แบไต๋บุก Auto Shanghai 2023 หรืองานมอเตอร์โชว์ขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่ติดระดับ 1 ใน 5 งานจัดแสดงรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หากใครนึกภาพไม่ออกต้องบอกว่าใหญ่กว่ามอเตอร์โชว์ของเรา 10 เท่าก็ว่าได้ เพราะเขาจัดเต็ม 8 ฮอลล์ 2 ชั้น เดินกันขาลากเลยครับ ทีมงานเราเก็บภาพรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าสนใจในงานนี้มาฝาก คันไหนเตะตา คันไหนเข้าไทย ไปชมกันเลย
Ora
Ora แบรนด์เจ้าเหมียวไฟฟ้าที่ทำให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าบ้านเราคึกคักอย่างปฏิเสธไม่ได้ งานนี้เปิดตัว Ora Lightning Cat หรือ Ora Grand Cat ที่เคยโชว์ตัวในบ้านเรามาแล้วนี่เอง Ora Grand Cat เป็นซีดานไฟฟ้าขนาดใหญ่ขึ้นกว่า Ora Good Cat ขับขี่สูงสุด 705 กม. พร้อมกำลังสูงสุด 420 แรงม้า แรงบิด 680 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.3 วินาที เหลือแต่รอลุ้นราคาว่าจะเปิดตัวที่เท่าไหร่
BYD
BYD หลังจากประเดิมตลาดในไทยและทำยอดขายจาก Atto 3 อย่างถล่มทลาย จึงมีแผนนำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ เข้ามาทำตลาดในไทยต่อไป พร้อมตั้งโรงงานผลิตจริงจังในไทยแล้วด้วย ในงานนี้ก็มี BYD Seagull น้องเล็กพลังงานไฟฟ้า ที่ใช้แบตโซเดียมไอออนรุ่นใหม่เป็นรุ่นแรก หรือที่เรียกกันว่าแบตเกลือ บนแพลตฟอร์ม e-platform 3.0 เช่นเดียวกับ Atto 3 และ Dolphin ทำให้มีราคาถูกลง เปิดราคาในจีนเริ่มต้น 395,000 บาท มีให้เลือก 3 รุ่น แบตเตอรี่ 30.08 kWh และ 38.88 kWh ขับขี่สูงสุด 305 – 405 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
ถือว่าเป็นการรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กเต็มตัวหลังจากได้เปิดตัว BYD Dolphin ออกมาก่อนหน้านี้ และเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ใช้ เพราะในเวลานี้รถไฟฟ้าขนาดเล็กในตลาดของไทยยังมีตัวเลือกน้อยอยู่ คงต้องมาลุ้นกันว่าราคาเข้าไทยจะเพิ่มไปมากน้อยแค่ไหน
Yangwang
อีกหนึ่งค่ายที่ได้รับความสนใจอย่างมากในงาน Auto Shanghai 2023 คือ Yangwang แบรนด์ระดับไฮเอนด์ภายใต้ BYD ซึ่งในงานนี้ได้เปิดตัวซูเปอร์คาร์ไฟฟ้า Yangwang U9 มอเตอร์ 4 ตัว ให้กำลังสูงสุด 1,100 แรงม้า มีอัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. เพียง 2 วินาที พร้อมระยะขับขี่สูงสุด 700 กม. แต่ไฮไลต์จริง ๆ คือระบบช่วงล่าง ที่ทำให้รถเต้นได้ กระโดดได้และขับเพียง 3 ล้อได้ด้วย ราคาเปิดตัวในจีนประมาณ 5 ล้านกว่าบาท คันนี้ไม่มีแผนจะทำตลาดในไทย
Lotus
หลายคนคุ้นเคยกับ Lotus ในฐานะแบรนด์รถซูเปอร์คาร์ในอดีต แต่ปัจจุบัน Lotus พยายามผลักดันรถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเปอร์คาร์ของตัวเองไม่น้อย ในงานนี้ก็ได้นำรถยนต์ไฟฟ้ามาโชว์ตัว 2 รุ่นด้วยกันคือ Lotus Evija ไฮเปอร์คาร์พลังงานไฟฟ้าสัญชาติอังกฤษคันแรกของโลก ที่มาพร้อมมอเตอร์ 4 ตัว กำลังแรงสูงถึง 2,000 แรงม้า แรงบิด 1,704 นิวตันเมตร มีอัตราเร่ง 0 – 300 กม./ชม. ภายใน 9.1 วินาที ขับขี่ได้สูงสุด 346 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ราคาเปิดตัวในจีนประมาณ 70 ล้านบาท
รวมถึง SUV ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกของโลกอย่าง Lotus Eletre ขับขี่ระยะทางสูงสุด 600 กม. ข่าวดีคือคนไทยจะมีโอกาสได้สัมผัสกับไฮเปอร์คาร์ SUV คันนี้ด้วย เพราะ Lotus ประเทศไทยจะนำ Eletre เข้ามาทำตลาดในไทยด้วย
Smart
Smart แบรนด์รถยนต์เยอรมันที่อยู่ในเครือ Geely หนึ่งในยักษ์ใหญ่ของผู้ผลิตรถสัญชาติจีน Geely เตรียมนำแบรนด์ Smart เข้ามาทำตลาดในไทยปีนี้ร่วมกับแบรนด์ Proton ที่เพิ่งจะรวบเข้ามาอยู่ในเครือ ซึ่งวางตำแหน่งให้ Smart เป็นรถพรีเมียมทำให้ราคาอาจจะไม่ใช่ระดับเดียวกับรถ EV จีนค่ายอื่น ๆ
หนึ่งในรุ่นที่ได้รับความสนใจคือ Smart #1 รถยนต์ไฟฟ้าครอสเอสยูวี มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น BRABUS ขับขี่สูงสุด 400 กม. รุ่น Pro+ ขับขี่สูงสุด 420 กม. และรุ่น Premium ขับขี่สูงสุด 440 กม.
Zeekr
Zeekr อยู่ภายใต้แบรนด์ Geely กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ของจีนเช่นเดียวกับ Smart มาพร้อมดีไซน์เรียบหรูสไตล์สแกนดิเนเวียน เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ออกแบบมาทำการตลาดฝั่งตะวันตกและเป็นสาเหตุให้ Tesla ต้องลดราคาลง เพราะตัวรถให้สเปกจัดเต็มในราคาประหยัด
รุ่นไฮไลต์ในงานนี้คือ Zeekr X มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พละกำลังสูงสุด 422 แรงม้า แรงบิด 543 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ภายในเวลา 3.7 วินาที ขับขี่สูงสุด 560 กม.ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง ราคาเริ่มต้นในจีนเพียง 189,800 หยวนหรือประมาณ 946,000 บาทเท่านั้น
POLESTAR
แบรนด์สัญชาติสวีเดนในเครือของ Geely ที่เน้นทำตลาดยุโรป โดดเด่นด้วยงานดีไซน์เรียบหรู เปิดตัวรถรุ่นใหม่ Polestar 4 รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์เอสยูวีคูเป้ ที่หลายคนตื่นตาตื่นใจเพราะตัวรถไม่มีกระจกหลัง โดยใช้กล้องมองภาพดิจิทัลแทน ซึ่งน่าจะตอบโจทย์การใช้งานในบ้านเรา ที่มักจะเจอรถเปิดไฟสูงใส่เป็นประจำ
Polestar 4 สร้างบนแพลตฟอร์มไฟฟ้าและใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหลายส่วนมาประกอบรถยนต์ ทั้งพรม เบาะนั่งหรือแผงประตู มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 102 kWh ขับขี่สูงสุด 560 – 600 กม. ราคาเปิดตัวในจีนประมาณ 2.06 ล้านบาท ทั้งนี้ Polestar ยังไม่มีแผนทำการตลาดในประเทศไทย
NETA
แบรนด์ Neta จากประเทศจีนเข้ามาทำการตลาดในไทยหลายรุ่นแล้ว ทั้งรถครอสเอสยูวีไฟฟ้า รวมถึงสปอร์ต 2 ประตูอย่าง Neta S ด้วย ล่าสุดในงาน Auto Shanghai 2023 ได้เปิดตัวสปอร์ตคูเป้ไฟฟ้า 2 ประตูคันใหม่อย่าง Neta GT ซึ่งเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่งานนี้ด้วย มีให้เลือกทั้งรุ่นขับหลังและขับ 4 ล้อ ขับขี่สูงสุด 660 km ในราคาเริ่มต้นในจีนประมาณ 890,000 บาท
TOYOTA
ทางฝั่ง Toyota ก็มีรถยนต์ไฟฟ้ามาเปิดตัวในงานนี้ด้วย ทั้งรถที่ผลิตขายจริงและรถคอนเซ็ปต์ต่าง ๆ เช่น รถ FCEV พลังงานไฮโดรเจนอย่าง Toyota Mirai หรือรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นความร่วมมือระหว่าง Toyota และ BYD ภายใต้บริษัท BYD Toyota EV Technology (BTET) อย่าง bZ Sport Crossover Concept และ bZ FlexSpace Concept ที่เอามาโชว์ก่อนผลิตขายจริงในปี 2024
รวมถึง Toyota bZ3 ที่เป็นความร่วมมือกับ BYD เช่นกัน สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม e-TNGA เช่นเดียวกับ bZ4X และใช้แบตเตอรี่ LFP Blade จาก BYD ขนาด 65.28 kWh ขับขี่สูงสุด 616 กม. รองรับการชาร์จจาก 30 – 80% เพียง 27 นาที
NIO
NIO ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนที่กำลังมาแรง หลังจากเข้าซื้อหุ้นเหมืองลิเธียมในออสเตรเลีย เพื่อลดต้นทุนวัตถุดิบช่วงปลายปี 2022 ปีนี้ก็ขนขบวนรถยนต์ไฟฟ้ามาเปิดตัวในงานเพียบ แต่ไฮไลต์อยู่ที่ NIO ET7 ซีดานไฟฟ้าคันนี้ รวมถึง ES6 รุ่นใหม่ด้วย
NIO ET7 ถือเป็นรถซีดานรุ่นเรือธงของแบรนด์ มีขนาดใหญ่กว่าคู่แข่งอย่าง Tesla Model S ในทุกมิติ มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย แบตเตอรี่ขนาด 75 kWh และ 100 kWh ขับขี่สูงสุด 530 – 675 กม. หรือใช้แพ็กเกจสลับแบตที่สถานีเพียง 3 นาทีเท่านั้น หรือจะซื้อรถแบบไม่รวมแบตก็ยิ่งมีราคาถูกลงไปอีก นอกจากตัวรถแล้ว NIO ยังเปิดตัวแบตเตอรี่ Solid State รุ่นใหม่ขนาด 150 kWh ขับขี่ระยะทางสูงสุด 1,000 กม. เลยทีเดียว
AION
บริษัท กว่างโจว ออโตโมบิล กรุ๊ป จำกัด หรือ GAC เป็นผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนเจ้าใหญ่อีกรายที่มีรถในเครือหลากหลายแบรนด์ เช่น Aion, Trumpchi รวมถึงจับมือพัฒนารถยนต์ร่วมกับ Toyota และ Honda ซึ่งหลังจากเปิดตัวซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าอย่าง Hyper SSR ขุมพลัง 1,225 แรงม้า ไปเมื่อปลายปี 2021 ล่าสุดก็ได้เปิดตัว Hyper GT สปอร์ตคูเป้ไฟฟ้าเป็นรุ่นที่ 2 ของแบรนด์ ที่มีค่าสัมประสิทธิ์ต้านลมเพียง 0.19 cd ถือว่าต่ำที่สุดในโลกก็ว่าได้ ต่ำกว่า Mercedes-EQS ที่ทำไว้ 0.20 cd ด้วย
สำหรับ GAC Aion Hyper GT จะมีให้เลือกหลายรุ่นย่อยตามชุดแบตเตอรี่ ได้แก่ แบตเตอรี่ลิเธียม Ternary ขนาด 59.9 kWh และ 80.1 kWh หรือแบตเตอรี่ LFP ขนาด 70.1 kW อีกทั้งยังมีแพ็กเกจสลับแบตให้ด้วย ราคาเปิดตัวในจีนเริ่มต้นที่ 1.1 ล้านบาทเท่านั้น
Mercedes-Benz
ค่ายเยอรมันก็มีไฮไลต์รถยนต์ไฟฟ้าในงานเช่นกันกับ Mercedes-Maybach EQS SUVใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ EQS ที่สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มไฟฟ้า แต่เสริมความหรูหราลักชัวรีสไตล์ Maybach เข้าไป ให้กำลังสูงสุด 658 แรงม้า พร้อมอัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 4.4 วินาที ขับขี่สูงสุดกว่า 600 กม. ปัจจุบันยังไม่เปิดราคา แต่มีโอกาสเข้าไทยอยู่นะ
IM Motor
IM Airo รถยนต์ไฟฟ้าจากค่าย IM Motor บริษัทร่วมระหว่าง SAIC Motor ผู้ผลิตรถยักษ์ใหญ่ของจีนและ Alibaba Group ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของจีน ที่ร่วมกันเปิดตัวรถยนต์ฟอกอากาศเคลื่อนที่ มาพร้อมจอพับได้ ให้บรรยากาศโรงภาพยนตร์ขนาดย่อม ๆ พร้อมเบาะนั่งโซฟาปรับเอนนอนได้ หลังคาพาโนรามิกซันรูฟและประตูเลื่อนไฟฟ้า ประดุจห้องนั่งเล่นส่วนตัวเคลื่อนที่ได้ มีแผนการวางขายในจีนช่วงปลายปีนี้
HIPHI
บริษัทสตาร์ตอัปและผู้ผลิตรถยนต์ภายใต้บริษัท Human Horizons มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ HiPhi Y ที่มีดีไซน์ประตูหน้าเปิดปกติ แต่ประตูหลังดันเปิดขึ้นแบบปีกนก เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่งานนี้เลย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีการเปิดตัวรุ่น X ในรูปแบบ SUV และรุ่น Z สไตล์รถสปอร์ต
HiPhi Y มาในสไตล์ครอสเอสยูวีที่มีขนาดเล็กกว่ารุ่น X มีให้เลือก 2 รุ่น ตามขนาดแบตเตอรี่ 76.6 kWh และ 115 kWh รวมถึงระบบขับเคลื่อนแบบขับล้อหลังหรือขับเคลื่อน 4 ล้อ ขับขี่สูงสุด 560 – 810 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
GAC
อีกหนึ่งผลงานของ บริษัท กว่างโจว ออโตโมบิล กรุ๊ป จำกัด หรือ GAC คือรถต้นแบบอย่าง Space Concept รถ MPV FCEV หรือรถพลังงานไฮโดรเจนต้นแบบ ภายในมีโซฟาและโต๊ะน้ำชาส่วนตัว เบาะที่นั่งหมุนได้ 360 องศา แผงคอนโซลแบบทัชสกรีนเต็มแผ่น ประตูเปิดข้างแบบปีกนก ท้ายรถสามารถเปิดออกมาเป็นโซฟานั่งเล่นได้ด้วย
MAXUS
Maxus บริษัทผลิตรถยนต์เชิงพาณิชย์ในเครือของ SAIC Motor ผู้ผลิตรถยนต์เจ้าใหญ่ของจีน ที่บ้านเราได้ประเดิมตลาดด้วย Maxus 9 รถตู้ MPV ไฟฟ้าในงาน Motor Show 2023 ที่ผ่านมา แต่ที่จีนนี้ได้เปิดตัวรถกระบะไฟฟ้าต้นแบบ Maxus GST ที่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว กำลังแรงถึง 1,000 แรงม้า ด้วยแรงบิดมหาศาลกว่า 14,000 นิวตันเมตร มีอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. เพียง 3 วินาที ขับขี่สูงสุด 1,000 กม. เลยทีเดียว เพียงแต่ยังเป็นรถต้นแบบอยู่เท่านั้น หากผลิตขายจริงได้คงพลิกวงการกระบะในบ้านเราเลยล่ะครับ
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความยิ่งใหญ่จากประเทศจีน ที่ทำให้เห็นว่าจีนเอาจริงเอาจังกับเรื่องพลังงานใหม่อย่างไร และทำให้จีนกลายเป็นผู้นำทางด้านยานยนต์ไฟฟ้าในเวลาไม่กี่สิบปี ซึ่งเราคงต้องติดตามกันต่อไปว่าก้าวต่อไปของมหาอำนาจจะหันไปทางทิศไหน จะยังคงพัฒนาแบตเตอรี่ไฟฟ้ารูปแบบใหม่ ๆ หรือหันไปหาพลังงานไฮโดรเจน คงจะน่าตื่นเต้นมิใช่น้อยเลยครับ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส