เครื่องฟอกอากาศจำเป็นจริงไหม? เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยเมื่อกำลังตัดสินใจจะซื้อเครื่องฟอกอากาศ เพราะปัจจุบัน คุณภาพอากาศโดยเฉลี่ยของไทยอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งการเผชิญกับคุณภาพอากาศระดับนี้สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพในอนาคตได้ ยังไม่รวมถึงคนที่เป็นโรคทางเดินหายใจหรือกลุ่มเสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบที่รุนแรงกว่า

แม้ว่าเครื่องฟอกอากาศจะมีหลายราคา แต่ในยุคเศรษฐกิจที่ไม่แน่ไม่นอนแบบนี้ การตัดสินใจซื้อของสักชิ้นก็ต้องดูถึงความจำเป็นด้วย Hack for Health เลยรวบรวมประโยชน์ของเครื่องฟอกอากาศมาให้คุณได้ลองอ่านและตัดสินใจดูว่า เครื่องฟอกอากาศจำเป็นจริงไหม

กลไกของเครื่องฟอกอากาศคือการดูดอากาศเข้าไปผ่านฟิลเตอร์ (Filter) หรือแผ่นกรองที่มีเส้นใยถี่ ๆ เพื่อดักจับอนุภาคในอากาศ อย่างฝุ่นละออง สารเคมี หรือเชื้อโรค แล้วปล่อยอากาศที่ผ่านการกรองแล้วออกมา ซึ่งเป็นอากาศที่สะอาดมากขึ้น เครื่องฟอกอากาศแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อมีเทคโนโลยีการกรองและฟังก์ชันที่ต่างกัน

เครื่องฟอกอากาศจำเป็นจริงไหม?

ความจำเป็นในการใช้เครื่องฟอกอากาศนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน ซึ่ง Hack for Health อยากให้คุณหาคำตอบผ่านประโยชน์ของเครื่องฟอกอากาศด้านล่างนี้เพื่อลองเช็กว่าคุณควรจะใช้เครื่องฟอกอากาศจริง ๆ รึเปล่า

ลดฝุ่นภายในพื้นที่ของคุณ

และต่อให้คุณไม่ได้เปิดประตูหรือหน้าต่าง ฝุ่นก็สามารถเล็ดลอดมาในบ้านของคุณได้

โดยทั่วไปการสัมผัสกับฝุ่นตามบ้านมักไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายร้ายแรง แค่อาจจะทำให้คุณจาม ระคายเคืองตา หรืออาการภูมิแพ้กำเริบได้ แต่ถ้าเป็นฝุ่นละอองขนาดเล็ก อย่าง PM10 และ PM2.5 สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ทั้งระยะสั้นและยาว อย่างความเสี่ยงของโรคที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในเด็ก คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และคนที่มีโรคเรื้อรัง

หากคุณอาศัยอยู่ในเขตเมือง ใกล้ถนน ใกล้โรงงานหรือสถานประกอบการที่ทำให้เกิดฝุ่นควันกระจายในอากาศ เครื่องฟอกอากาศน่าจะจำเป็นไม่น้อย แต่ถ้าคุณใกล้ชิดธรรมชาติ ไม่ได้อยู่ใกล้แหล่งที่ทำให้เกิดฝุ่นควัน เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้อาจเป็นเพียงตัวเลือกที่คุณจะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้

ลดอาการโรคภูมิแพ้และโรคหืด

หากคุณเป็นโรคภูมิแพ้และโรคหืดหรือโรคหอบ เครื่องฟอกอากาศน่าจะจำเป็นสำหรับคุณ เพราะคนที่เป็นโรคเหล่านี้ทางเดินหายใจมักไวต่อสารก่อภูมิแพ้หรือสารกระตุ้นมากกว่าคนอื่น ทั้งฝุ่น ไรฝุ่น ขนสัตว์และรังแคสัตว์จากน้องหมาน้องแมว สารเคมี ควันบุหรี่ และเกสรดอกไม้

ในปัจจุบันเครื่องฟอกอากาศส่วนใหญ่จะใช้แผ่นกรอง HEPA ที่สามารถกรองอนุภาคที่มีขนาดใหญ่กว่า 0.3 ไมครอน โดยอนุภาคที่ลอยในอากาศจะมีขนาดตั้งแต่ 100 ไมครอนลงมา ซึ่งแผ่นกรองชนิดนี้สามารถดักจับสารก่อภูมิแพ้ที่เราได้บอกไป การใช้เครื่องฟอกอากาศจึงช่วยความเสี่ยงของอาการโรคภูมิแพ้และโรคหืดได้

ลดกลิ่นกวนใจ

นอกจากในแง่ของสุขภาพแล้ว เครื่องฟอกอากาศสามารถกรองอนุภาคที่ทำให้เกิดกลิ่นได้ด้วย หากคุณอยู่คอนโดมิเนียมต้องทำอาหารในพื้นที่จำกัดหรือเลี้ยงสัตว์เลี้ยงภายในห้อง เครื่องฟอกอากาศสามารถลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้

อาจลดการฟุ้งกระจายของเชื้อโรค

โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ อย่างโรคหวัด ไข้หวัดใหญ่ และโรคโควิด-19 สามารถติดต่อกันได้ผ่านละอองฝอยที่มีเชื้อโรค ซึ่งจากการไอ จาม หรือพูดคุยกัน

แต่เชื้อโรคส่วนใหญ่มีขนาดเล็กมาก แผ่นกรอง HEPA จึงไม่สามารถกรองเชื้อโรคได้ทั้งหมด ปัจจุบันมีแผ่นกรอง HyperHEPA ที่กรองอนุภาคที่มีขนาด 0.003 ไมครอนได้ ซึ่งอาจช่วยดักจับเชื้อโรคได้ แต่ส่วนใหญ่มีราคาสูงมาก

ที่สำคัญการใช้เครื่องฟอกอากาศไม่ใช่วิธีหลักในการป้องกันโรคติดเชื้อ หากคุณกังวลเรื่องเชื้อโรค แนะนำว่าให้ดูแลตัวเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัย ทำความสะอาดบ้าน และล้างมือบ่อย ๆ น่าจะได้ผลดีกว่า

ไม่เปลืองไฟอย่างที่คิด

อ้างอิงข้อมูลจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เครื่องฟอกอากาศใช้กำลังไฟราว 2–25 วัตต์ ตก 0.8–10 สตางค์/ 1 ชั่วโมง ซึ่งน้อยกว่าตู้เย็นและทีวี อีกทั้งคุณไม่จำเป็นต้องเปิดตลอดเวลา หากใครกำลังกังวลเรื่องค่าไฟก็หายห่วงได้ อย่างไรก็ตาม คุณจำเป็นต้องเปลี่ยนฟิลเตอร์หรือแผ่นกรองเครื่องฟอกอากาศอย่างเหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพการกรองที่ดี โดยแต่ละรุ่นมีราคาแผนกรองที่ต่างกันออกไป

หากอ่านถึงตรงนี้ คุณน่าจะพอรู้แล้วว่าเครื่องฟอกอากาศจำเป็นต่อคุณรึเปล่า แต่ถ้าคุณมีโรงทางเดินหายใจหรืออาศัยอยู่ในเขตเมือง เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้อาจเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับผลกระทบทางสุขภาพในระยะยาว และเพื่อความคุ้มค่า ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศให้ตอบโจทย์การใช้งานด้วย

ที่มา1, ที่มา2, ที่มา3

ภาพปก

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส