่ไม่คุ้นเคย พอมีหน้าต่างที่มีข้อความยาวเหยียดจนลายตาเด้งขึ้นมาพร้อมปุ่ม อนุญาต หรือ Allow / Agree จะต้องรีบหาปุ่มกดยอมรับโดยทันที แทบไม่ได้อ่านรายละเอียดข้อตกลงอะไรเลย แม้จะมีแวบหนึ่งที่นึกถึงความไม่ปลอดภัยของข้อมูลอยู่ก็ตาม 

ปรากฏการณ์นี้ก่อให้เกิดความย้อนแย้งในด้านความเป็นส่วนตัว (Privacy Paradox) ที่กังวลถึงความปลอดภัยเกี่ยวกับการนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม แต่ก็ยังปล่อยให้บริษัทหรือระบบออนไลน์เก็บรวบรวมและเข้าถึงความเป็นส่วนตัวข้อมูลของเรา เพราะถึงหากไม่ให้เข้าถึงความเป็นส่วนตัวหรือ Privacy ก็จะไม่สามารถใช้บริการได้ นั่นจึงเป็นส่วนที่ทำให้ความเป็นส่วนตัวน้อยลง 

ภัยไซเบอร์น่ากลัวขึ้นทุกวัน แต่ทำไมเรายังยอมเสี่ยง

อย่างที่ทราบกันดีว่าทุกวันนี้มิจฉาชีพมาได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกให้โอนเงิน หรือมาในรูปแบบแอปฯ ดูดเงินที่เคยเห็นตามข่าว ที่ทำให้เรากังวลเรื่องความปลอดภัย คงไม่มีใครอยากเจอ แล้วตกเป็นเหยื่อ

แม้จะรู้ดีว่าข้อมูลส่วนตัวของเรามีค่า มีคนที่หมายปองอยากจะได้ เพื่อไปใช้ในทางที่ผิด แต่ถึงอย่างนั้นคนส่วนใหญ่ก็ยังยอมมอบให้อยู่ดีเพื่อแลกกับการใช้บริการ 

โดยเฉพาะเทรนด์ที่มีการเอาภาพถ่ายส่วนตัวไปให้ AI สร้างเป็นภาพใหม่ ๆ นี่คือความย้อนแย้งที่เกิดขึ้นเพราะมัวแต่สนุกกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าและความสะดวกสบายในการเข้าถึง จนลืมนึกถึงความปลอดภัยของข้อมูลไปชั่วขณะ

หากไม่ให้เข้าถึง ก็จะไม่สามารถใช้บริการได้ การอนุญาต จึงเป็นทางเดียว

จริง ๆ แล้ว Privacy Paradox เนี่ย ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเราไม่ใส่ใจ แต่เกิดจากปัจจัยทางจิตวิทยาและสภาพแวดล้อมดิจิทัลเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่า เทรนด์ใหม่ ๆ กระแสโซเชียลต่าง ๆ ที่กำลังมา ไม่ว่าจะแอปฯ ที่น่าใช้ หรือการเจน AI ที่น่าเล่น เราก็มักจะลืมให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลไปชั่วขณะ และมองว่ามันเป็นเรื่องของอนาคต หาเหตุผลเข้าข้างตัวเองว่า “คงไม่เกิดกับฉันหรอกน่า” หรือมองว่าข้อมูลของตนเองไม่มีอะไรที่น่าปิดบัง

และด้วยความเคยชินบวกกับรู้สึกเหนื่อยที่ต้องอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ยาวเหยียด จนต้องยอมจำนน กดอนุญาต เพื่อจะได้เข้าถึงบริการนั้น ๆ ได้อย่างง่าย

สิ่งที่เราควรทำ คือการตระหนักรู้ให้มากขึ้น “คิดก่อนคลิก” ควรอ่านให้ดีก่อนที่จะกดยอมรับหรือ กดอนุญาต ลองตั้งคำถามกับตัวเอง อย่างเช่น เมื่อแอปฯ มีแจ้งเตือนขออนุญาตติดตามกิจกรรมของคุณในแอปฯ ต้องคิดแล้วว่าปลอดภัยหรือบริการนี้จำเป็นจริง ๆ หรือเปล่าที่เราจะเอาข้อมูลส่วนตัวไปแลก ? ลองใช้เวลาสักนิดเข้าไปตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในแอปฯ ที่ใช้บ่อย ๆ มันอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ถูกมองข้ามได้ง่าย แต่ก็สำคัญ

ท้ายที่สุดแล้ว Privacy Paradox อาจจะไม่ได้สะท้อนถึงความละเลยความปลอดภัยของผู้ใช้งาน แต่เพื่อแลกกับความสะดวกสบายที่ได้มา เราอาจจะต้องย้อนถามตัวเองแล้วว่า ระหว่างความง่ายในการเข้าถึงบริการ กับ ความเป็นส่วนตัวในโลกดิจิทัล เราให้น้ำหนักกับเรื่องไหนมากกว่ากัน