หลังจากที่ Huawei Mate 10 Pro ได้เปิดตัวในต่างประเทศมาสักระยะหนึ่งแล้ว ก็ถึงเวลาที่ราคาไทยจะออกสักที​ โดยเปิดตัวที่ราคา 27,900 บาทสำหรับความจุ 128 GB พร้อม RAM 6 GB ซึ่งราคานี้เท่ากับราคาของ Huawei Mate 9 Pro ที่เปิดตัวในปีที่แล้ว ไม่ได้อัปราคาขึ้นแบบยี่ห้ออื่น เพียงแต่ในปีนี้หัวเว่ยแจ้งว่าจะไม่ทำตลาด Huawei Mate 10 รุ่นปกติในไทยโดยจะทำตลาดแค่ Mate 10 Pro และ Mate 10 Porsche Design เท่านั้น

ราคาสวยๆ ของ Huawei Mate 10 Pro (นี่ตัวท็อป เข้าใจไหม)

สรุปจุดเด่นของ Huawei Mate 10 Pro

ประสิทธิภาพตัวท็อปของ Mate 10 Pro

ด้วย CPU ตัวใหม่คือ Kirin 970 ชิปตัวแรกของโลกที่มี NPU หรือหน่วยประมวลผลปัญญาประดิษฐ์อยู่ภายใน จึงทำให้ทำงานเกี่ยวกับการรับรู้เรื่องต่างๆ ได้เร็วขึ้นเพราะถูกสร้างมาเฉพาะทางในเรื่องนี้ และสามารถประหยัดพลังงานได้สูงสุด 50% จากชิปรุ่นเดิม

ซึ่งภายใน Kirin 970 จะประกอบไปด้วย

  • ​CPU เพื่องานคำนวณตัวเลข และทำงานทั่วไป โดยทำงานเร็วกว่ารุ่นเดิม 20%
  • GPU เป็น Mali-G72 MP12 ทำงานเพื่อสร้างภาพกราฟิกโดยเฉพาะ
  • NPU (Neural Network computing) ทำงานเกี่ยวกับการรับรู้ได้เร็ว รับรู้ว่าภาพต่างๆ คืออะไร ทำให้ทำงานได้เร็วกว่า กินไฟน้อยลงกว่าให้ CPU ทำงานในจุดนี้ นอกจากนี้ยังสามารถเรียนรู้การทำงานของผู้ใช้ เพื่อทำให้แอปที่ใช้บ่อยรับทรัพยากรมากขึ้น ทำงานเร็วขึ้น แม้ใช้ไปนานเป็นปี ระบบก็ยังทำงานเร็วอยู่

ความสามารถด้านการเชื่อมต่อของ Huawei Mate 10 Pro ที่จัดเต็มแบบบ้าระห่ำมาก

นอกจากนี้ Huawei Mate 10 Pro ยังอัดความสามารถอื่นๆ มาเต็มที่ ให้สมกับความเป็นสมาร์ทโฟนตัวท็อปประจำปีนี้

  • รองรับ 4.5G ทำความเร็วสูงสุดได้ 1.2 Gbps (CAT 18) และรองรับ 4G ทั้ง 2 ซิม ตัวแรกของโลก
  • หัวเว่ยเคลมว่าปรับปรุงระบบ GPS ไปเยอะมากในรุ่นนี้ จนทำงานได้ดีที่สุดแล้ว เจอใต้ทางด่วน เจออุโมงค์ไม่หวั่น ก็ยังนำทางได้สบายๆ
  • แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh แถมปรับปรุงจนอึดกว่า Huawei Mate 9 อยู่ 30%
  • เทคโนโลยี Huawei Super charge ใช้เวลา 30 นาทีอัดไฟได้ 58% พร้อมการันตีว่าปลอดภัยโดย TÜV Rheinland (องค์กรทดสอบด้านความปลอดภัยของเยอรมัน) ผ่านการทดสอบเครื่องและแบตเตอรี่อย่างหนักจนมั่นใจว่าเครื่องจะไม่ระเบิด

Huawei Mate 10 การันตีว่าปลอดภัยโดย TÜV Rheinland

กล้องที่เก่งที่สุดของหัวเว่ย

ในฐานะที่ Huawei Mate 10 Pro เป็นมือถือที่ Huawei พัฒนากับ Leica เป็นรุ่นที่ 4 แล้ว ความสามารถก็ถือว่าเป็นที่สุดของสมาร์ทโฟนจากหัวเว่ยแล้วครับ ไม่มีมือถือรุ่นไหนจากหัวเว่ยที่ถ่ายภาพดีกว่าตระกูล Mate 10 อีกแล้วในตอนนี้ โดยประกอบด้วย

  • กล้อง 2 เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างที่สุดในมือถือตอนนี้คือ f/1.6 เลนส์หนึ่งเป็นเซนเซอร์ขาวดำ 20 ล้านพิกเซล อีกตัวหนึ่งเป็นเซนเซอร์สี 12 ล้านพิกเซล พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวด้วยเลนส์ทั้งคู่ (OIS)
  • มี ISP (Image Signal Processor) สองตัว ทำให้ถ่ายภาพเร็วขึ้น ลด Noise เก่งขึ้น พร้อมระบบโฟกัส 4 แบบทำงานร่วมกันคือ PDAF, CAF, Laser Focus, Depth Auto Focus

จุดเด่นของ Huawai Mate 10 คือมีหน่วยประมวลผล AI เฉพาะ จึงทำให้เรื่องกล้องนำ AI มาใช้ปรับปรุงเยอะมาก

เอากล้องไปส่องตัวหนังสือ ก็เป็นโหมดถ่ายตัวอักษร (ขึ้นไอคอนตัว T ที่มุม)

  • AI พิจารณารูปแบบการถ่ายภาพให้เหมาะสม คิดภาพต่อภาพ ทำให้การตั้งค่าเหมาะสมที่สุด โดยเรียนรู้กับภาพมากกว่า 100 ล้านภาพ เพื่อเรียนรู้ว่าภาพนี้คืออะไร ปรับโหมดให้ถูกต้อง เช่นถ่ายคน ถ่ายสุนัข ถ่ายแมว (แยกกันนะโหมดหมากับแมว) ถ่ายพระอาทิตย์ตก ถ่ายพืช ถ่ายดอกไม้ ถ่ายกลางคืน ถ่ายอาหาร ถ่ายข้อความ โดยที่แอปกล้องจะขึ้นสัญลักษณ์บอกว่ากล้องพิจารณาใช้โหมดอะไรอยู่
  • AI Selfie ช่วยถ่ายภาพเซลฟี่ได้ดีขึ้น
  • AI Zoom ทำให้ซูมภาพได้เก่งขึ้น รับรู้ว่าภาพที่กำลังซูมคืออะไร แล้วหาทางปรับให้เหมาะสม เช่นซูมข้อความ ก็หาทางปรับข้อความให้คม

ประสบการณ์การใช้งาน Huawei Mate 10 Pro ที่ดี

ฝาหลังสวยๆ ของ Huawei Mate 10 Pro

นอกจากความแรงและกล้องอย่างแจ่มแล้ว ประสบการณ์การใช้ก็เป็นเรื่องที่หัวเว่ยคำนึงถึง โดยเฉพาะเมื่อ Mate 10 Pro เป็นตัวท็อปรุ่นแรกของหัวเว่ยที่ใช้จอแบบ 18:9 ปูไปเกือบเต็มพื้นที่ด้านหน้า ก็ต้องออกแบบการใช้งานให้เหมาะสม เช่นใช้จอในแนวนอน บางแอปจะแบ่ง 2 คอลัมน์ให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น (อย่างแอปแชทก็เลือกผู้แชทได้ในคอลัมน์ซ้าย ส่วนพูดคุยในคอลัมน์ขวา นอกจากนี้ก็มีรายละเอียดอื่นๆ

  • PC Mode ใช้แค่สาย USB-C to HDMI ก็ต่อจอได้แล้ว ซึ่งตัว Mate 10 จะกลายเป็น Virtual Touchpad พร้อมคีย์บอร์ดให้เลย โดยไม่ต้องต่อคีย์บอร์ดและเมาส์ก็ทำงานได้ หรือจะทำงานให้สะดวกก็ต่อเป็น Hub เพื่อใช้คีย์บอร์ดก็ได้
  • รองรับ Device manager สำหรับการใช้งานในองค์กร
  • รองรับเสียงระดับ Hi-Res 384 K/32bit
  • รองรับ Codec เสียงสำหรับ Bluetooth ตัวเทพอย่าง aptX HD และ LDAC (กรี๊ดดด)

แต่ไม่มีช่อง 3.5 mm นะก๊ะ

  • ระบบ Huawei Easy Talk ใช้ AI พิจารณาเสียง ตัดเสียงรบกวน เน้นเสียงผู้ใช้ให้ดังขึ้นแม้จะพูดกระซิบ
  • แปลภาษาด้วย AI ภายในเครื่อง เชื่อมต่อ Cloud น้อยลง ทำงานออฟไลน์ได้ โดยทำงานร่วมกับ Microsoft Translate
  • ​EMUI 8.0 พร้อม Android 8
  • แต่ไม่รองรับ microSD และไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 mm นะ (ในกล่องมีหูฟัง USB-C แถมมาด้วย)

ระบบแปลภาษาภายในเครื่องของ Huawei Mate 10 Pro

ดีไซน์ของ Huawei Mate 10 Pro

เรื่องดีไซน์ก็เป็นอีกเรื่องที่หัวเว่ยเน้นมากในรุ่นท็อป โดยปีนี้ใน Huawei Mate 10 Pro ใช้จอขนาด ​6 นิ้ว รองรับ HDR สัดส่วน 18:9 ที่ปูจนเต็มพื้นที่ด้านหน้าเครื่อง แต่ใช้ความละเอียดแค่ full HD+ เพราะมองว่าจอละเอียดกว่านี้ก็เห็นความแตกต่างไม่เยอะ แต่ที่แย่ลงเยอะคืออายุแบตเตอรี่ จากใช้ได้งาน 2 วัน อาจจะเหลือแค่วันเดียว

ด้านหลัง Huawei Mate 10 Pro มันเงา เป็นมิตรกับรอยนิ้วมือ

นอกจากนี้ในส่วนของดีไซน์เครื่องก็มีลวดลายอยู่ในตัวเนื้อบอดี้ มีฝาหลังที่โค้งรับกับมือ พร้อมผ่านมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นที่ IP67 ตกน้ำไม่เป็นอะไร

โดย Huawei Mate 10 Pro ตั้งราคาไว้ 27,900 จะเริ่มให้ Pre-Order ระหว่างวันที่ 18-26 พ.ย.นี้ โดยช่วงเริ่มต้นจะมีให้เลือก 2 สีในไทยคือ

  • สีน้ำเงิน Midnight Blue
  • สีน้ำตาล Mocha Brown (น่าเสียดายที่ไม่มีหมีบราวน์อยู่หลังเครื่อง :P)

และจะประกาศของแถมในช่วง Pre-order ให้ทราบเร็วๆ นี้ครับ ส่วนตัวยิ่งกว่าท็อปคือ Porsche Design ที่ให้ความจุมา 256GB ตั้งราคาอยู่ที่ 49,990 บาท และมีแค่ 15 เครื่องในไทยเท่านั้น เริ่มพรีออเดอร์ตั้งแต่วันนี้ถึง 29 พ.ย. จ้า

แม้แอดคิดว่าถ่ายพริตตี้กับเครื่อง Mate 10 Pro น่าจะดีกว่า แต่เราก็ควรมีภาพเตมีไว้บ้าง เผื่อดูคลิปพรีวิวของคิวด้านล่างจะได้เอาไปเคลมได้

Play video