OMODA & JAECOO (โอโมด้า แอนด์ เจคู) ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ ประกาศฉลองครบรอบ 1 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย พร้อมเผยถึงความสำเร็จที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าชาวไทย โดยเฉพาะรถยนต์รุ่น JAECOO 5 EV ที่มียอดจองกว่า 5,000 คันในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ในงานเฉลิมฉลอง ผู้บริหารได้ประกาศทิศทางการดำเนินงานในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ด้าน ได้แก่ การพัฒนารถยนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค การลงทุนในโรงงานผลิตในประเทศ และการร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งทั้งหมดนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ Chery Group ในระดับโลก

คุณบิล จาง ผู้อำนวยการบริหารแบรนด์ OMODA & JAECOO ประเทศไทย กล่าวว่า “ตลาดไทยเป็นตลาดสำคัญของเราในภูมิภาคนี้ และผลตอบรับที่ดีในปีแรกก็ยืนยันว่าเรามาถูกทางแล้ว ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ผสมผสานทั้งเทคโนโลยี การออกแบบ และประสิทธิภาพการใช้งานที่ตอบโจทย์คนไทยได้เป็นอย่างดี”


เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาว บริษัทได้ลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท เพื่อตั้งโรงงานผลิตในไทย โดยมีแผนจะเริ่มผลิตรถรุ่น JAECOO 6 EV เป็นรุ่นแรก ตามด้วย OMODA C5 EV และ JAECOO 5 EV ภายในปีนี้ นอกจากนี้ยังตั้งเป้าที่จะสร้างศูนย์ฝึกอบรมและวิจัยพัฒนาภายในปี 2570

ด้านการขยายเครือข่าย ปัจจุบันบริษัทมีผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว 60 แห่ง และมีเป้าหมายเพิ่มเป็น 90 แห่งภายในปี 2568 พร้อมทั้งมีแผนจะนำรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดรุ่นใหม่ ๆ เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
ยกระดับการบริการหลังการขาย
เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า OMODA & JAECOO ได้ยกระดับบริการหลังการขายภายใต้ชื่อ “OJ O-Jai” (โอเจ โอใจ) ซึ่งครอบคลุมหลายด้าน เช่น
- ศูนย์บริการลูกค้า: เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน
- รถสำรอง: สำหรับลูกค้าที่มีปัญหารถยนต์จากระบบ
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน: ฟรีในระยะ 200 กิโลเมตร (ขยายจากเดิม 100 กิโลเมตร) โดยรับประกันการเข้าถึงพื้นที่ใน 30 นาทีสำหรับกรุงเทพฯ และ 45 นาทีสำหรับต่างจังหวัด
- Mobile Service: บริการซ่อมบำรุงเบื้องต้นถึงที่ (จำกัด 2 ครั้งต่อปี)
- บริการรับ-ส่งรถ: สำหรับลูกค้าที่ไม่สะดวกเดินทาง (มีแผนเปิดให้บริการในปีหน้า จำกัด 2 ครั้งต่อปี)
นอกจากนี้ภายในงานยัง Exclusive เปิดตัวมาริโอ้ เมาเร่อ พรีเซนเตอร์ OMODA & JAECOO ตามด้วยโชว์สุดพิเศษจากวง Season Five


OMODA & JAECOO ยืนยันว่าการดำเนินงานตลอด 1 ปีที่ผ่านมาเป็นเพียงจุดเริ่มต้น และจะยังคงเดินหน้าลงทุนและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความแข็งแกร่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยต่อไป