เป็นที่คลุมเครืออยู่นานว่าตัวละคร Baron Mordo ครูพี่เลี้ยงของ Doctor Strange ในหนังภาคแรก ที่ถูกหลอกจาก Ancient One จนหันหน้าสู่ด้านมืดจะกลับมาเป็นตัวร้ายในภาค 2 หรือไม่ หลังจากที่ End Credit ภาคแรกทิ้งท้ายไว้ว่าจะเป็นแบบนั้น ล่าสุดนักแสดงนำอย่าง Chiwetel Ejiofor ก็ได้ออกมายืนยันตอนที่สื่อ Screenrant สัมภาษณ์ว่า เขาจะกลับมารับบทเดิมใน Doctor Strange in the Multiverse of Madness ที่จะออกฉายในปี 2022 แม้ว่าตอนนี้ Marvel Studios จะยังไม่สามารถกลับมาถ่ายทำหนังเรื่องไหน ๆ ในเฟส 4 ได้เลยเพราะการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

เดิมทีหนังมีกำหนดฉาย 2021 ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงผู้กำกับจาก Scott Derrickson จากภาคแรกที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าหนังจะมีความสยองขวัญและน่ากลัวอย่างหนักหน่วง ก่อนที่ Kevin Fiege จะออกมาแก้ลำว่า หนังจะมีส่วนผสมของความสยอง แต่ก็ยังเป็นหนังฮีโรที่ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น ต่อมา Derrickson ก็ได้ถอนตัวออกจากโพรเจกต์ไปเพราะ “ความคิดสร้างสรรค์ไม่ตรงกัน” ก่อนที่หนังจะได้ Sam Raimi ผู้กำกับที่เคยทำหนังสยองขวัญมาแล้วมากมาย ทั้ง The Evil Dead (1981) และ Drag me to Hell (2009) รวมทั้งหนังซูเปอร์ฮีโรเบิกทางให้ตัวการ์ตูนมาร์เวลอย่าง Spider-Man ไตรภาคแรก (2002-2007)

ความสำคัญของ Doctor Strange ก็คือการเปิดมิติ Multiverse ที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ามิติควอนตัมที่ถูกบอกเล่าใน Ant-Man มีการตั้งทฤษฎีในหมู่แฟน ๆ กันเอาไว้ว่า Multiverse อาจจะเชื่อมโยงและอธิบายถึงโลกคู่ขนานของ Loki ในซีรีส์ Loki หลังจากตัวละครนี้ตายจากไทม์ไลน์หลัก แต่ไทม์ไลน์ที่เหล่าKevin Fiegeย้อนเวลาไปแก้ไขอดีต เขากลับรอดไปได้พร้อมเทสเซอร์แรกต์หนึ่งในอัญมณีอินฟินิตี้

นอกจากนั้นก็ยังอาจจะเกี่ยวข้องกับมิติที่จะเป็นเรื่องของ Wanda หรือ Scarlet Witch ในซีรีส์ WandVision เพราะเรื่องราวของ Wanda ในซีรีส์นั้นจะต่อมายัง Doctor Strange in the Multiverse of Madness โดยตรง แต่สิ่งที่อาจยังไม่เชื่อมโยงกันตอนนี้ก็คือ เรื่องราวใน The Eternals หนังรวมฮีโรพลังเทพเจ้าที่น่าจะมีขอบเขตของเรื่องราวกว้างขวางกว่ามิติเวลาของ Multiverse ซึ่งก็ต้องมาติดตามการผสานจิ๊กซอว์แต่ละชิ้นจากหนังในเฟส 4 กันต่อไป

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส