Vivo ไทยเปิดตัว Vivo V20 Pro 5G อย่างเป็นทางการ โดยจุดเด่นของรุ่นนี้มีหลายอย่างคือเรื่องดีไซน์ ตัวเครื่องบางแค่ 7.39 มม. เท่านั้น ทำให้เป็นสมาร์ตโฟน 5G บางที่สุดในโลก (แต่สี Sunset Melody จะหนา 7.49 มม. หนาขึ้นอีกนิดหน่อย) และมีน้ำหนักเพียง 170 กรัม นอกจากนี้ยังรองรับ 5G ในไทยทันทีตั้งแต่แกะกล่อง แถมกล้องหน้ายังเป็นกล้องคู่ เลนส์หลัก 44 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์มุมกว้าง 8 ล้านพิกเซลด้วย
ดีไซน์ของ Vivo V20 Pro 5G
วีโว่มีปรับชิ้นส่วนภายใน 6 ชิ้นส่วนเพื่อเครื่องให้บางลงได้ เริ่มตั้งแต่กล้องหน้าที่ปรับให้บางลง ช่องใส่ซิมที่บางเพียง 0.24 mm แบตเตอรี่ก็บางลงแต่มีความจุ 4000 mAh ซึ่งก็สามารถใช้งานได้สบายๆ ทั้งวัน ส่วนตัวหน้าจอเป็นแบบ AMOLED มีขนาด 6.44 นิ้ว สัดส่วน 20:9 พร้อมรองรับ HDR10 ชอบจอล่างบางลง สัดส่วน 91.2%
Vivo V20 Pro 5G มี 3 สีคือ
- Sunset Melody สีส้ม-ม่วง-ฟ้าไล่เฉดแรงบันดาลใจจากพระอาทิตย์ตกดิน
- Midnight Jazz สีดำไล่โทนอ่อน-เข้ม
- Moonlight Sonata สีขาวนวลเหมือนแสงจันทร์
กล้องของ Vivo V20 Pro 5G
ตัวกล้องหน้าตัวหลักใช้เซนเซอร์ GH-1 ความละเอียด 44 ล้านพิกเซล f/2.0 พร้อมโฟกัสเร็วเพียง 0.01 วินาที พร้อม Eye auto-focus ค้นหาและโฟกัสดวงตา ส่วนกล้องหน้ามุมกว้าง 105 องศามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.28
โดยความสามารถของกล้องมีเพียบตั้งแต่ Super Night Selfies, AI Extreme Night Mode ปรับภาพถ่ายกลางคืนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น, ฟิลเตอร์แต่งหน้า, มีความสามารถ Smaller Head ปรับศีรษะให้เล็กลง แต่ยังดูเป็นธรรมชาติอยู่, Double Exposure ถ่ายภาพจากกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกันเพื่อนำมาซ้อนกัน
กล้องหน้าสามารถถ่ายวิดีโอ 4K 60 fps ได้ และถ่าย SlowMotion 240 fps ได้ มีความสามารถ Streadiface Selfie Video ทำให้วิดีโอนิ่งขึ้น (โดยครอปวิดีโอเข้าไปอีกหน่อย) พร้อมโหมด Dual-View Video สามารถถ่ายกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกัน
ส่วนกล้องหลังประกอบด้วยกล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล f/1.89 พร้อมกล้องมุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล f/2.2 ที่ทำหน้าที่เป็นเลนส์มาโครได้ด้วย และกล้อง Mono อีกตัว
ซึ่งความสามารถด้านการแต่งภาพด้วยซอฟต์แวร์นั้นก็จัดมาเต็มทั้ง AI Image Matting วิเคราะห์คนกับฉากหลังให้สามารถไดคัทคนหรือเปลี่ยนฉากหลังได้อย่างเร็ว หรือ Dynamic Sky สามารถเปลี่ยนท้องฟ้าในภาพได้
ประสิทธิภาพของ Vivo V20 Pro 5G
สมาร์ตโฟนรุ่นนี้ใช้ชิป Snapdragon 765G ที่ 7nm พร้อมการปรับแต่งซอฟต์แวร์พิเศษของ Vivo ที่ทำให้ประสิทธิภาพเครื่องออกมาดี โดยมาพร้อมแรม 8 GB และหน่วยความจำ 128 GB ภายในมี Vapor Chamber Liquid Cooling ระบายความร้อนด้วยของเหลว ทำให้เล่นเกมได้โดยที่ความเร็วไม่ตกเมื่อเครื่องร้อน
ส่วนของแบตเตอรี่มาพร้อม Vivo FlashCharge 33 วัตต์ สามารถชาร์จ 30 นาทีได้แบต 65% ซึ่งแบตเตอรี่ 4,000 mAh ของเครื่องก็สามารถใช้งานทั้งวันได้โดยไม่ต้องกลัวแบตหมดระหว่างวัน
Vivo V20 Pro 5G นั้นรองรับ 5G ในประเทศไทยทันทีตั้งแต่แกะกล่อง โดยรองรับทั้งแบบ SA (Stand Alone) และ NSA (Non Stand Alone) พร้อมออกแบบเสาอากาศแบบ 360 องศา ทำให้รับสัญญาณได้ดี
สมาร์ตโฟน V20 ซีรีส์ จาก Vivo เปิดตัวก่อนในรุ่น V20 Pro 5G (Vivo V20 รุ่นธรรมดาจะตามมาเร็วๆ นี้) โดยจะเปิดให้สั่งจองล่วงหน้า ตั้งแต่วันที่ 21-29 กันยายน 2563 และจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศในวันที่ 30 กันยายน 2563 ราคา 14,999 บาท ขาย 30 กันยายนนี้ ซึ่งมีราคาจากโอเปอเรเตอร์เริ่มต้นแค่ 4989 บาทเท่านั้น
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส