บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการไบเกอร์สายคลาสสิกอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition มอเตอร์ไซค์ทัวริ่งครูสเซอร์ ที่ผสมผสานประวัติศาสตร์ที่โดดเด่นของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เข้าไว้กับเทคโนโลยีล้ำสมัยในยุคปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

พร้อมด้วยเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยผลิตโดยบีเอ็มดับเบิลยู จึงสามารถมอบประสบการณ์ในการขับขี่ที่เพียบพร้อมทั้งในด้านสมรรถนะและสุนทรียภาพ ในดีไซน์ที่หลอมรวมกลิ่นอายแบบย้อนยุคและร่วมสมัยไว้ในสไตล์ที่เปี่ยมด้วยความเรียบง่าย แต่โดดเด่นด้วยจิตวิญญาณแห่งความคลาสสิกในดวงใจของเหล่าไบเกอร์

มร. มิเกล ญาเบรส-โปห์ล ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และผู้นำเข้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ตั้งแต่ที่เราได้เปิดตัวคอนเซ็ปต์ของ R 18 ไปในปี 2562 เราได้รับเสียงตอบรับที่น่าประทับใจจากแฟน ๆ ทั่วโลก ซึ่งเราได้ถ่ายทอดประวัติศาสตร์และเรื่องราวที่ยาวนานหลายทศวรรษของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดออกมาเป็นดีไซน์สุดคลาสสิกของบีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition ที่พร้อมจุดประกายทุกจินตนาการให้แฟน ๆ ได้สร้างความสนุกสนานในแบบฉบับของตนเอง ความโดดเด่นของบีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition ใหม่นี้ ยังอยู่ที่ดีไซน์แบบเปลือยที่สะดุดตาด้วยรูปโฉมบีเอ็มดับเบิลยูถึงแก่นแท้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ขนาดใหญ่ และถังน้ำมันทรงหยดน้ำอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้เป็นการผสมผสานความเรียบง่ายและแก่นแท้ของความคลาสสิกให้เข้ากับเทคโนโลยีล้ำยุคอย่างลงตัว เราตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะได้แนะนำอีกหนึ่งมอเตอร์ไซค์รุ่นตำนานนี้ให้แก่แฟน ๆ ชาวไทย ซึ่งเราเชื่อว่าบีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition ใหม่นี้จะเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่สร้างบรรทัดฐานใหม่ให้แก่เซกเมนต์ครูสเซอร์ได้อย่างแน่นอน” 

บีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition ใหม่ โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ที่สื่อถึงแก่นแท้ของมอเตอร์ไซค์ในแบบดั้งเดิม การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์ต้นกำเนิดของแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด จึงมอบกลิ่นอายความคลาสสิกได้อย่างถึงอารมณ์ด้วยชิ้นส่วนแฮนด์เมดต่าง ๆ ที่ล้วนตอกย้ำถึงความเรียบง่ายที่ยังคงตอบโจทย์การใช้งานในทุกองค์ประกอบ สัดส่วนที่ลงตัวของบีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition ยังได้รับแรงบันดาลใจจากมอเตอร์ไซค์คลาสสิกรุ่นพี่อย่างบีเอ็มดับเบิลยู R 5 ถ่ายทอดออกมาเป็นเอกลักษณ์ความงามที่ก้าวข้ามกาลเวลาด้วยดีไซน์เปลือยสะกดสายตา

หัวใจหลักของบีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition ใหม่ คือเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2 สูบขนาดใหญ่ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ให้ทรงพลังทั้งในด้านดีไซน์และประสิทธิภาพ โดยเป็นการยกระดับต่อจากเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศแบบดั้งเดิมที่บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดเริ่มผลิตขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2466 โดยเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2 สูบรุ่นใหม่นี้ ทรงพลังที่สุดในบรรดาเครื่องยนต์ประเภทเดียวกันที่บีเอ็มดับเบิลยูเคยผลิตออกจำหน่าย มาพร้อมความจุ 1,802 ซีซี ส่งพละกำลังสูงสุด 67 กิโลวัตต์ (91 แรงม้า) ที่ 4,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 158 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบต่อนาที และส่งแรงบิดมากกว่า 150 นิวตันเมตรตลอดในระหว่าง 2,000 ถึง 4,000 รอบต่อนาที พร้อมสร้างเสียงเครื่องยนต์กระหึ่มเร้าใจ ในขณะที่ระบบขับเคลื่อนมาในโครงสร้างเหล็กกล้าสองชั้นอันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู และยังโดดเด่นด้วยมาตรฐานการผลิตคุณภาพสูงและความประณีตในรายละเอียดต่าง ๆ เช่น การเชื่อมข้อต่อระหว่างโครงสร้างเหล็กและการขึ้นรูปชิ้นส่วนเหล็กหล่อต่าง ๆ นอกจากนี้ สวิงอาร์มหลังยังได้รับแรงบันดาลใจจากบีเอ็มดับเบิลยู R 5 ยึดต่อกับเพลาหลังด้วยข้อต่อสลักเกลียวแบบดั้งเดิม

ระบบช่วงล่างของบีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition ยังคงความคลาสสิกด้วยการใช้ช่วงล่างแบบเทเลสโคปิกแทนการควบคุมด้วยไฟฟ้า โดยมีคานรับน้ำหนักกลางที่สามารถปรับตั้งค่าความหนืดและการยุบตัวของสปริงได้ เพื่อการควบคุมที่เฉียบคมและนุ่มสบาย แกนโช้คหน้ามีเส้นผ่าศูนย์กลาง 49 มิลลิเมตร ระยะยุบตัวโช้คหน้า 120 มิลลิเมตร และระยะยุบตัวโช้คหลัง 90 มิลลิเมตร ระบบเบรกของบีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition มาพร้อมดิสก์เบรกคู่ที่ล้อหน้า ดิสก์เบรกเดี่ยวที่ล้อหลัง และคาลิปเปอร์เบรกแบบตายตัว 4 ลูกสูบ พร้อมล้อซี่ลวดที่เสริมลุคให้สะดุดตายิ่งขึ้น

บีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition ยังพิเศษด้วยโหมดการขับขี่ที่เหนือระดับกว่ารุ่นอื่น ๆ ในเซกเมนต์เดียวกัน มาพร้อม 3 โหมด ได้แก่ “Rain”, “Roll” และ “Rock” ให้เลือกปรับตามความชอบเฉพาะตัว พกพาเทคโนโลยีด้านการขับขี่ที่ครบครันมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นการเสริมความปลอดภัยด้วยฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิงพร้อมระบบล๊อก ระบบควบคุมการทรงตัวแบบอัตโนมัติ (ASC) ระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR) จากการชะลอตัวหรือลดเกียร์ ระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน (Hill Start Control) ระบบเกียร์ถอยหลัง (Reverse Gear) ระบบสัญญาณกันขโมย ระบบป้องกันรถกระชาก (Anti-hopping Clutch) และระบบ Dynamic Brake Control หรือ DBC ที่ช่วยให้เบรคหลังทำงานได้ดียิ่งขึ้น เสริมความล้ำสมัยด้วยระบบสตาร์ทแบบไร้กุญแจ (Keyless Ride)

ดีไซน์ของบีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition ที่เป็นการนำเอาเอกลักษณ์ความคลาสสิกมาผสานเข้ากับดีไซน์แบบร่วมสมัยนั้น สืบทอดรายละเอียดต่าง ๆ จากบีเอ็มดับเบิลยู R 5 ที่ได้สร้างตำนานไว้ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2479 ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างเหล็กกล้าสองชั้น ถังน้ำมันทรงหยดน้ำ เพลาแบบเปิดเปลือย พร้อมเสริมลูกเล่นดีไซน์ด้วยการทำสีแบบลายเส้นบนตัวถัง ส่วนโครงสร้างเฟรมและถังน้ำมันสร้างเส้นสายที่เชื่อมต่อกันตั้งแต่หน้ารถไปจนถึงซุ้มล้อหลัง สร้างความสง่างามด้านดีไซน์จากมุมข้าง โครงสร้างของบีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition ล้วนผลิตด้วยวัสดุโลหะ ตามแบบฉบับมอเตอร์ไซค์คลาสสิก

นอกจากนี้ มาตรวัดความเร็วแบบอนาล็อกทรงกลม พร้อมจอแสดงสถานะการขับขี่ที่ปรากฎให้เห็นเฉพาะเวลาเปิดไฟ ได้รับการออกแบบมาเพื่อเสริมลุคคลาสสิกของบีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition โดยเฉพาะ โดยที่ยังมอบเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมายที่ผสานเข้ากับดีไซน์สุดคลาสสิกได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นจอแสดงสถานะเกียร์และข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัล ไฟหน้า Adaptive LED แบบใหม่ พร้อมระบบ Daytime Riding light และ Headlight Pro ในโคมโลหะคุณภาพสูง และไฟเลี้ยว LED ที่ออกแบบเป็นชิ้นเดียวกับไฟท้าย สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้แก่บีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition

บีเอ็มดับเบิลยู R 18 First Edition นี้ มาในสีดำ Black Storm Metallic ตัดกับลายเส้นสีขาวบนตัวถัง ชิ้นส่วนโครเมียม ลูกเล่นป้ายสลัก BMW บนเบาะที่นั่ง และป้ายสลักโครเมียม “First Edition” ข้างตัวถัง นอกจากนี้ เหล่าไบค์เกอร์ที่ต้องการเสริมลุคคลาสสิกแบบพันธุ์แท้ ยังสามารถเลือกเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์สำหรับขับขี่มอเตอร์ไซค์ในคอลเล็กชัน Ride & Style เพื่อสร้างสุนทรียภาพในการขับขี่ครอบคลุมทุกมิติของไลฟ์สไตล์มากยิ่งขึ้น

สำหรับราคาของ BMW R 18 First Edition จะจำหน่ายอยู่ที่ 1,150,000 บาท และผลิตขึ้นที่โรงงานที่เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน ท่านใดสนใจสามารถสัมผัสคันจริงได้ที่โชว์รูมบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ทั่วประเทศ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส