วันที่ 5 กรกฎาคม 2565 บริษัท Vauld ผู้ให้บริการกู้ยืมคริปโทฯ ได้ประกาศหยุดการซื้อขาย โอน และฝากถอนทุกอย่างบนแพลตฟอร์มเพื่อหาวิธีแก้ไขปัญหาด้านสภาพคล่องในบริษัท โดยอ้างว่าเป็นผลกระทบจากความผันผวนอย่างหนักของตลาดคริปโทฯ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

ดาร์ชาน บาธิจา (Darshan Bathija) ประธานบริหารของบริษัทได้ออกมาประกาศว่าบริษัท ‘กำลังประสบปัญหาทางการเงิน’ จากสภาพความผันผวนของตลาดคริปโทฯ และความวิตกกังวลของผู้คนในตลาดจนผู้ใช้งานแพลตฟอร์มพากันถอนเงินออกไปกว่า 197,000,000 เหรียญ (ราว 7,000,000,000 บาท) นับตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทำให้แพลตฟอร์มเกิดความติดขัดด้านสภาพคล่อง และเจอความท้าทายในการหาเงินมาตอบสนองความต้องการถอนเงินของลูกค้า

นับย้อนจากการประกาศปิดการถอนเงินในครั้งนี้ไป 3 สัปดาห์ เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน บาธิจาเคยได้กล่าวว่าบริษัทจะยังคงดำเนินงานอย่างปกติถึงแม้ว่าตลาดจะมีความผันผวน และการถอนเงินจะยังคงทำได้ต่อไปในอนาคต

แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ที่เลวร้ายในตลาดตอนนี้ ขนาดที่เหรียญใหญ่ที่สุดอย่างบิตคอย์ได้ลดมูลค่าลงมากว่า 70% จากจุดสูงสุด รวมถึงเหรียญและธุรกิจคริปโทฯ ที่ล้มหายตายจากไป ทำให้บริษัทหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะปิดการถอนของผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มเพื่อป้องกันการล้มละลาย และกำลังค้นหาตัวเลือกทั้งหมดที่เป็นไปได้ในการแก้ปัญหา รวมถึงแผนในการปรับโครงสร้างใหม่เพื่อรักษาผลประโยชน์ให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด

ซึ่งนอกจาก Vauld แล้ว ก็ยังมีบริษัทคริปโทอีกหลายบริษัทที่ประสบปัญหาในช่วงตลาดขาลงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการล่มสลายของ LUNA ที่แทบจะเรียกได้เป็นตัวกระตุ้นสำคัญของขาลงครั้งใหญ่นี้ และ Celsius ที่ประสบปัญหาด้านสภาพคล่องจนต้องปิดการถอนไปเช่นกัน หรือกองทุน 3AC ที่ขาดทุนหนักจนต้องยื่นขอล้มละลายไปในช่วงที่ผ่านมา

ที่มา: CNBC

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส