แดดประเทศไทยนั้นขึ้นชื่อเรื่องความร้อนและอานุภาพในการทำลายผิว ซึ่งตัวการคือก็รังสียูวี (Ultraviolet Radiation) โดยการสัมผัสกับแสงยูวีจากแดดประเทศไทยที่มีความเข้มข้นสูงเป็นประจำทำให้เกิดผิวคล้ำเสีย แพ้ง่าย และที่อันตรายคือเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งผิวหนัง แต่ถึงอย่างนั้นคนไทยจำนวนไม่น้อยก็ยังละเลยการทาครีมกันแดด

Hack for Health เลยจะมาบอกเล่า 3 เหตุผลที่ทุกคน ไม่ว่าจะผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก ผู้ใหญ่ หรือคนสูงอายุควรใช้ครีมแดดทุกวัน แม้จะอยู่บ้านก็ตาม

3 เหตุผลที่ทุกคนควรใช้ครีมกันแดดทุกวัน

แม้จะมีเพียง 3 เหตุผล แต่บอกเลยว่าเป็นสิ่งที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวันของคุณอย่างแน่นอน

เหตุผลที่ 1: ครีมกันแดดลดความเสี่ยงมะเร็งผิวหนัง

ปัจจัยสำคัญของโรงมะเร็งผิวหนังคือรังสียูวีจากแสงแดด โดยเฉพาะรังสียูวีบีที่สามารถทำลายผิวชั้นหนังกำพร้าที่อยู่นอกสุดและผิวหนังแท้ชั้นบน การสัมผัสในระยะสั้นจะทำให้ผิวของคุณคล้ำเสีย ผิวไหม้และอักเสบจากแดด ไวต่อแสง และยังเป็นรังสีที่มีความเข้มข้นสูงที่ทะลุไปถึง DNA ของเซลล์ผิวหนัง การสัมผัสกับรังสียูวีบีระยะยาวสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้หลายชนิด

ซึ่งการทาครีมกันแดดสามารถลดความเสี่ยงของโรคผิวหนังจากรังสียูวีได้เมื่อใช้อย่างถูกต้อง โดยการใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 15 เป็นประจำทุกวันช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งผิวหนังชนิดสเควมัสเซลล์ (Squamous Cell Carcinoma) ที่เป็นมะเร็งผิวหนังชนิดทั่วไปได้ 40 เปอร์เซ็นต์ และลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา (Melanoma) ที่อันตรายมากกว่าได้ 50 เปอร์เซ็นต์

แต่สำหรับแดดเมืองไทยแล้ว SPF 15 อาจเอาไม่อยู่ ซึ่ง Hack for Health จะแนะนำวิธีเลือกในหัวข้อต่อไป แต่เอาเป็นว่าการทาครีมกันแดดทุกวันลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งผิวหนังได้จริง

เหตุผลที่ 2: ครีมกันแดดชะลอการเกิดริ้วรอยและผิวแก่ก่อนวัย

ปัจจุบันการดูแลตัวเองเป็นเรื่องของทุกคนไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหนหรืออยู่ในวัยใดก็ตาม เพื่อลดภาระของกระเป๋าสตางค์ในการต้องเข้าคลินิกไปฉีดโบท็อกซ์หรือทำหัตถการที่ช่วยให้หน้าเต่งตึงดูเด็ก ครีมกันแดดเป็นตัวช่วยที่ราคาจับต้องได้และส่งผลดีในระยะยาว

รังสียูวีเอเข้มข้นน้อยที่สุด แต่มีความยาวของคลื่นแสงมากที่สุดส่งผลให้รังสีชนิดนี้ทะลุไปถึงโครงสร้างของชั้นผิว เมื่อสัมผัสเป็นประจำ ชั้นผิวของคุณจะถูกทำลาย อ่อนแอ และยืดหยุ่นน้อยลง ตามมาด้วยผิวที่หย่อนคล้อย ริ้วรอย และหน้าแก่ก่อนวัย

ภาพที่คุณเห็นด้านล่างนี้เป็นภาพจริงจาก New England Journal of Medicine ซึ่งเป็นภาพของชายวัย 69 ปีที่ทำอาชีพขับรถส่งของเป็นเวลากว่า 28 ปี โดยรังสียูวีเอที่ลอดผ่านกระจกในทุกวันได้ทำลายชั้นผิวของชายคนนี้ให้เหี่ยวย่นกว่าปกติเมื่อเทียบกับใบหน้าอีกฝั่งที่สัมผัสกับแสงยูวีน้อยกว่า

New England Journal of Medicine

เหตุผลที่ 3: อยู่ในที่ร่มก็โดนแดดได้

คนที่ไม่ได้ออกจากบ้านหรือใช้ชีวิตในที่ร่มเป็นหลักมีความเสี่ยงที่จะได้รับรังสียูวีไม่ต่างจากการออกแดด เพราะรังสียูวีสามารถลอดหรือสะท้อนผ่านหน้าต่าง ประตู และกระจกมากระทบยังผิวของคุณได้ หรือแม้แต่คุณอยู่ในที่ปิด ไม่ได้นั่งใกล้กับหน้าต่าง เพราะแสงไฟภายในอาคารบางประเภทก็มีรังสียูวีเหมือนกัน ซึ่งการทาครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวคุณได้

วิธีเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับแดดประเทศไทย

คุณได้รู้ถึงความจำเป็นของครีมกันแดดซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในประเทศไทยกันไปแล้ว หากสังเกตรอบตัว ส่วนใหญ่ผู้หญิงมักทาครีมกันแดดเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ผู้ชายจำนวนไม่น้อยไม่ทาครีมกันแดด แม้จะรู้ว่ารังสียูวีส่งผลต่อผิวได้ด้วยเหตุผลที่ว่าครีมกันแดดเหนียวเหนอะหนะหรืออาจมาจากชุดความคิดแบบเดิม ๆ ว่าผู้ชายต้องไม่ดูแลผิวอะไรแบบนั้น

ซึ่ง Hack for Health ได้เตรียมวิธีเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับแดดประเทศไทยและเหมาะสมกับทุกคนเอาไว้แล้ว

เลือก SPF และ PA ให้เหมาะสม

SPF (Sunburn Protection Factor) เป็นค่าความยาวนานในการป้องกันรังสียูวีบี มีตั้งแต่ 15/30/50 โดยช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีบีได้ยาวนาน 1/2/5 ชั่วโมงตามลำดับ ซึ่งแนะนำให้เลือก SPF 15 เมื่ออยู่ในที่ร่มและเลือก SPF 30 และ 50 เมื่อต้องออกแดด สำหรับครีมกันแดดที่เขียนว่า SPF 50+ อาจต้องระวัง เพราะหมายถึง SPF ที่สูงกว่า 50 และอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้

PA (Protection Grade of UVA) ค่าที่ใช้วัดการป้องกันรังสียูวีเอที่สร้างความหมองคล้ำและความเหี่ยวย่นให้กับผิว ซึ่งการมีเครื่องหมาย + ตามหลังก็แสดงถึงค่าการป้องกันที่สูงขึ้น และแนะนำให้เลือกที่มีเครื่องหมาย + มากที่สุด

เลือกกันแดดที่เบาสบายไม่หนักผิว

นวัตกรรมครีมกันแดดในปัจจุบันพัฒนาไปไกลมาก ครีมกันแดดบางยี่ห้อมีลักษณะเป็นเจลหรือน้ำที่ทาลงบนผิวก็แห้งซึมไปโดยใช้เวลาไม่นานและไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะไว้บนผิว เหมือนไม่ได้ทาครีมอะไรลงไป ซึ่ง Hack for Health แนะนำให้คนที่ไม่ชอบทาครีม เพราะความเหนอะหนะได้ลองใช้ครีมกันแดดรูปแบบนี้เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด นอกจากนี้ กันแดดเนื้อน้ำและเนื้อเจลมักล้างออกง่ายและไม่อุดตันรูขุมขนเมื่อเทียบกับกันแดดที่เป็นเนื้อครีมปกติ

เลือกครีมกันแดดที่ไม่มีน้ำหอมและสี

น้ำหอมและสีเป็นส่วนประกอบที่ไม่จำเป็นสำหรับครีมกันแดดและยังอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ในบางคน ส่วนแอลกอฮอล์และสารกันเสียที่คนกลัวกันนั้น จริง ๆ เป็นสิ่งที่มีอยู่ในครีมแทบทุกชนิดและส่วนใหญ่ผ่านการทดสอบความปลอดภัยมาเรียบร้อยแล้ว และตัวแอลกอฮอล์และสารกันเสียก็มีประโยชน์ในตัวของมันเอง จึงไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องกังวล ยกเว้นแต่ว่าจะเคยแพ้สารตัวใดตัวหนึ่งมาก่อน

ส่วนเรื่องกันแดดปริมาณ 2 ข้อนิ้วและการทาซ้ำช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกันแดดได้จริง แค่ในการใช้ชีวิต การทากันแดดในปริมาณดังกล่าวและการทาซ้ำระหว่างวันดูจะเป็นเรื่องที่ลำบากและอาจต้องใช้เวลาให้กันแดดซึม เอาเป็นว่าสำหรับใครที่ทำได้ก็แนะนำให้ทำ ส่วนใครที่ไม่สะดวกก็ขอให้ทาเป็นประจำทุกวันก็พอ และควรทาก่อนออกแดด 15-30 นาที

สุดท้ายนี้ ครีมกันแดดไม่สามารถป้องกันรังสียูวีได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ การพยายามอยู่ในที่ร่ม สวมหมวก เสื้อคลุม และกางร่มเมื่อต้องออกแดดจึงจำเป็นด้วยเหมือนกัน ยิ่งแดดประเทศไทยแล้ว ไม่ควรละเลยอย่างเด็ดขาด สำหรับผู้ชายบางคนที่มองว่าการทาครีมเป็นเรื่องของผู้หญิงอาจต้องทำความเข้าใจใหม่ เพราะครีมกันแดดไม่ได้ช่วยแค่เรื่องความสวยความงาม แต่เป็นเรื่องสุขภาพด้วย

ที่มา: Skin Cancer Organization, Cancer Organization, Mahidol.ac.th, Independent

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส