หลังจากที่รอกันมาเนิ่นนาน ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง แอปเปิ้ล (Apple) ประกาศเปิดตัวซีรีส์ iPhone 13 เรือธงรุ่นใหม่ในงานอีเวนต์สตรีมส่งตรงจากแคลิฟอร์เนีย ไลน์อัป 4 รุ่น 3 ขนาดเช่นเดียวกับ iPhone 12 ตรงกับข่าวลือต่าง ๆ ก่อนหน้านี้เป๊ะ ๆ เช่นเดียวกันกับรุ่นที่แล้ว ที่มีข่าวลือออกมาเหมือนกัน โดยจะแบ่งเป็น 4 รุ่น iPhone 13 mini (5.4 นิ้ว) และ iPhone 13 (6.1 นิ้ว) และรุ่นโปร iPhone 13 Pro (6.1 นิ้ว) และ iPhone 13 Pro Max

https://www.youtube.com/watch?v=-FbG-y9Me08

ซีรีส์ iPhone 13 จะมาพร้อมกับชิป A15 Bionic ที่มีประสิทธิภาพที่ดีและประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น ที่ใช้เทคโนโลยี 5 นาโนเมตร ที่มีแกนสมอง CPU ถึง 6 แกน แบ่งเป็นแกนประสิทธิภาพ และแกนสำหรับพลังงาน ในส่วนของด้านกราฟิกสำหรับ 2 รุ่นเล็กจะได้แกน GPU ไป 4 แกนเท่านั้น ในขณะที่ 2 รุ่นโปรจะได้ 5 แกน

อีกทั้งยังมาพร้อมกับหน้าจอ Super Retina XDR ให้แสงสว่างที่มากขึ้นกว่าเดิม พร้อมการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดคือมีการพัฒนารอยบากด้านบนที่มีความกว้างที่น้อยลง เนื่องจากมีการรีดีไซน์ระบบ TrueDepth ให้เล็กลง

ภายในของตัวเครื่องมีการจัดระเบียบใหม่เพื่อให้มีที่สำหรับแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น และระบบกล้องใหม่ที่มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น

iPhone 13 mini และ iPhone 13

iPhone 13 mini และ iPhone 13 จะมาพร้อมกับกล้องคู่เช่นเดิม เลนส์ Ultra Wide 12 ล้านพิกเซล ƒ/2.4 และเลนส์ Wide 12 ล้านพิกเซล ƒ/1.6 แต่ในครั้งนี้จะมีการวางตัวของเลนส์เป็นแนวทแยงแทนแนวตั้งในรุ่นที่ผ่านมา รวมถึงยังมีเทคโนโลยีกันสั่น Sensor-Shift OIS ที่ปีที่แล้วมีการเปิดตัวใน iPhone 12 Pro Max และยังสามารถถ่ายวิดีโอในโหมด Cinematic ได้ ซึ่งสามารถเลือกจุดโฟกัสในวิดีโอทีหลังได้ ในคุณภาพมาตรฐาน Dolby Vision HDR ด้วย แต่โหมดนี้จะถ่ายได้ความละเอียด 1080p 30 fps เท่านั้น

https://www.youtube.com/watch?v=8Tl1RL8MRCA

iPhone 13 mini และ iPhone 13 มีวางจำหน่ายใน 3 ความจุ 128GB, 256GB และ 512 GB ใน 5 สี สีชมพู, สีน้ำเงิน, สีดำ, สีสตาร์ไลต์, และสีแดง (PRODUCT)RED

  • iPhone 13 mini
    • 128 GB ราคา 25,900 บาท
    • 256 GB ราคา 29,900 บาท
    • 512 GB ราคา 37,900 บาท
  • iPhone 13
    • 128 GB ราคา 29,900 บาท
    • 256 GB ราคา 33,900 บาท
    • 512 GB ราคา 41,900 บาท
  • โดยรวมแล้วราคา iPhone 13 ถูกลงกว่า iPhone 12 เพราะความจุเริ่มต้นที่ 128 GB

iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max

ไฮไลต์ของ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max คือมาพร้อมกับจอ ProMotion ที่จะให้ความนุ่มลื่นของภาพได้ตั้งแต่ 10Hz และสูงสุดถึง 120Hz

iPhone 13 Pro จะมาพร้อมกับกล้อง 3 ตัวเช่นเดิม Wide 12 ล้านพิกเซล ƒ/1.5, Ultra Wide 12 ล้านพิกเซล ƒ/1.8 กว้างถึง 120 องศา และ Telephoto ซูม 3 เท่า 12 ล้านพิกเซล ƒ/2.8 มีเทคโนโลยีกันสั่น Sensor-shift optical image stabilization (OIS) บนทั้ง 2 รุ่น รองรับการถ่ายวิดีโอในรูปแบบ ProRes หรือ Dolby Vision และด้วยโหมด Cinematic ทำให้การถ่ายวิดีโอบน iPhone ยกระดับขึ้นไปอีกให้เทียบเท่ากับกล้องโปร คือเลือกจุดโฟกัสหลังจากถ่ายได้ แต่ก็ได้ความละเอียด 1080p 30 fps เหมือน iPhone 13 (ส่วนการถ่าย Dolby Vision ปกติจะถ่ายได้ 4K 60 fps) สามารถถ่ายทำ แก้ไข และแชร์ วิดีโอ ProRes หรือ Dolby Vision ได้โดยตรงจาก iPhone 13 Pro

ซึ่งรุ่นโปรนี้ยังสามารถใช้กล้องมุมกว้างมาก ถ่ายภาพมาโครในระยะ 2 cm ได้ด้วย

iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max มีวางจำหน่ายใน 4 ความจุ 128 GB, 256 GB, 512 GB, และ 1 TB (1,024 GB) ใน 5 สี สีน้ำเงิน (Sierra Blue), ทอง, เงิน และกราไฟต์

  • iPhone 13 Pro
    • 128 GB ราคา 38,900 บาท
    • 256 GB ราคา 42,900 บาท
    • 512 GB ราคา 50,600 บาท
    • 1 TB (1,024 GB) ราคา 58,900 บาท
    • แพงกว่าเดิม 2,000 บาท!
  • iPhone 13 Pro Max
    • 128 GB ราคา 42,900 บาท
    • 256 GB ราคา 46,900 บาท
    • 512 GB ราคา 54,900 บาท
    • 1 TB (1,024 GB) ราคา 62,900 บาท
    • แพงกว่าเดิม 3,000 บาท!

ทั้งนี้ iPhone 13 ทั้ง 4 รุ่น ในประเทศไทยจะสามารถสั่งจองได้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ และจะวางขายในวันที่ 8 ตุลาคมนี้เลย

สรุป iPhone 13 ที่น่าผิดหวัง

เรามองว่า iPhone 13 เป็นไอโฟนที่ค่อนข้างน่าผิดหวัง เหมือนแอปเปิ้ลวางแผนพัฒนาไอโฟนรุ่นนี้เมื่อสัก 3 ปีที่แล้ว แล้วก็ปรับปรุงความเร็วเครื่อง ปรับปรุงกล้องตามรอบการพัฒนา แต่ไม่ได้ปรับแผนงานพัฒนาไอโฟนให้เข้ากับยุคสมัยเลย อย่างไม่มี Touch ID ซึ่งเราอยู่กับ Covid มาเป็นปีๆ แล้ว แต่แอปเปิ้ลก็ยังใช้แนวทางให้ Apple Watch ช่วยปลดล็อกให้เหมือนเดิม ซึ่งใครที่เคยใช้ก็จะรู้ว่ามันสู้ Touch ID ไม่ได้ เพราะ Apple Watch ช่วยปลดล็อกแอปธนาคารหรือใช้จ่ายเงินไม่ได้ และ ไม่มี USB-C ซึ่งแอปเปิ้่ลก็คงยื้อ Lightning ได้กับรุ่นนี้เป็นตัวสุดท้ายแล้ว ใน iPhone 14 ควรจะเป็น USB-C ได้แล้ว

https://www.youtube.com/watch?v=m43rh-pI0P0
ไหนแอปเปิ้ลไม่แนะนำให้เอา iPhone ไปติดมอเตอร์ไซค์ไง

อ่านเพิ่มเติม

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส