ในปี 2022 ที่ผ่านมายอดขายแผ่นเสียงไวนิลนั้นพุ่งทะยานสูงกว่าซีดีในสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกในรอบ 35 ปีนับตั้งแต่ปี 1987 จากรายงานของสมาคมอุตสาหกรรมแผ่นเสียงแห่งอเมริกา (Record Industry Association of America) พบว่ามีการขายแผ่นเสียงไวนิลมากกว่า 41 ล้านแผ่นในปี 2022 คิดเป็นมูลค่า 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐO (ประมาณ 40,000 ล้านบาท) ส่วนยอดขายซีดีนั้นได้เพียง 33 ล้านแผ่น คิดเป็นมูลค่า 483 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 17,000 ล้านบาท)

นอกจากนี้ในรายงานยังพบว่ารายได้จากการซื้อเพลงแบบ physical ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยมี ‘การฟื้นตัวอย่างโดดเด่น’ ในปี 2021 หลังจากหยุดชะงักไปในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2020 รายได้จากเพลงแบบ physical โดยรวมเพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อน ซึ่งมาจากยอดขายของแผ่นเสียงไวนิลที่เพิ่มขึ้น 17% ขณะที่รายได้จากซีดีลดลง 18%

อีกทั้งการซื้อเพลงแบบ physical ยังคงเพิ่มสูงขึ้นกว่าการดาวน์โหลดดิจิทัล ซึ่งรายได้ลดลงอีก 20% เหลือ 495 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากยอดดาวน์โหลดดิจิทัลที่ได้รับความนิยมสูงสุดซึ่งเคยมีถึง 43% ของรายได้จากเพลงที่บันทึกไว้ในปี 2012 ตั้งแต่นั้นมายอดดาวน์โหลดก็ลดลงเหลือเพียง 3% ในปีที่แล้ว

การกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งของแผ่นเสียงไวนิลนี้มีคำเรียกว่า ‘การคืนชีพของไวนิล’ (Vinyl revival) อันหมายถึงการฟื้นคืนความสนใจในแผ่นเสียงไวนิล ซึ่งแต่เดิมนั้นแผ่นเสียงไวนิลเคยเป็นรูปแบบเพลงที่ได้รับความนิยมมาก่อน แต่ถูกแทนที่ด้วยซีดีและรูปแบบดิจิทัลในช่วงทศวรรษที่ 1990s และ 2000s อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ไวนิลได้กลับมามียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและแซงหน้ายอดขายซีดีในบางประเทศ

การฟื้นตัวของไวนิลมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ซึ่งในบทความนี้เราจะมาสำรวจกันว่ามีปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อการกลับมาได้รับความนิยมอย่างสูงอีกครั้งของแผ่นเสียงไวนิล

คุณภาพเสียง

หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้แผ่นเสียงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องคือคุณภาพเสียง แผ่นเสียงไวนิลเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องเสียงที่อบอุ่น เข้มข้น และมีรายละเอียด ซึ่งนักเล่นออดิโอไฟล์หลายคนมองว่าเหนือกว่ารูปแบบดิจิทัล เช่น ซีดีและ MP3

คุณภาพเสียงของแผ่นเสียงส่วนใหญ่มาจากวิธีการผลิตและวิธีการเล่นแผ่นเสียง แผ่นเสียงได้รับการบันทึกเสียงแบบแอนะล็อก ซึ่งหมายความว่าคลื่นเสียงจะถูกบันทึกลงบนแผ่นไวนิลโดยตรงทำให้ไม่มีการสูญเสียข้อมูลใด ๆ ซึ่งช่วยให้ได้รับประสบการณ์การฟังที่เที่ยงตรงเต็มรูปแบบด้วยเครื่องเล่นแผ่นเสียงและเข็มที่เหมาะสม รูปแบบแอนะล็อกช่วยให้ศิลปินสามารถส่งเพลงจากเทปแม่เหล็กไปยังแผ่นเสียงโดยตรงซึ่งให้ประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับที่ศิลปินต้องการมากที่สุด สิ่งนี้แตกต่างจากการบันทึกแบบดิจิทัลซึ่งใช้การ sampling และการ quantize เพื่อแสดงคลื่นเสียงเป็นชุดค่าตัวเลข

เนื่องจากการบันทึกแผ่นเสียงเป็นแบบแอนะล็อก จึงสามารถบันทึกช่วงความถี่และไดนามิกได้กว้างกว่าการบันทึกแบบดิจิทัล สิ่งนี้ทำให้ได้เสียงที่เป็นธรรมชาติและมีไดนามิกมากขึ้นซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับแนวเพลงบางประเภท เช่น แจ๊ส บลูส์ และร็อก

นอกจากนี้แผ่นเสียงยังเล่นโดยใช้สไตลัสหรือเข็มซึ่งวิ่งไปตามร่องของแผ่นเสียงและแปลงการสั่นสะเทือนทางกายภาพเป็นคลื่นเสียง กระบวนการนี้สามารถเพิ่ม ‘สีสัน’ จำนวนหนึ่งให้กับเสียง ทำให้ได้โทนเสียงที่อบอุ่นและมีพื้นผิวที่ยากต่อการทำซ้ำในรูปแบบดิจิทัล

ในทางตรงกันข้าม รูปแบบดิจิทัล เช่น ซีดีและ MP3 ขึ้นชื่อเรื่องความชัดเจนและแม่นยำ แต่ผู้ที่รักเสียงเพลงบางคนพบว่ามีความจืดและแห้งเมื่อเทียบกับไวนิล นอกจากนี้รูปแบบดิจิทัลยังมีข้อจำกัดบางประการในแง่ของช่วงความถี่และไดนามิก ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดเสียงที่ถูกบีบอัดและเป็นเสียงที่ไม่ได้มาเต็มครบถ้วน

คุณภาพเสียงของแผ่นเสียงอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น คุณภาพของการผลิตแผ่น สภาพของแผ่นเสียง และคุณภาพของแผ่นเสียงและลำโพงที่ใช้เล่น นอกจากนี้ ผู้ฟังบางคนอาจชอบเสียงรูปแบบดิจิทัลสำหรับเพลงบางประเภทหรือสภาพแวดล้อมในการฟัง เช่น เพลงอิเล็กทรอนิกส์หรือเพลงแดนซ์ในคลับ

ถึงแม้ว่าแผ่นเสียงจะสามารถให้ประโยชน์มากมายเหนือรูปแบบดิจิทัล แต่ก็มีข้อเสียที่ควรพิจารณาด้วยเช่นกัน ข้อเสียเปรียบหลักประการหนึ่งคืออัลบั้มที่ยาวขึ้นอาจส่งผลให้มีกรู๊ฟที่บางกว่าและเสียงที่เงียบกว่า อีกทั้งความถี่เสียงย่านสูงและเสียงเบสที่หนักแน่นอาจถูกทำให้เกิดความผิดเพี้ยนและมีเสียงนอยซ์รบกวนเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ แผ่นเสียงสมัยใหม่จำนวนมากผลิตขึ้นจากต้นแบบดิจิทัล ซึ่งอาจไม่ได้ให้คุณภาพในระดับเดียวกันกับการบันทึกเสียงแบบแอนะล็อก อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเสียงที่เป็นเอกลักษณ์และเสน่ห์ของไวนิล ข้อจำกัดเหล่านี้อาจถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์

ดังนั้นความชื่นชอบในคุณภาพเสียงของแผ่นเสียงจึงเป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคล แม้ว่าแผ่นเสียงอาจไม่ใช่รูปแบบเพลงที่สะดวกหรือเข้าถึงได้มากที่สุด แต่ก็ยังคงมอบประสบการณ์การฟังที่ไม่เหมือนใครและคุ้มค่าที่แฟนเพลงหลายคนยากจะต้านทาน

การโหยหาอดีต (Nostalgia)

แผ่นเสียงไวนิลมีสถานะอันพิเศษในวัฒนธรรมสมัยนิยมและมักเกี่ยวข้องกับความรู้สึกคิดถึงและโหยหาอดีต มีเหตุผลหลายประการที่ทำให้แผ่นเสียงมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับความคิดถึงอดีต หนึ่งในเหตุผลหลักคือแผ่นเสียงเป็นรูปแบบเพลงที่โดดเด่นและได้รับความนิยมมาหลายทศวรรษ ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1950s ถึง 1980s หลายคนที่เติบโตในช่วงเวลานี้มีความทรงจำที่ชื่นชอบในการฟังแผ่นเสียง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นแผ่นเสียงในเครื่องเล่นแผ่นเสียงของพ่อแม่หรือไปที่ร้านแผ่นเสียงเพื่อซื้ออัลบั้มที่ออกใหม่

นอกจากนี้ แผ่นเสียงยังเป็นวัตถุทางกายภาพที่ผู้คนสามารถจับต้องและสัมผัสได้ ซึ่งสามารถสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงและความคิดถึง แผ่นเสียงมักมีหน้าปกที่สวยงามและได้รับการออกมาแบบเพื่อดึงดูดใจผู้ฟัง ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์การฟังได้พอ ๆ กับตัวเพลง หลายคนมีความผูกพันทางอารมณ์อย่างมากกับบางอัลบั้มหรือบางศิลปิน และเชื่อมโยงพวกเขาเข้ากับความทรงจำหรือช่วงชีวิตที่เฉพาะเจาะจง

กระบวนการเล่นแผ่นเสียงสามารถทำให้เกิดความรู้สึกคิดถึงอดีตได้เช่นกัน อย่างการวางแผ่นเสียงอย่างระมัดระวังบนเครื่องเล่นแผ่นเสียง ปรับโทนอาร์ม และค่อย ๆ ลดหัวเข็มลงบนแผ่นเสียงอาจเป็นประสบการณ์ที่เหมือนมีความเป็นพิธีการ พิธีกรรมและชวนให้หวนนึกถึงอดีตสำหรับหลาย ๆ คน ที่การเล่นแผ่นเสียงอาจมีคนในครอบครัว เพื่อนฝูงหรือคนที่รักเป็นคนสอนเราหรือร่วมฟังเพลงไปด้วยกันกับเรา

นอกจากนี้อัลบั้มที่ขายดีในแต่ละปียังสะท้อนให้เห็นว่า ผู้ฟังเลือกที่จะฟังบางอัลบั้มในรูปแบบแผ่นเสียง เนื่องจากการได้ฟังผลงานจากแผ่นต้นฉบับที่บันทึกเสียงในยุคนั้น หรืออาจจะเป็นแผ่นผลิตใหม่แต่เป็นผลงานจากยุคอดีตยังทำให้เกิดความรู้สึกว่าเสียงที่ได้ยินจากแผ่นเสียงนั้นมีความสัมพันธ์กับช่วงเวลาในอดีตที่บทเพลงเหล่านั้นได้รับการผลิตออกมา ดังนั้นการฟังจากแผ่นเสียงจึงเป็นรูปแบบที่เหมาะสมที่สุดที่จะได้สัมผัสทางเสียงที่เหมาะสมที่สุดแล้ว ดังเราจะเห็นได้จากยอดขายอัลบั้มขายดีที่มีอัลบั้มอย่าง ‘Rumours’ ของ Fleetwood Mac, ‘Thriller’ ของ Michael Jackson และ ‘Abbey Road’ ของ The Beatles ติดท็อป 10 มาต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี

ประสบการณ์อันแปลกใหม่

ในช่วงเวลาที่ความวินเทจกลายเป็นเทรนด์และคนรุ่นใหม่หันมาให้ความสนใจกันมากขึ้นไม่ว่าจะเรื่องของการแต่งตัวจากแฟชั่นในยุคอดีต การถ่ายภาพจากกล้องฟิล์ม การดูหนังฟังเพลงจากยุคอดีต ทั้งหมดทั้งมวลล้วนแล้วแต่เกิดจากการที่คนรุ่นใหม่ไม่เคยได้สัมผัสกับช่วงเวลาที่สิ่งเหล่านี้ได้ถือกำเนิดมา การได้มีโอกาสสัมผัสกับสิ่งเหล่านี้จึงได้มอบประสบการณ์อันแปลกใหม่ที่สิ่งต่าง ๆ ในยุคของพวกเขามิอาจมอบได้

การฟื้นคืนความสนใจในแผ่นเสียงไวนิลอาจมีส่วนทำให้การรับรู้ว่าแผ่นเสียงไวนิลเป็นสิ่งแปลกใหม่ด้วยเช่นกัน เนื่องจากแผ่นเสียงไวนิลได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การฟังเพลงจากแผ่นเสียงจึงกลายเป็นที่นิยมและทันสมัยมากขึ้นด้วย ความทันสมัยนี้อาจนำไปสู่การมองว่าแผ่นเสียงไวนิลเป็นความแปลกใหม่มากกว่ารูปแบบการฟังในรูปแบบอื่น ๆ โดยเฉพาะการฟังในรูปแบบดิจิทัล

จากรายงานยอดขายแผ่นเสียงทำให้เห็นว่าศิลปินที่มีผู้ติดตาม Gen Z เป็นจำนวนมาก เช่น เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift), แฮร์รี่ สไตล์ (Harry Styles), เคนดริก ลามาร์ (Kendrick Lamar) และ บิลลี ไอลิช (Billie Eillish) ครองยอดขายแผ่นเสียงสูงสุด ซึ่งสามารถเหตุส่วนหนึ่งนั้นมาจากการที่ Gen Z ซึ่งปัจจุบันมีอายุอยู่ในช่วง 13 ถึง 26 ปีไม่เคยสัมผัสกับการฟังแผ่นเสียงในช่วงยุคทองของแผ่นเสียงเลย ดังนั้นในแง่มุมหนึ่งการฟังแผ่นเสียงจึงเป็นอันประสบการณ์อันแปลกใหม่ที่น่าแสวงหาสำหรับชาว Gen Z ที่เติบโตมากับการฟังเพลงแบบดิจิทัล

นอกจากนี้การฟังเพลงจากแผ่นเสียงนั้นยังเป็นอะไรที่มากกว่าเทรนด์และความนิยม นักสะสมแผ่นเสียง Gen Z หลายคนบอกถึงเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการสะสมของพวกเขา สาเหตุหนึ่งคือการสัมผัสจับต้องได้ ซึ่งพวกเขามองว่าอัลบั้มนั้นเป็นมากกว่าดนตรี มันเกี่ยวพันทั้งหน้าปก เครดิต การออกแบบงานอาร์ตเวิร์ก รวมทั้งสีสัน กลิ่นของกระดาษ และเรื่องราวเบื้องหลังงานศิลปะชิ้นนี้ ซึ่งการซื้อแผ่นเสียงทำให้สัมผัสสิ่งเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่

เป็นของสะสม

การฟื้นตัวของความสนใจในแผ่นเสียงไวนิลทำให้มีการผลิตแผ่นเสียงไวนิลออกมามากมาย แผ่นเก่าก็ยังคงมีขายแพร่หลาย ส่วนแผ่นใหม่ ๆ ก็มีการผลิตออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการซื้อและสะสมแผ่นเสียงซึ่งมีเหตุผลหลายประการที่แผ่นเสียงได้กลายเป็นของสะสมของคนรักเสียงดนตรี

สาเหตุแรกคือความหายาก เนื่องจากแผ่นเสียงหลายอัลบั้มมีการผลิตในจำนวนจำกัดหรือมีจำหน่ายในช่วงเวลาสั้น ๆ รวมไปถึงวางจำหน่ายในบางประเทศหรือบางภูมิภาคเท่านั้น ทำให้เป็นที่ต้องการของนักสะสมอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่นอีพีอัลบั้ม ‘bloom.’ ของ INK Waruntorn ที่ออกวางขายที่ญี่ปุ่นเท่านั้น และมีจำนวนจำกัด ทำให้เพียงเวลาไม่นานแผ่นเสียงอัลบั้มนี้ก็ขายหมดเกลี้ยง ทำให้แผ่นที่ขายต่อมาอีกทอดมีราคาสูงขึ้นกว่าเท่าตัว

นอกจากนี้แผ่นเสียงยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากบางอัลบั้มมีความสัมพันธ์กับบริบทในช่วงเวลานั้น ๆ เช่น เป็นแผ่นที่เผยแพร่ในช่วงเวลาสำคัญทางวัฒนธรรมหรือการเมือง  หรือแผ่นเสียงที่ถูกแบนหรือถูกเซนเซอร์ ซึ่งในเวลาต่อมาได้กลายเป็นที่ต้องการของนักสะสมอย่างมาก

แถมคนที่มีความชื่นชอบในเสียงดนตรีอย่างจริงจังมักจะมีรสนิยมที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจง เฉพาะตัว ด้วยเพลง แนวเพลง และวงดนตรีที่สะท้อนความเป็นตัวตนของตัวเอง ดังนั้นอะไรจะดีไปกว่าการแสดงรสนิยมทางดนตรีของเราผ่านการสร้างคอลเลคชันเพลงที่มีความหมายที่สุดด้วยการสะสมแผ่นเสียงที่รักและชื่นชอบอีกทั้งยังสะท้อนความเป็นตัวตนของเราได้เป็นอย่างดี นักสะสมแผ่นเสียงจึงมักมีความเพลิดเพลินกับการคุ้ยลังแผ่นเสียงและค้นหาอัลบั้มที่มีค่าของเราเพื่อเก็บสะสมไว้ในคอลเลคชัน ดังนั้นการที่เราจะรู้จักกับใครสักคน เราอาจรู้ได้จากคอลเลคชันแผ่นเสียงที่เขามี

นอกจากปัจจัยเหล่านี้แล้ว ความนิยมในการสะสมแผ่นเสียงยังได้รับอิทธิพลจากกระแสความนิยมในชุมชนของนักสะสมอีกด้วย ตัวอย่างเช่น แผ่นบางแผ่นอาจได้รับความนิยมมากกว่าในบางช่วงเวลา หรือบางแผ่นที่เคยถือว่าหายากหรือมีค่าอาจสูญเสียความนิยมได้เมื่อมีการผลิตรอบใหม่อีกครั้ง

การแพร่ระบาดของโควิด-19

การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมดนตรี การปิดสถานที่และการยกเลิกการแสดงสดทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป สิ่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงการระบาดใหญ่คือแผ่นเสียงไวนิล

หนึ่งในผลกระทบของการแพร่ระบาดที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไวนิลคือการเพิ่มยอดขายทางออนไลน์ เนื่องจากร้านแผ่นเสียงหลายแห่งปิดทำการหรือมีการเปิดในช่วงเวลาที่ลดลงเนื่องจากการแพร่ระบาด ผู้คนจำนวนมากจึงหันไปหาร้านค้าปลีกออนไลน์เพื่อซื้อแผ่นเสียงไวนิล ยอดขายแผ่นเสียงออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่เกิดโรคระบาด

ปัจจัยอีกประการหนึ่งที่ทำให้แผ่นเสียงได้รับความนิยมในช่วงที่มีโรคระบาดคือเวลาที่ผู้คนใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้น ด้วยมาตรการล็อกดาวน์และการกักตัวอยู่บ้าน หลายคนหันมาใช้ดนตรีเพื่อผ่อนคลาย สลายความเบื่อและสร้างความบันเทิง แผ่นเสียงได้มอบประสบการณ์การฟังที่สัมผัสได้และดื่มด่ำ ซึ่งมอบความดึงดูดใจเป็นพิเศษในช่วงเวลาแห่งความเครียดและความไม่แน่นอน

นอกจากนี้การระบาดใหญ่ยังทำให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคเปลี่ยนไปจากการเดินทาง การรับประทานอาหารนอกบ้าน และกิจกรรมยามว่างอื่น ๆ ไปสู่ความบันเทิงภายในบ้าน แผ่นเสียงได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ เนื่องจากผู้คนมองหาวิธีที่จะเพลิดเพลินกับเสียงเพลงและความบันเทิงในรูปแบบอื่น ๆ ที่บ้าน

การฟื้นตัวของยอดขายแผ่นเสียงมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย รวมถึงความคิดถึงอดีต คุณภาพเสียงที่เหนือกว่า ความสามารถในการสะสม และความต้องการสื่อที่จับต้องได้ในโลกดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่บางคนตั้งคำถามถึงความยั่งยืนของการฟื้นคืนความนิยมในแผ่นเสียงไวนิล แต่ก็มีเหตุผลที่เชื่อได้ว่าแนวโน้มดังกล่าวอาจดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง ด้วยยอดขายแผ่นเสียงที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเรื่องน่าสนใจที่จะได้เห็นว่าอุตสาหกรรมเพลงมีวิวัฒนาการและปรับตัวอย่างไรเพื่อตอบสนองความต้องการและความชอบที่เปลี่ยนแปลงไปของแฟนเพลงทั่วโลก

ที่มา

bbc / forbes / weraveyou / independent / vinylmeplease / oregonlive

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส