บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ EV ด้วยสถิติการจอง 1,598 คัน ภายใน 8 ชั่วโมง กับ NEW MG4 ELECTRIC รถแฮตช์แบ็กพลังงานไฟฟ้า 100% ที่มาพร้อมคอมเซ็ปต์ “ICON” นิยามของการเป็น “ต้นแบบ” และมาตรฐานใหม่ของรถ EV ที่ขับสนุก โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหลัง บนพื้นฐานที่สร้างมาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ

MG4 ELECTRIC เป็นโมเดลแรกที่พัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM ที่ถูกออกแบบมาสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะ มีความยืดหยุ่นในการนำไปปรับใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าได้หลายเซกเมนต์ ไปจนถึงความสามารถในการรองรับแบตเตอรี่ ได้หลากหลายความจุ ที่นอกจากยกระดับการปกป้องแบตเตอรี่แล้ว พื้นที่ภายในห้องโดยสารยังกว้างขวางมากขึ้นด้วย ซึ่ง NEW MG4 ELECTRIC ถือเป็นรถไฟฟ้ารุ่นแรกที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ ไปจนถึงรูปลักษณ์ภายที่นอกที่ค่อนข้างโฉบเฉี่ยว ไร้ช่องลม ให้ความรู้สึกเหมือนรถสปอร์ตเลย

MG4 EV
แพลตฟอร์ม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM

สเปกของ MG4 Electric รุ่นประกอบไทย มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือรุ่น D กับรุ่น X ให้กำลังไฟฟ้าสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 51 kWh จัดเรียงเซลล์แบบแนวนอนและระบายความร้อนด้วยระบบ Liquid Cooling system สามารถขับขี่ระยะทางสูงสุด 425 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) รองรับการชาร์จไฟกระแสตรง DC สูงสุด 88 kW จาก 10% – 80% ในเวลาเพียง 35 นาที

มีระบบช่วยชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ในขณะชะลอรถหรือระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 4 ระดับ ได้แก่ ระดับต่ำ กลาง สูง และแบบแปรผันตามการขับขี่ (ADAPTIVE) เพื่อให้เข้ากับการขับขี่ในทุกรูปแบบ

ภายในห้องโดยสารของ MG4 Electric มาพร้อมหน้าจอหลักบริเวณคอนโซลกลาง รองรับการสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว และหน้าจอแสดงผลการขับขี่ขนาด 7 นิ้วหลังพวงมาลัย ทำงานคู่กับระบบเชื่อมต่อ MG iSMART ปรับปรุงหน้าจอใหม่ ดูสวยกว่าเดิม รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ด้านล่างมาพร้อมแท่นวางชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย เบาะที่นั่งด้านหลังนั่งไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ และไม่มีช่องปรับอากาศมาให้ที่นั่งแถวหลังด้วย

หลังการทดสอบโดยหนุ่ย พงส์สุข เล่าว่า “ฟิลลิ่งเหมือนกับรถสปอร์ตชัด ๆ ในราคาที่ทุกคนจับต้องได้ ให้การขับขี่ที่ปราดเปรียว เนื่องจากการเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ทำให้ตัวรถพุ่งทะยานมาก ๆ เหมาะมากกับสองเรา เพราะคนนั่งหน้าขับสนุก แต่คนนั่งหลังอาจจะนั่งไม่สบายเท่าไหร่ (MG ไม่เคยทำให้คนนั่งตอนหลังนั่งสบายอยู่แล้ว) แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่ต่ำกว่าแบรนด์อื่น ๆ ทั้งนี้ตัวรถยังดูเล็กกว่า MG ZS EV คันแรกของผมนะ”

NEW MG4 ELECTRIC ประกอบด้วย 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น D และรุ่น X โดยมีสีตัวถังให้เลือกถึง 5 สี คือ สีฟ้า (Brighton Blue) สีดำ (Black Knight) สีแดง (Scarlet Red) สีเทา (Andes Grey) และสีขาว (Arctic White)  ตกแต่งภายในด้วยสีดำ (Black) ในรุ่น D และสไตล์ทูโทนเทา-ดำ (Grey & Black) ในรุ่น X

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส