Apple เปิดตัว iPhone X ที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ใหม่แบบหมดจด หน้าจอไร้ขอบก็จริง แต่มีรอยบากที่ช่วงแรกอาจจะเกะกะตาประมาณหนึ่ง ซึ่ง Apple ก็ได้ทำให้รอยบากนี้เล็กลงใน iPhone 13 แต่เนื่องจากข้อจำกัดของเทคโนโลยีโดยเฉพาะการวางกล้องไว้ใต้หน้าจอยังไม่ดีเหมือนกับกล้องแบบดั้งเดิม ทำให้ Apple เลือกคงรอยบากไว้ แต่ทำให้มันเนียนขึ้นกว่าเดิมด้วยฟีเจอร์ Dynamic Island ครับ

ฟีเจอร์ Dynamic Island มองเผิน ๆ เหมือนจะไม่มีอะไร แต่ถือว่าเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่กลายเป็นจุดแข็งของ iPhone 14 Pro เลยล่ะครับ ไม่ใช่ปล่อยให้มีพื้นที่สีดำไร้ประโยชน์ปรากฏบนหน้าจอแบบเสียเปล่า แต่เปลี่ยนพื้นที่สีดำนั้นให้กลายเป็นฟีเจอร์ขึ้นมาเลย อาศัยการทำงานร่วมกันระหว่างซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์

Dynamic Island เป็นลูกเล่นที่จะทำงานร่วมกับรอยบาก แสดงผลสอดคล้องกับการทำงานของ iPhone 14 Pro ในขณะนั้น เช่น เมื่อเราเปิดเพลง ก็จะมีคอนเทนต์เพลงขึ้นมา สามารถย่อขยายได้ด้วย

หรือระหว่างที่เราใช้งานปกติ เมื่อมีคนโทรเข้ามาก็จะมีการแสดงผลเป็นแอนิเมชันขยายมาจากรอยบาก แสดงข้อความว่าใครโทรเข้ามา พร้อมให้เรากดรับสายหรือวางสายได้ด้วย

แสดงผลคนโทรเข้า
แสดงผลการเชื่อมต่อ AirPods

แสดงผลระยะทางและรายละเอียดเส้นทางการเดินทางจากแอป Apple Maps

แสดงผลเมื่อมีการใช้งาน Face ID

แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกแอปที่จะสามารถใช้งาน Dynamic Island ได้ ปัจจุบันแอปที่รองรับการใช้งานร่วมกับ Dynamic Island ประกอบไปด้วย

  • Phone
  • Music
  • Maps
  • Wallet
  • Voice Memos
  • Clock
  • Lyft

คาดว่าในอนาคตแอปอื่น ๆ ก็จะรองรับการใช้งานกับ Dynamic Island มากขึ้นกว่าเดิมครับ หากใครอยากได้ฟีเจอร์นี้ใน iPhone รุ่นเก่า ไม่ยากเลยครับ เตรียมเงินซื้อ iPhone 14 Pro เริ่มจองวันที่ 9 กันยายนนี้!

https://www.youtube.com/watch?v=WuEH265pUy4

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส