วันนี้ (1 พฤศจิกายน 2016) Google ได้เปิดตัว Tango ซึ่งระบบ AR สำหรับสมาร์ทโฟนอย่างเป็นทางการ หลังจากใช้เวลาในการพัฒนามานานกว่า 2 ปี

Tango เป็นโปรเจ็คต์ที่ได้รับการพัฒนาตั้งแต่ปี 2014 ด้วยเทคโนโลยีระดับสูงของ Google ที่ทำให้สมาร์ทโฟนสามารถตรวจวิเคราะห์พื้นที่รอบตัวผู้ใช้เพื่อสร้างกราฟิกขึ้นมาซ้อนทับโลกจริงได้อย่างแม่นยำในสมาร์ทโฟน
[su_spoiler title=”การทำงาน 3 อย่างของ Tango เพื่อวิเคราะห์และซ้อนวัตถุในโลกจริง” style=”fancy”]
- ตรวจสอบการเคลื่อนไหวของอุปกรณ์ โดยอาศัยข้อมูลจาก accelerometer และ gyroscope ผสมกับวิเคราะห์ภาพการเคลื่อนไหว
- เรียนรู้พื้นที่ เก็บข้อมูลพื้นที่รอบตัวผู้ใช้เอาไว้เพื่อใช้งานภายหลัง
- เรียนรู้ความลึกของพื้นที่ เพื่อตรวจหาระยะ ขนาด และพื้นผิวของวัตถุรอบตัว
https://youtu.be/iHN4c7FYXYs
จากข้อมูลทั้ง 3 อย่างนี้ ทำให้ Tango สามารถสร้างข้อมูลพื้นที่แบบ Six degrees of freedom ที่รองรับการเปลี่ยนมุมแบบ 3 แกน (หมุนซ้าย-ขวา, หมุนบน-ล่าง, หมุนเอียงข้าง) และเคลื่อนที่อีก 3 แกน (ขึ้น-ลง, หน้า-หลัง, ซ้าย-ขวา)[/su_spoiler]
โดยในขณะนี้มีแอปที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้ทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนที่รองรับเทคโนโลยี AR ของ Tango ได้ทั้งสิ้น 35 แอป ยกตัวอย่างเช่น
- เกม Crayola Color Blaster ที่แสดงให้เห็นการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีติดตามตัวบุคคลผสมผสานกับการเล่นเกมในสถานที่จริงได้อย่างยอดเยี่ยม
- แอป iStaging ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทดลองวางเฟอร์นิเจอร์ลงในสถานที่จริงได้อย่างสมจริง
- แอป Matterport Scenes ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพให้กลายเป็น 3 มิติได้
https://twitter.com/Lucas_Matney/status/793438078467579905?ref_src=twsrc%5Etfw
ในตอนนี้มีเพียงสมาร์ทโฟน Lenovo Phab 2 Pro (ราคา 499 เหรียญ หรือ 17,500 บาท) เท่านั้นที่มีกล้องและเซ็นเซอร์ที่รองรับการทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AR ของ Tango ที่ Google พัฒนาขึ้นมาได้
ได้มีการคาดการณ์ว่าในปี 2017 จะมีสมาร์ทโฟน Android อีกหลายรุ่นที่จะได้รับการพัฒนาให้รองรับการทำงานร่วมกับ Tango ได้ด้วยเช่นกัน

ข้อมูลอ้างอิง : techcrunch.com










