แน่นอนว่าในช่วงที่ #เที่ยวไทยคนละครึ่ง กำลังเดือดแบบนี้ คงทำให้ใครหลาย ๆ คนนึกถึงลุงตู่ขึ้นมา เพราะในช่วงรัฐบาลชุดลุงตู่นั้น มีโครงการที่มาพร้อมกับแอปฯ มากมายงอกขึ้นมา ทั้งเพื่อรองรับสถานการณ์เศรษฐกิจบ้างล่ะ ส่งเสริมการใช้จ่ายดิจิทัลบ้างล่ะ เยอะแยะมากมายไปหมด  แต่ทว่าขั้นตอนก่อนจะได้รับการช่วยเหลือมักไม่ได้ง่ายเสมอไป และแทบทุก ๆ ครั้ง ประชนชนก็ยังต้องพบเจอกับปัญหาเดิม ๆ คือมีข้อจำกัดที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ถ้าอยากได้สิทธิ์ ก็ต้องมีแอปฯ และจะต้องยืนยันตัวตนผ่านอีกแอปฯ แน่นอนว่าถ้าวัยรุ่นหรือคนชนชั้นกลาง ๆ ที่เข้าใจขั้นตอนความยากง่ายก็ไม่ใช่ปัญหา แต่คนที่ลำบากจริง ๆ คือคนเฒ่าคนแก่นี่สิ หรือคนที่ไม่มีสิ่งที่เอื้ออำนวยในการรับสิทธิ์นี่สิ ที่จะยุ่งยากขึ้นไปอีก และเสียสิทธิ์ไปเฉย ๆ ก็มี วันนี้แอดจึงจะพาทุกคนมาส่องเหล่าโครงการที่มาพร้อมกับแอปฯ จากทั้ง 2 รัฐบาลกันค่ะ ลำดับจากความใกล้เคียง จะมีอยู่ไม่กี่โครงการที่คล้ายคลึงกันระหว่าง 2 รัฐบาลนี้ ถ้ารัฐบาลชุดพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ ลุงตู่ ก็จะมีโครงการ “คนละครึ่ง” ที่คล้ายคลึงกันกับ “ดิจิทัลวอลเล็ต” ในยุครัฐบาลอุ๊งอิ๊ง เพียงแค่รัฐบาลอุ๊งอิ๊งนั้น คือการแจกเงินผ่านแอปฯ ทางรัฐ และใช้แอปฯ…

ไวรัลการสร้างภาพแฟนทิพย์ด้วย AI กำลังเป็นเทรนด์ในโซเชียลที่หลายคนเริ่มทดลอง เอาภาพตัวเองไปใช้ Prompt ให้ AI วาดแฟนหนุ่มหรือแฟนสาวในฝันมายืนข้าง ๆ แล้วแชร์ในแพลตฟอร์มโซเชียล ถึงจะน่ารักแต่ก็มีประเด็นที่ควรรู้ไว้เหมือนกัน เพราะมันมีทั้งมุมสนุกและมุมที่ต้องระวังค่ะ AI เอาภาพมาจากไหน ? คนในภาพ AI มีอยู่ในโลกจริงหรือเปล่า หลายคนอาจมีคำถามว่า AI Agents เอาภาพมาจากไหนในการสร้างภาพตาม Prompt ที่ผู้ใช้งานต้องการ ก่อนอื่นการ Generative AI ประเภทนี้จะเป็น Text-to-Image Generative AI หรือก็คือ AI ที่สามารถสร้างรูปภาพขึ้นมาใหม่จากการสั่งข้อความเป็นรูปภาพ ซึ่ง AI Agents จะมี Data ของข้อมูลในระบบ โดยปกติแล้ว 'แฟน' ที่ AI สร้างขึ้นมาจะไม่ใช่คนจริง แต่เกิดจากการ 'ประมวลผลใบหน้าใหม่' จากฐานข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ AI เคยได้รับมา เช่น รูปคนดัง, คนทั่วไปที่เผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต ฯลฯ ดังนั้น…

เมื่อสังคมบีบบังคับในเราต้องก้มหน้า ไม่ว่าจะจากการทำงาน การติดต่อสื่อสาร หรือแม้กระทั่งการติดตามรับชมสื่อเอนเทอร์เทนเมนต์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ล้วนแล้วทำให้เรากลายเป็นมนุษย์ติดจอ แต่รู้หรือไม่ว่าแค่เพียงคุณคว่ำจอมือถือลงก็อาจส่งผลดีมากกว่าที่คิด บทความนี้เลยจะมาแชร์ประโยชน์จากการ ‘คว่ำจอมือถือ’ แค่พลิกชีวิตก็เปลี่ยน ไม่ใช่แค่ประโยชน์ทางจิตวิทยา แต่ยังช่วยในเรื่องการเซฟเครื่องได้อีกด้วย ! เมื่อสังคมติดจอ บีบให้หลายคนต้องละเลยคนตรงหน้า ยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าและพัฒนาไปอย่างรวดเร็วทำให้เรา ‘ละเลย’ คนตรงหน้า เพราะมัวแต่จดจ่ออยู่กับหน้าจอมือถือ ภาพของคนที่กำลังไถฟีด ดูวิดีโอ หรือพิมพ์ตอบแชตจนลืมไปว่ามีคนอยู่ตรงหน้านั้น กลายเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไป  แน่นอนว่าการตอบข้อความด่วนหรือแชร์อะไรที่น่าสนใจไม่ใช่เรื่องผิด แต่หากสิ่งนี้กลายเป็นนิสัยที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ โดยเฉพาะเมื่อใช้เวลากับคอนเทนต์เชิงลบหรือไม่เกิดประโยชน์ ก็อาจส่งผลเสียต่ออารมณ์ สุขภาพจิต และความสัมพันธ์กับคนรอบข้างอย่างไม่รู้ตัว รับมือสิ่งกวนใจด้วยการคว่ำหน้าจอ  หนึ่งในวิธีง่าย ๆ ที่สามารถทำได้เพื่อรับมือกับสิ่งรบกวนเหล่านี้ คือการนำโทรศัพท์ออกจากสายตา หรือแค่ “คว่ำหน้าจอลงบนโต๊ะ” เมื่อไม่ได้ใช้งาน วิธีนี้ไม่เพียงลดสิ่งที่เบี่ยงเบนความสนใจ แต่ยังช่วยให้เรารู้สึกควบคุมปฏิสัมพันธ์รอบตัวได้ดีขึ้นอีกด้วย ตามรายงานจากเว็บไซต์ Cnet การวางโทรศัพท์โดยคว่ำหน้าลงยังมีข้อดีอีกหลายด้าน เช่น ป้องกันหน้าจอจากการกระแทก ลดแสงรบกวนจากการแจ้งเตือน และที่สำคัญคือ แสดงออกถึงความเคารพต่อคนที่อยู่รอบตัว ถือเป็นสิ่งเล็ก ๆ แต่ช่วยปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ประโยชน์ของการคว่ำหน้าจอมือถือที่หลายคนคาดไม่ถึง 1. ป้องกันหน้าจอโทรศัพท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ…

กระแสโซเชียลที่เปลี่ยนตลอด ครีเอเตอร์ เกิดขึ้นมาให้เราเห็นเรื่อย ๆ แต่โลกของความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้ถูกจำกัดเพียงแค่มนุษย์ เพราะ AI ทำได้ !

เคยคิดไหมบางทีเรานั่งทำงานอยู่ แต่อยากใส่ใจว่าทำไมพี่คนนั้นงานยุ่งจัง แต่อยู่ดี ๆ ก็ลาออก แล้วบอกว่าอยากไปเจออะไรใหม่ ๆ เพราะรู้สึกว่าภายในบริษัทเริ่มมีความคุกรุ่น ทุกคนดูทำงานหนัก และดูเหมือนมีคนจับจ้อง เลยต้องแกล้งทำเป็นยุ่ง ทั้งที่จริง ๆ แล้วแทบไม่ได้ทำงาน หรือบางครั้งก็ใช้เวลานั้นในการหางานใหม่เสียด้วยซ้ำ เทรนด์นี้เรียกว่า “Ghostworking” นั่นเองค่ะ แม้จะไม่ใช่พฤติกรรมใหม่ แต่ Ghostworking กำลังสะท้อนปัญหาใหญ่ในความสัมพันธ์ที่เปราะบางระหว่างนายจ้างและลูกจ้างในยุคปัจจุบัน ผลสำรวจชี้ ! พนักงานอเมริกันกว่า 90% เคยหางานใหม่ในเวลางาน ผลสำรวจจาก Resume Now พบว่า 92% ของพนักงานยอมรับว่าเคยหางานใหม่ระหว่างเวลางาน โดยในจำนวนนี้ 55% บอกว่า “ทำเป็นประจำ” ขณะที่อีก 37% บอกว่า “เคยทำบ้างเป็นบางครั้ง” วิธีที่ใช้กันบ่อยได้แก่ ไม่ใช่แค่แกล้งทำงาน แต่เป็นเกมจิตวิทยาระหว่างพนักงานกับบริษัท Ghostworking อาจดูคล้ายกับแนวคิดในอดีต อย่าง “Quiet Quitting” ที่โบกมือลางานหนัก หรือ “Productivity Theater” ที่ผลงานไม่มีแต่ดูเหมือนทำงานหนัก แต่ใน…

เราจะพาคุณผู้อ่านมาเจาะลึกถึงความเป็นมาของ Ego และร่วมกันค้นหาคำตอบว่า การที่มนุษย์ใช้ AI เพื่อสนอง Ego ของตัวเองนั้น เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ?

คนไทยบริโภคโซเดียมเกินมาตรฐาน เสี่ยง NCDs! "ภาษีเค็ม" จะช่วยได้จริงหรือ? มาดูข้อดี-ข้อเสีย ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และแนวทางรับมือในบทความนี้

แฟนภาพยนตร์ดัง “Mission: Impossible” คงจะจำฉากสุดคลาสสิกที่สายลับอีธาน ฮันต์ ซึ่งรับบทโดย ทอม ครูซ (Tom Cruise) มักจะได้รับคำสั่งจากอุปกรณ์ที่ทำลายตัวเองภายใน 5 วินาที แต่ในความเป็นจริงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบนี้จะสามารถ “สลายหายไป” ได้จริงหรือ ?  ถ้าย้อนกลับไปปี 1996 ในวันที่ Mission: Impossible เข้าฉายครั้งแรกในโรงภาพยนตร์ หลายคนได้ชมฉากไวรัลที่แบตเตอรี่ทำลายตัวเองไปต่อหน้าต่อตา ไม่มีใครคิดว่าในชีวิตจริงเราจะสามารถทำได้ แม้แต่ในตอนนี้เอง ลองหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาก็ยังเกิดคำถามอยู่เลยว่า มันจะทำได้ด้วยวิธีไหนกันนะ ? แต่ตอนนี้มีงานวิจัยใหม่ล่าสุด ที่เปิดเผยความเป็นไปได้ในการใช้โพรไบโอติกส์ (Probiotics) จุลินทรีย์ที่มีชีวิต ซึ่งโดยปกติมีประโยชน์ต่อสุขภาพของเราอยู่แล้วเมื่อรับประทานเข้าไป และไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น เพื่อสร้างพลังงานให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบย่อยสลายได้ นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยบิงแฮมตัน กำลังเปลี่ยนจินตนาการจากหนังแอกชันชื่อดังให้กลายเป็นจริง ด้วยการพัฒนาแบตเตอรี่ขนาดจิ๋วที่สามารถหายไปได้หลังจากใช้งาน โดยได้แรงบันดาลใจจากฉากสุดคลาสสิกในภาพยนตร์ Mission: Impossible ศาสตราจารย์ ชเว ซอกฮึน (Choi Seokheun) หรือศาสตราจารย์ฌอน (Sean) จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบิงแฮมตัน ได้ทำวิจัยมานานกว่า 20 ปี…

'Dyson' เปิดบ้านโชว์เทคโนโลยีสุดล้ำล่าสุด กับงาน 'Dyson Wet Range with Sky Wongravee' จับมือ 'สกาย วงศ์รวี' โชว์ลีลาการทำความสะอาดบ้านด้วยเครื่องดูดฝุ่น Dyson V12s Detect Slim SubmarineTM Complete สกาย วงศ์รวี เผยเคล็ดลับการทำความสะอาดกับ Dyson ประเทศไทย ในงาน Dyson Wet Range with Sky Wongravee โชว์การทำความสะอาดบ้านด้วย Dyson V12s Detect Slim SubmarineTM Complete ดูดฝุ่นตั้งแต่พื้นจนถึงชั้นวางของและถูพื้นครบจบในเครื่องเดียว โดยสกาย และ Dyson ประเทศไทยได้ประกาศความร่วมมือมาตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยในวันนี้ถือเป็นครั้งแรกที่สกายมาโชว์ความสามารถในการเป็นพ่อบ้านแบบตัวเป็น ๆ ให้แฟนคลับได้เห็น พร้อมทั้งมีกิจกรรมร่วมสนุกกับผู้เข้าร่วมงานอีกด้วย ภายในงาน สกาย วงศ์รวี หยิบ Dyson V12s Detect Slim SubmarineTM Complete โชว์สเต็ปการทำความสะอาดทั้งแบบแห้งและเปียกด้วยเครื่องเดียว ทั้งการดูดฝุ่นที่มีตัวช่วยอย่างเลเซอร์สีเขียวจากหัวดูดทำความสะอาด Fluffy OpticTM เผยฝุ่นละเอียดที่มองเห็นได้ยาก หรือสำหรับพ่อแม่น้องหมาน้องแมวที่ขนฟุ้งเต็มบ้าน สกายก็สาธิตการจัดการด้วยหัวดูดเก็บเส้นผม ปิดจบด้วยหัวดูดลูกกลิ้งเปียก SubmarineTM ที่สามารถถูพื้น และจัดการกับคราบของเหลวได้ง่ายดาย ยกระดับความสะอาดไปสู่ขั้นสุด เอาใจคนไทยที่พื้นบ้านต้องสะอาดแบบเดินเท้าเปล่าได้อย่างสบายใจ โดยในวิดีโอล่าสุดที่ร่วมด้วย สกาย วงศ์รวี สาธิตให้เห็นว่าทั้ง Dyson V12s…

ไม่ว่าจะยุคไหน ๆ การศึกษายังถือว่าเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับทุก ๆ คน โดยเฉพาะในปัจจุบันที่การเข้าถึงการศึกษาง่ายมากขึ้น วันนี้ BT beartai จะพาผู้อ่านมาทำความรู้จักกับ EdTech หลักสูตรที่สำคัญต่อการศึกษาในยุคดิจิทัล-AI ในปัจจุบัน Education Technology : หลักสูตรจำเป็นในยุคดิจิทัล EdTech เป็นคำย่อมาจาก Education Technology โดยที่เนื้อหาก็แปลตามความหมายเลย คือ 'เทคโนโลยีการศึกษา' เป็นการควบรวมเทคโนโลยีเข้ากับการศึกษา คอนเซปต์คือสร้างการเรียนรู้ใหม่ ๆ และออกจากกรอบเดิม ๆ ของการเรียนรู้ เพื่อปรับให้เหมาะสมกับผู้เรียนทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบฮาร์ดแวร์ (Hardware) หรือซอฟต์แวร์ (Software) เพื่อนำมาใช้ในการเรียนรู้ การศึกษา โดยจุดประสงค์หลักคือให้สามารถเข้าถึงทรัพยากร (Resource) ที่ง่ายและสะดวกมากขึ้น รวมถึงมุ่งเน้นการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ ถามว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนการศึกษาแบบเดิม ๆ ไหม ? ต้องบอกว่ายุคนี้คือยุคของโลกดิจิทัล เด็ก ๆ โตขึ้นมาพร้อมแท็บเล็ต มือถือ อินเทอร์เน็ต แอปฯ ความบันเทิงที่เพรียบพร้อม การเข้าถึงข้อมูลที่ง่ายและรวดเร็ว ดังนั้น…

ซัมซุง เขย่าวงการเกมมิงครั้งใหญ่ เปิดตัวไลน์อัปจอเกมมิงรุ่นล่าสุดปี 2568 (เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568) ภายใต้แนวคิด ‘The Next Phase of Gaming’ ปฏิวัติประสบการณ์การเล่นเกมมิติใหม่แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ชูที่สุดของนวัตกรรมจอภาพเอาใจคอเกมทุกสไตล์ กับจอ 3 มิติแบบไม่ต้องสวมแว่น พร้อมระบบ AI ช่วยแปลงคอนเทนต์ 2D สู่ 3D แบบเรียลไทม์ และจอ OLED ที่มาพร้อมอัตรารีเฟรชสูงถึง 500 Hz รุ่นแรกของโลก ไปจนถึงที่สุดของภาพคมชัดระดับ 4K และจอ Super Ultra-Wide ขนาด 49 นิ้ว ตอบโจทย์ครบทั้งภาพสวยชัดสุดดื่มด่ำ สเปกเร็วแรงถึงใจ และดีไซน์สุดพรีเมียม นางสาวอภิรดา พัวพรพงษ์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์จอภาพ กล่าวว่า ตลาดจอมอนิเตอร์พรีเมียมในประเทศไทยยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แม้จะมีการแข่งขันสูง โดยในปีที่ผ่านมา ตลาดภาพรวมในประเทศไทยเติบโตขึ้น 2.96% ขณะที่ซัมซุงสามารถเติบโตได้ถึง 9.76% (ข้อมูลอ้างอิงจาก…

และแล้วงาน Worldwide Developer Conference 2025 หรืองานโชว์ของใหม่ประจำปีของ Apple ก็ได้เริ่มต้นขึ้น โดยในปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 - 13 มิถุนายน 2025

AI กำลังก้าวสู่การเป็นเทคโนโลยีระดับมหภาคที่กำหนดทิศทางใหม่ให้กับโลกวิทยาศาสตร์ ล่าสุด ประเทศจีนได้ปล่อยดาวเทียมชุดแรกภายใต้โครงการสร้างเครือข่ายซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ในอวกาศ ซึ่งจะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถประมวลผลข้อมูลได้โดยตรงจากวงโคจร เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา จีนได้ยิงดาวเทียมจำนวน 12 ดวงขึ้นสู่อวกาศ โดยใช้จรวด Long March 2D จากศูนย์ปล่อยดาวเทียมจิ่วเฉวียน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแผนสร้าง “กลุ่มดาวเทียม AI” หรือ Three-Body Computing Constellation ซึ่งจะประกอบด้วยดาวเทียมทั้งหมดประมาณ 2,800 ดวง นำโดยบริษัท ADA Space และ Zhejiang Lab  กลุ่มดาวเทียมนี้จะทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลโดยตรงจากวงโคจร ซึ่งลดการพึ่งพาคอมพิวเตอร์ภาคพื้นดิน และใช้ “สุญญากาศเย็น” ของอวกาศเป็นระบบระบายความร้อนตามธรรมชาติ โดยคาดว่าจะมีพลังประมวลผลรวมกว่า 1,000 เพตะออเพอเรชันต่อวินาที (*เพตะออเพอเรชัน คือ จำนวนการคำนวณทางคณิตศาสตร์ที่คอมพิวเตอร์สามารถทำได้ในหนึ่งวินาที) ในปัจจุบัน ดาวเทียมจำนวนมากถูกใช้เพื่อระบบ GPS, เซนเซอร์สภาพอากาศ, กล้องโทรทรรศน์ และการสื่อสาร โดยข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ถูกรวบรวมจากวงโคจรจะต้องส่งกลับมายังโลกเพื่อประมวลผล แต่การส่งข้อมูลนั้นมีข้อจำกัด เช่น แบนด์วิดท์ต่ำ…

Amazon เปิดตัวหุ่นยนต์รุ่นใหม่ในช่วงเดือนมกราคม 2025 ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถรับรู้การสัมผัส ช่วยให้สามารถหยิบจับสิ่งของและจัดเก็บสินค้าภายในคลังได้ประมาณ 3 ใน 4 ของสินค้าทั้งหมด โดยเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้ได้เริ่มปฏิบัติงานแล้วที่ศูนย์กระจายสินค้าของบริษัทในเมืองสโปแคน รัฐวอชิงตัน และเมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี หุ่นยนต์ตัวใหม่นี้มีชื่อว่า “Vulcan” มีความสามารถในการประเมินแรงที่เหมาะสมในการหยิบจับและเคลื่อนย้ายสินค้าได้อย่างแม่นยำ โดยพิจารณาจากขนาด รูปร่าง และความหนาแน่นของสินค้า  แอรอน พาร์เนสส์ (Aaron Parness) ผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์ประยุกต์ของ Amazon กล่าวในแถลงการณ์เกี่ยวกับความสามารถของหุ่นยนต์ Vulcan ว่า “มันไม่ใช่แค่มองเห็น แต่มันยังสามารถรู้สึกได้ ซึ่งทำให้เกิดความสามารถใหม่ที่หุ่นยนต์ของ Amazon ยังไม่เคยทำได้มาก่อน” และเพื่อให้สามารถรับรู้การสัมผัสได้ใกล้เคียงมนุษย์ Vulcan ใช้ “ไม้แขนกลขนาดเล็ก” ที่ติดตั้งทั้งกล้องระบุสินค้าและสิ่งที่เรียกว่าถ้วยดูด (Suction cup) ยื่นเข้าไปในถังเก็บของในคลังสินค้า เพื่อเคลื่อนย้ายสิ่งของ และระบุสินค้าที่กำลังค้นหา โดยไม้นี้จะอยู่ที่ปลายของแขนกลแบบสองส่วน ซึ่งจะสามารถจับและดึงสิ่งของเข้า-ออกจากกล่องเก็บสินค้าได้ Amazon กล่าวเพิ่มว่า นอกเหนือจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานแล้ว หุ่นยนต์เหล่านี้จะช่วยลดความเครียดทางกายภาพของพนักงานในคลัง โดยจะเข้ามาลดความจำเป็นในการใช้บันได หรือการก้มตัวเพื่อหยิบสิ่งของ บริษัทยังระบุว่าการขยายการใช้งานของ Vulcan ไปยังคลังสินค้าต่าง…

หลังจากที่แคมเปญ “ไก่ไทยไปอวกาศ” ถูกโปรโมตให้เห็นกันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีความคืบหน้าอย่างเป็นทางการแล้วว่า “ไก่ CP” จะได้บินสู่สถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ร่วมกับภารกิจ Axiom Mission 4 (Ax-4) ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทอวกาศเอกชน Axiom Space ภารกิจนี้มีกำหนดปล่อยในวันที่ 9 มิถุนายน 2025 เวลา 19:45 น.ตามเวลาไทย โดยใช้ยาน Crew Dragon ของ SpaceX ที่จะพาลูกเรือเอกชน 4 คนจากสหรัฐฯ อินเดีย ฮังการี และโปแลนด์ เดินทางสู่สถานีอวกาศนานาชาติ เที่ยวบินอวกาศเอกชนคืออะไร? Axiom Mission 4 เป็นหนึ่งใน "เที่ยวบินอวกาศเอกชน" หรือ Private Astronaut Mission ที่ไม่ได้ดำเนินการโดยรัฐบาลสหรัฐฯ หรือ NASA โดยตรง แต่เป็นการเช่าใช้ระบบขนส่งอวกาศของ SpaceX (เช่น ยาน Crew Dragon…

ถ้าพูดถึงระบบนำทาง คนส่วนใหญ่ก็ต้องนึกถึง GPS แต่ลองคิดดูว่าถ้า GPS มาผสานกับเทคโนโลยีดาวเทียมนำทางอีก 4 ตัว จะแม่นยำแค่ไหน ? สายออกกำลังกายกลางแจ้งคงรู้สึกเหมือนกันว่าการมีระบบนำทางที่ดี คือหนึ่งในหัวใจสำคัญของกิจกรรม ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย และความปลอดภัย อย่างคนที่วิ่งเทรลในป่า ซึ่งหากออกนอกเส้นทางอาจทำให้เราเสี่ยงที่จะหลงได้ และ Sunflower Positioning System จะมาช่วยให้เราวิ่งหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งได้สนุก และมั่นใจมากขึ้น Sunflower Positioning System กับการนำทางที่แม่นยำระดับเซนติเมตร ที่มาในสมาร์ตวอตช์ HUAWEI Sunflower Positioning System คือสุดยอดเทคโนโลยีการนำทางจาก Huawei ที่รวมการทำงานของระบบดาวเทียมหลายกลุ่ม ทั้ง GPS (สหรัฐอเมริกา), QZSS (ญี่ปุ่น), BEIDOU (จีน), GALILEO (สหภาพยุโรป) และ GLONASS (รัสเซีย) เพื่อความแม่นยำในการระบุตำแหน่งถึงระดับเซนติเมตร แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุปสรรค เช่น ตึกสูง ภูเขา หรือป่าทึบ ด้วยการจับสัญญาณจากระบบนำทางถึง 5 ระบบ ทำให้สายออกกำลังกายกลางแจ้งมั่นใจได้เลยว่าจะไม่หลง ยิ่งไปกว่านั้น คือ HUAWEI ใส่สิ่งนี้มาในสมาร์ตวอตช์รุ่นใหม่ ๆ มากขึ้น เท่ากับว่าการออกกำลังกายแบบ…